การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีการดวลแข้งทั้งหมด 4 คู่ 4 เวลาเหมือนเดิม ในยุคที่จะต้องถ่ายทอดสดทุกนัด ช่วงของการระบาดโควิด-19 โดยเกมนี้มีหลายต่อหลายสนามได้อนุญาตให้มีแฟนบอลเข้าชมได้ตามโปรโตคอลของรัฐบาล ซึ่งปรีวิวทั้งหมดมีดังนี้

19.30 น. เบิร์นลีย์-เอฟเวอร์ตัน : “เดอะ คลาเร็ตต์”ที่ชนะเป็นแล้ว และได้กลับมาเล่นในถิ่นของตัวเอง ยังคงไม่มี แจ็ค คอร์ก มิดฟิลด์ตัวรับที่บาดเจ็บ นอกจากนั้นต้องเช็คความฟิตของแข้งตัวหลักบางราย ที่เหลือไม่มีปัญหาอะไรพร้อมลงเล่นได้หมด นำโดย เบน มี, เจมส์ ทาร์คอฟสกี้,แอชลีย์ เวสต์วู้ด, โยฮัน เบิร์ก กุ๊ดมุนด์สสัน, ดไวท์ แม็คนีล, เจย์ โรดริเกซ และคริส วู้ด

“ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน” 5 เกมหลังชนะแค่นัดเดียวแถมแพ้ไปถึง 4 เกมล่าสุดพ่ายคารังให้กับ “ยูงทอง” ลีดส์ ยูไนเต็ด 0-1 เกมนี้หมดสิทธิ์ใช้งาน เซมุส โคลแมน และลูก้าส์ ดีญ สองฟูลแบ๊กที่ยังมีปัญหาอาการบาดเจ็บ ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ถือว่าสมบูรณ์ เมื่อไม่มีฟูลแบ๊กคาดว่า คาร์โล อันเชล็อตติยังยึดระบบ 3-4-3 วาง อัลลัน คุมแดนกลางร่วมกับอับดูลาย ดูคูเร่ สามแนวรุกยังเหมือนเดิมมี ฮาเมส โรดริเกซ เล่นกับโดมินิค คัลเวิร์ต-ลูวิ่น และ ริชาร์ลิซอน

11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม เบิร์นลีย์ (4-4-2):นิค โป๊บ, แมทธิว ลอว์ตัน, เจมส์ ทาร์คอฟสกี้, เบน มี,ชาร์ลี เทย์เลอร์, โยฮัน เบิร์ก กุ๊ดมุนด์สสัน, แอชลีย์ เวสต์วู้ด,จอช เบนสัน, ดไวท์ แม็คนีล, เจย์ โรดริเกซ และคริส วู้ด, เอฟเวอร์ตัน (3-4-3): จอร์แดน พีคฟอร์ด, เบน ก็อดฟรีย์,เยอร์รี่ มิน่า, ไมเคิ่ล คีน, เบน เดวีส, อัลลัน, อับดูลายดูคูเร่, อเล็กซ์ อีโวบี้, ฮาเมส โรดริเกซ, โดมินิค คัลเวิร์ต-ลูวิ่น และริชาร์ลิซอน

22.00 น. แมนฯซิตี้-ฟูแล่ม : “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ซิตี้ เพิ่งฟอร์มโหดถล่ม เบิร์นลีย์ มา 5-0 ในเวลานี้รั้งอันดับที่ 11 ของตาราง ความพร้อมรอเช็คความฟิตของ เซร์คิโอ กุน อเกวโร่ หัวหอกอาร์เจนไตน์แค่รายเดียวเท่านั้น ที่เหลือพร้อมลงเล่นทั้งหมด บรรดาแข้งตัวหลักที่ได้พักมาจากเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก จะคืนตัวจริงทั้งหมด คาดว่ามาในระบบ 4-2-3-1 โรดรี้ คุมแดนกลางร่วมกับ อิลคาย กุนโดกันแนวรุกใช้ ริยาด มาห์เรซ, เควิน เดอ บรอยน์ และฟิล โฟเด้น โดยมี เซร์คิโอ อเกวโร่ ลุ้นปักหอกเป้า

ฟูแล่ม ทีมน้องใหม่ที่เพิ่งบุกเซอร์ไพรส์ล้ม เลสเตอร์ ซิตี้ ได้ถึงบ้าน เกมนี้ไม่มี เทเรนซ์ คองโกโล่ และเคนนี่เตเต้ ที่ยังบาดเจ็บอยู่ แต่ไม่น่าจะส่งผลอะไรเพราะแกนหลักอยู่กับครบทุกตำแหน่ง คาดว่ากุนซือ สก็อตต์ปาร์คเกอร์ ยังจัดทัพชุดเดิม นำโดย แฮร์ริสัน รีด, อังเดร-ฟร้องค์ซามโบ้ อองกิสซ่า, รูเบน ลอฟตัส-ชีค, อเดโมล่า ลุคแมน และอีวาน คาวาเลโร่

11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม แมนฯซิตี้ (4-2-3-1): เอแดร์ซอน, ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, รูเบน ดิอาซ, เบนฌาแม็ง เมนดี้, โรดรี้, อิลคาย กุนโดกัน, ริยาด มาห์เรซ, เควิน เดอ บรอยน์, ฟิล โฟเด้น และเซร์คิโอ อเกวโร่, ฟูแล่ม (5-4-1): อัลฟอนซ์ อเรโอล่า, บ๊อบบี้ คอร์โดว่า-รีด, โอล่า ไอน่า, โยอาคิม แอนเดอร์เซ่น, โทซิน อดาราบิโอโย่, แอนโทนี่โรบินสัน, รูเบน ลอฟตัส-ชีค, แฮร์ริสัน รีด, อังเดร-ฟร้องค์ ซามโบ้ อองกิสซ่า, อเดโมล่า ลุคแมน และอีวาน คาวาเลโร่

00.30 น. เวสต์แฮม-แมนฯยูไนเต็ด : เกมนี้จะเป็นคู่แรกที่แฟนฟุตบอลจะได้เข้าชมสนามนับตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา จากเหตุโควิด-19 ระบาด โดยอนุญาตให้กองเชียร์เข้าสู่สนามได้ทั้งหมด 2,000 คนด้วยกัน

“ขุนค้อน” ภายใต้การคุมทีมของ เดวิด มอยส์ ที่ทำผลงานได้อย่างต่อเนื่องเกมล่าสุดเอาชนะ แอสตัน วิลล่า มา 2-1 ขึ้นมารั้งอันดับ 5 ของตาราง เกมนี้น่าจะยังไม่มี อันเดรย์ยาร์โมเลนโก้ แนวรุกยูเครนที่อยู่ในระหว่างกักตัวหลังติดโควิด-19 ส่วน มิคาอิล อันโตนิโอ เกมที่แล้วได้ลงเล่นแต่ไม่สมบูรณ์ คาดว่าเกมนี้อาจจะต้องนั่งสำรองเปิดทางให้เซบาสเตียน ฮัลแลร์ ลงประสานงานกับ จาร์ร็อด โบเว่น และปาโบล ฟอร์นาล์ส นอกนั้นไม่มีปัญหาอะไรจัดชุดใหญ่เต็มสูบ

ทีมเยือน “ปีศาจแดง” เพิ่งผ่านเกมกลางสัปดาห์ด้วยการพ่ายคาบ้านให้กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 3-1 แต่เกมลีกถือว่าทำได้ดีพลิกนรกแซง เซาแธมป์ตันมา 3-2 เกมนี้รอเช็คความฟิตของ มาร์คัส แรชฟอร์ด และลุค ชอว์ หากลงเล่นไม่ได้ เชื่อว่าโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ จะปรับทัพกลับมาเล่น 4-3-2-1 เนมานย่า มาติช คุมแดนกลางร่วมกับ ปอล ป๊อกบา และดอนนี่ ฟาน เดอ เบค โดยมี บรูโน่ แฟร์นันด์ส ยืนเป็นเพลย์เมกเกอร์อยู่ด้านหลังของคู่หัวหอกอย่าง เอดินสัน คาวานี่ และอองโตนี่ มาร์กซิยาล

11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม เวสต์แฮมฯ (3-4-3): ลูคัสซ์ ฟาเบี่ยนสกี้, อารอน แครสเวลล์, อังเจโล่ อ๊อกบอนน่า, ฟาเบียน บัลบูเอน่า, วลาดิเมียร์ คูฟาล, เดแคลน ไรซ์, โทมัส ซูเซ็ค, อาร์ธูร์ มาซัวกู,จาร์ร็อด โบเว่น, เซบาสเตียน ฮัลแลร์ และปาโบล ฟอร์นาล์ส,แมนฯยูไนเต็ด (4-3-2-1): ดาบิด เด เกอา, อารอน วาน-บิสซาก้า, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, อเล็กซ์ เตลลิส,
ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค, เนมานย่า มาติช, ปอล ป๊อกบา, บรูโน่แฟร์นันด์ส, เอดินสัน คาวานี่ และอองโตนี่ มาร์กซิยาล

03.00 น. เชลซี - ลีดส์ ยูไนเต็ด : เชลซี ที่รั้งอันดับ 3 ของตารางเกมล่าสุดโรเตชั่นทีมแต่ยังบุกไปถล่มเอาชนะ เซบีย่า มาได้ 4-0 เกมนี้ไม่มีรายงานผู้เล่นบาดเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามา ทำให้ แฟร้งค์ แลมพาร์ด สามารถจัดทัพได้ตามสะดวก คาดว่าบรรดาแข้งที่ได้พักจากเกมล่าสุดจะคืนตัวจริงทั้งหมด ยึดระบบการเล่นเดิม 4-3-3 ใช้ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ คุมแดนกลางร่วมกับ มัตเตโอ โควาซิซ และเมสัน เม้าท์แนวรุกเลือก ฮาคิม ซีเย็ค ประสานงานกับ ติโม แวร์เนอร์ โดยมี โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ที่ฟอร์มดีเบียด แทมมี่ เอบราฮัม ลงตัวจริง

ทางฝั่ง “ยูงทอง” ลีดส์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ มาร์เซโล่บิเอลซ่า ที่เคยมีประเด็นกับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด เรื่องการส่งสปายไปสืบข้อมูลสมัยที่ทั้งคู่คุมทีมในเดอะ แชมเปี้ยนชิพ เกมนี้สภาพทีมถือว่าพร้อมเช่นเดียวกันมีเพียงแค่ แจ็ค แฮร์ริสัน ที่ต้องรอเช็คความฟิตเท่านั้น ดูแล้วอาจจะหลุดไปนั่งสำรองดัน เอซก์ยาน อลิโอสกี้ ไปยืนเป็นปีกและถอย สจ๊วร์ต ดัลลาส ไปเล่นแบ๊กซ้ายแทน ที่เหลือไร้ปัญหากังวล นำโดย คาลวิน ฟิลิปป์ส,มาเตอุสซ์ คลิค, โรดรีโก้ โมเรโน่, ราฟินญ่า และแพทริค แบมฟอร์ด

11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม เชลซี (4-3-3): เอดูอาร์ เมนดี้,รีซ เจมส์, เคิร์ต ซูม่า, ติอาโก้ ซิลวา, เบน ชิลเวลล์, มัตเตโอโควาซิซ, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, เมสัน เม้าท์, ฮาคิม ซีเย็ค, โอลิวิเย่ร์ชิรูด์ และติโม แวร์เนอร์, ลีดส์ ยูไนเต็ด (4-4-1-1): อิลลาน เมสิเย่ร์,ลุค อายลิ่ง, โรบิน ค็อค, เลียม คูเปอร์, สจ๊วร์ต ดัลลาส, ราฟินญ่า, มาเตอุสซ์ คลิค, คาลวิน ฟิลิปป์ส, เอซก์ยาน อลิโอสกี้, โรดรีโก้ โมเรโน่ และแพทริค แบมฟอร์ด