“ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสียตำแหน่งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกไปเป็นที่เรียบร้อย ในเกมที่พลิกล็อกเหลือเชื่อให้กับ “ดาบคู่” เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับสุดท้าย ในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดของตัวเอง 1-2
ความพ่ายแพ้นัดนี้ทำให้ แมนฯยูไนเต็ด พลาดโอกาสกลับไปนำจ่าฝูง และทำให้มีอยู่ 40 คะแนน จาก 20 นัดเป็นรองคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่ 1 คะแนนแต่ แมนยูฯ เตะมากกว่าแล้ว 1 เกม
สถิติบานตะไทในคู่นี้ก็คือ แมนฯยูไนเต็ด พลาดท่าแพ้ในถิ่นตัวเองไปแล้ว 4 จาก 10 นัด โดยสถิติแพ้มากสุดยุคพรีเมียร์ลีกคือปี 2013-14 7 หนนั้น แพ้ 7 เกม
แมนยูฯ แพ้ทีมจากจากยอร์คเชอร์ เป็นครั้งที่ 3 ในยุคพรีเมียร์ลีกที่ถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ก่อนหน้านี้คือแพ้ ลีดส์ในเอฟเอ คัพ ปี 2010 และแพ้ ยอร์ค ในลีกคัพ ปี 1996
ส่วน เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ทีมบ๊วยนั้นบุกมาชนะ แมนฯยูไนเต็ด ได้สำเร็จ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1973 หลังจากแพ้ที่นี่7 เกมรวด นอกจากนี้ยังเป็นการชนะนอกบ้านครั้งแรกในรอบ 16 เกมนับตั้งแต่ชนะ พาเลซ เมื่อกุมภาพันธ์ ปีที่แล้วโน่นเลย
“โซลชา”ระบุแค่สะดุดเท่านั้น
โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือของ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด กล่าวหลังจากทำทีมพลาดท่าปราชัยครั้งแรกในรอบ 13 เกม ทำให้พลาดการทวงฝูงคืนจาก “เรือใบสีฟ้า” แมสเชสเตอร์ ซิตี้ ระบุว่า คุณก็คิดเห็นเหมือนเขา เราได้เห็นเกมแบบพลิกล็อกลักษณะนี้มาเยอะมากในซีซั่นนี้
“ที่ผ่านมา เราคือทีมที่คงเส้นคงวาที่สุด และเราก็แค่สะดุดไปบ้างมันเท่านั้น เราเสียสองประตูทำให้เราต้องเล่นได้อย่าง มันไม่มีเหตุผลอะไรเท่าไหร่นัก สิ่งเดียวที่เราต้องทำก็คือ ลืมไปซะกับความผิดหวัง แล้วก็มาเริ่มกันใหม่”
“เรามีการตัดสินใจที่ผิดพลาดไปประมาณ 3-4 ครั้งในเกมนี้ ทำให้ผลลัพธ์ออกมายากลำบาก ดังนั้น ด้วยสถานการณ์ต่างๆ การพลิกผันของซีซั่นนี้ ผลสกอร์แปลกๆ คงจะไม่ได้รับคำถามเพิ่มจากการแพ้นัดนี้อีกนะ” โซลชา ทิ้งท้ายแบบมีน้ำโหเล็กน้อยถึงปานกลาง
สำหรับเกมนัดต่อไปนั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะบุกไปทำศึกบิ๊กแมทช์กับ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ในวันเสาร์นี้ เวลา 00.30 น. ส่วน เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด จะดวลกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ทีมจ่าฝูง ในวันเดียวกัน เวลา 4 ทุ่มบ้านเรา
วิเคราะห์แมทช์ผีพลาดพ่ายคาบ้าน
หลายคนอยากทราบสาเหตุว่าทำไม หน้าฟีดตามไทม์ไลน์จึงเด้งขึ้นมาว่า “บ๊วยติดคอ” หรือ “บ๊วยคืนชีพ”
“ปีศาจแดง” เลือก อั๊กเซล ตวนเซเบ้ เซ็นเตอร์แบ๊กตัวที่ 4 ลงสนาม และไม่มีสองตัวพลังงานสูง หน้าที่คือตัดเกมอย่าง สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ กับ เฟร็ด ลงสนาม แล้วเลือกใช้ประสบการณ์ แต่สปีดเต่าอย่าง เนมาย่า มาติช ลงเล่นร่วมกับ ปอล ป๊อกบา และบรูโน่ เฟอร์นานเดส
เกมรุกด้านบนเลือก มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่หายเจ็บกลับมาทันเวลา เล่นร่วมกับ อองโตนี่ย์ มาร์ซิยาล และอีกหนึ่งคนใช้แนวรุกเลยก็คือ เมสัน กรีนวู้ด
ทำให้แดนกลางตรง ๆ ก็เหลือแค่ ป๊อกบา กับ มาติช แล้วต้องเจอบอลไม้กระดานทั้ง 5 ประกอบด้วย จอร์จ บัลด็อค, จอห์น ลุนด์สแตรม, โอลิเวอร์ นอร์วู้ด, จอห์น เฟล็ค และ คีน ไบรอัน โดยนัดนี้ คริส ไวล์เดอร์ ใช้วิงแบ๊กขึ้นมากดแดนบนตั้งแต่ 40 หลา ขยับขึ้นสูงแล้วได้ผล
นั่นทำให้กองกลางดูแน่นขึ้น เพราะยืนในแนวระนาบเดียวกัน และเมื่อ แมนฯยูไนเต็ด ต้องตั้งลำบุกแล้วทำอะไรค่อนข้างลำบากมาก
ที่สำคัญก็คือ เชฟฯยูไนเต็ด เล่นแบบไม่เสี่ยงเลย ทุกคนยืนตามจุด ตามหน้ากระดานที่ซ้อมมา เล่นบอลแบบไม่ฝืน และน่าสนใจในตำแหน่งตัวสุดท้ายที่ ฟิล ยากิลก้า ใช้ประสบการณ์ในการเล่นได้น่าสนใจมาก ๆ
ขณะที่ โซลชา เปลี่ยนตัวแบบที่อาจจะถูกวิจารณ์ว่า ทำไมถึงเลือก เมสัน กรีนวู้ด ออกไป แล้วส่ง เอดินสัน คาวานี่ลงมา ทั้งที่ควรเอา มาร์กซิยาล ออกนั้น ก็เพราะว่า กรีนวู้ดไม่ได้ประสานกับเพื่อนร่วมทีม
กดสูตร คาวานี่-แรชฟอร์ด-มาร์กซิยาล ก็เคยได้ผลมาแล้วในเกมบุกชนะ เบิร์นลี่ย์ ที่ถูกวิจารณ์ว่าไม่ควรเล่นด้วยกัน แต่ทั้งหมดยังเล่นกันเป็นทีมจนได้ชัยชนะในเกมนั้น
นั่นเป็นเรื่องปลายเหตุ
แต่ต้นเหตุก็คือ บรูโน่ โดนล็อกสนิทปิดตาย ไม่มีพื้นที่เล่นเพราะกลาง 3 คนของเชฟฯยูไนเต็ด ไม่ขยับไปไหนจริงๆ
วินัย(ไม่มี ไกรบุตร) ของนักเตะเชฟฯยูไนเต็ด และน้ำอดน้ำทนอันน่ายกย่องอย่างมาก พวกเขาก็เล่นแบบนี้แหล่ะ แต่มันไม่พอดีนี่คือความ “บังเอิญแบบพอดี” มาลงแมทช์ใหญ่แบบเป๊ะเว่อร์
โดยเฉพาะประตูชัยของ โอลิเวอร์ เบิร์ก หากมันไม่แฉลบ ตวนเซเบ้ การจัดทัพของ โซลชา คงไม่ถูกถล่ม แต่นั่นแหล่ะฟุตบอลมันดวงแตกกันได้ทุกวัน หากเป็นคนอื่นอาจจะโดนสับหนักเท่ากับ ตวนเซเบ้
เส้นทางยังอีกยาวไกลมากๆ อีกตั้งครึ่งซีซั่น เชื่อว่าได้วัดกันสนุกต่อไป..........
“ทูเคิ่ล” ประเดิมโชว์สกิลต่อบอลแต่ยิงไม่ตุง
โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือคนใหม่ชาวเยอรมันของ “สิงห์บลูส์” เชลซี ทำสถิติใหม่ตั้งแต่นัดแรกที่คุมทัพ ด้วยการจ่ายบอลมากที่สุดของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นับตั้งแต่มีการเก็บสถิติมา 17 ปี พร้อมประกาศจะสร้างทีมให้คู่แข่งไม่อยากจะเจอทีมของเขาอีกด้วย
ออปต้า เริ่มเก็บสถิติฟุตบอลจริงจังในปี 2003 โดยทูเคิ่ล ประเดิมคุมทัพเชลซี นัดแรกในการเจอกับ วูล์ฟส์เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา ก่อนจะผ่านบอลรวมทั้งสิ้น 820 ครั้งโดยเฉพาะครึ่งแรกนั้นเคาะบอลมากถึง 433 ครั้งเลยทีเดียว ค่าเฉลี่ยจ่ายบอลดีคือ 78.9%
สถิติดังกล่าวนี้ ทุบของเดิมที่เพิ่งทำไปเมื่อวันอังคารของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ทำได้ 810 ครั้ง ในเกมถลุง เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 5-0 แต่หนนี้ เชลซี แค่เสมอกับ วูล์ฟส์ แบบไข่ไม่แตก 0-0
“ผมมีความสุขกายสบายใจมาก เมื่อเห็นทัศนติที่ดีของนักฟุตบอล” ทูเคิ่ล กล่าวหลังจบเกม “พลังงาน และความตั้งใจคือสิ่งสำคัญในปรัชญาของผม เรามีทุกอย่างโดยเฉพาะสิ่งที่ผมต้องการก็คือ การมุ่งมั่นตั้งใจ ทุกคนแสดงออกแล้ว แต่เสียดายตรงที่เรายิงประตูไม่ได้ก็แค่เท่านั้นเอง”
กุนซือชาวเยอรมัน กล่าวต่อไปว่า ผมจำเป็นยิ่งที่จะต้องสร้างทีมที่เปี่ยมด้วยบรรยากาศที่ดี เป็นบรรยากาศที่พิเศษแบบนี้และอาจจะต้องยิ่งกว่านี้ เพราะเป้าหมายของผมคือ สร้างทีมที่ไม่มีใครอยากจะเผชิญหน้าด้วย!!!
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี