เป็นครั้งแรกที่ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ผงาดขึ้นนำฝูงพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในซีซั่นนี้ และเป็นหนแรกในรอบกว่า 3 ปี หลังจากยกพลบุกไปปราบ เบิร์นลี่ย์ ถึงเทิร์ฟ มัวร์ 1-0 จากประตูชัยของ ปอล ป๊อกบา

ยูไนเต็ด เตะไปแล้ว 17 นัด มี 36 คะแนน พร้อมกับเป็นการนำฝูง ในเกมที่ 17 นับตั้งแต่ปี 2012-13 ภายใต้การคุมทัพของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ทำให้ขึ้นฝูงสำเร็จหายจากสารบบไปนานกว่าสามปี โดยพวกเขานำจ่าฝูงครั้งสุดท้าย คือ9 กันยายน 2017 หลังจากออกสตาร์ท 4 นัด เก็บไป 10 แต้ม เมื่อซีซั่น 2017-18

ผู้สื่อข่าวยิงคำถาม โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีมแมนฯยูไนเต็ด ว่า คุณจะได้ลุ้นแชมป์หรือไม่ เขาตอบว่า ฟุตบอลยังไม่ถึงครึ่งทางเลย!

“เรายินดีมากๆ ในทุกครั้งที่สามารทำคว้าได้ 3 คะแนน เราได้ประตูที่ควรจะได้ และชัยชนะที่สมควรเป็นของเรา ประตูที่เราทำได้นั้นยอดเยี่ยม มันมาจากการประสานงาน และสไตล์ที่ยอดเยี่ยม ปอล ป็อกบา เล่นได้ดีจริงๆ ในคืนนี้ แต่มันจะง่ายกว่าสำหรับเรา หากเราได้ประตูที่สอง แต่เราไม่ได้ทำประตูแบบนี้ได้ง่ายๆ อยู่แล้ว

“เรารู้สึกมั่นใจมากที่ได้ลงเล่นในเกมเยือน เวลาเล่นเป็นทีมเยือนเราทำได้ดีจริงๆ เราต้องเชื่อมั่นในตัวเองและเราทำได้เราทำได้ดีมาก มันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่แมทช์ต่อไป เราจะได้ทดสอบฝีเท้าของเรากับแชมเปี้ยน อย่าง ลิเวอร์พูล ในวันอาทิตย์นี้ พวกเขายอดเยี่ยมมาก และจะเป็นบททดสอบที่ดีที่สุดของเรา”

โซลชา คุมทัพ ยูไนเต็ด สถิตินอกบ้านในลีกซีซั่นนี้น่าสนมากๆ เมื่อลงเตะ 8 เกม ชนะถึง 7 เสมอ 1 และไร้พ่าย

ทางด้านบริษัทรับพนันถูกต้องตามกฎหมาย ได้หั่นราคาแชมป์ของ แมนฯยูไนเต็ด ที่เคยทะลุไปถึง 70-1 ตอนนี้ขยับมาเหลือต่ำสุดแค่ 9-2 เท่านั้น หรือแทง 2 ได้ 9 โดยที่ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล แชมป์เก่าหล่นมาเต็ง 2 อัตรา 11-4 ส่วนเต็ง 1 คือ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อัตราเหลือแค่ 5-6 หรือแทง 6 ได้แค่ 5 เท่านั้น

ทางด้าน “ดาบคู่” เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด กำชัยนัดแรกของซีซั่นนี้ได้สำเร็จแล้ว หลังจากรอมาจนถึงนัดที่ 18 เกม หลังจากบดเอาชนะ “สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ที่เหลือ 10 คนตั้งแต่นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ไปได้ 1-0 ทำให้ เชฟฯยูไนเต็ด เตะ 18 นัดมี 5 คะแนน และเป็นชัยชนะในลีกหนแรกรอบ 21 เกมอีกด้วย

บิลลี่ ชาร์ป ดาวยิงวัยดึกประจำทีม ที่คู่บุญกับ คริส ไวลเดอร์กุนซือ มาตั้่งแต่พาทีมคว้าแชมป์ดิวิชั่น 3 หรือ ลีก วัน เมื่อปี 2017 เป็นผู้พังประตูชัยจากจุดโทษในนาทีที่ 70

ส่วน “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน บุกไปเอาชนะ “หมาป่า” วูล์ฟส์ ถึงโมลินิวซ์ กราวน์ด 2-1 ได้ประตูจาก ลูก้า ดีญนาทีที่ 6 ก่อนที่เจ้าถิ่นจะตามตีเสมอจาก รูเบน เนเวส นาทีที่ 14 จากนั้น ทีมเยือนมาได้ประตูชัยในนาทีที่ 77 จาก ไมเคิล คีน

ทางด้านการดวลแข้งวันพฤหัสบดีนี้ มีการแข่งขัน 1 คู่ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล จะเปิดบ้านเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ทำศึกดาร์บี้แมทช์ กรุงลอนดอน เจอกับ “อินทรีผงาด” คริสตัล พาเลซ ในเวลา 03.00 น. โดยเจ้าถิ่นมี 23 แต้ม ส่วน พาเลซ 22 แต้ม

เจ้าถิ่นรอลุ้นอาการบาดเจ็บของ โตมัส ปาร์เตย์ กองกลางพันธุ์ดุ แต่ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ยังไม่พร้อมจะลงสนาม โดยมิเกล อาร์เตต้า กุนซือจะจัดทัพลงสนามด้วยระบบ 4-2-3-1ซึ่งแนวรุกยังให้ไอ้หนู เอมิล สมิธ-โรว์ เดินเกมตรงกลางขนาบด้วย ปิแอร์ เอเมอริค-โอบาเมยัง กับ บูกาโย่ ซาก้า ส่วนหน้าเป้าคืออเล็กซงดร์ ลากาแซตต์

ฝั่งผู้มาเยือนมีปัญหาตัวจริงอย่าง เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ ปีกขวาตัวเก่ง ที่เจ็บลงไม่ได้ และต้องเช็คฟิต แกรี่ เคฮิลล์ ปราการหลังจอมเก๋า หากลงไม่ได้ แอนดรอส ทาวน์เซนด์ จะเล่นปีกแทน ชลุปป์ และเจมส์ ทอมกินส์ จะยืนเซ็นเตอร์แทน เคฮิลล์ ร่วมกับ เชคู คูยาเต้ส่วนแนวรุก วิลฟรีด ซาฮา จะเล่นหน้ากับ คริสติยง เบนเตเก้