ไม่ว่าใครก็ตามที่จะชูถ้วยเอฟเอคัพ ในวันเสาร์ จะมีการเฉลิมฉลองแชมป์มากกว่าปกติแน่นอน
เช่นเดียวกับสิทธิ์ในการคุยโม้ในท้องถิ่นที่เป็นเดิมพัน แชมป์พรีเมียร์ลีกอย่าง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และแชมป์ลีกคัพอย่าง “ปีศาจแดง”แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รู้ดีว่า ผู้ชนะในนัดชิงชนะเลิศถ้วยนี้จะเป็นดับเบิ้ลแชมป์
ซิตี้ ยังมีความฝันที่จะได้เทรเบิ้ลแชมป์เพราะรู้ดีว่าชัยชนะเหนือเพื่อนบ้านของพวกเขา และเดินหน้าต่อไปเพื่อสยบอินเตอร์มิลาน ในนัดชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกวันเสาร์หน้า
ซิตี้ จะทำได้เทียบเท่า ยูไนเต็ด โดยที่สโมสรอื่นในฟุตบอลอังกฤษ ทำไม่ได้นอกจากทีมจากเมืองนี้!!!
ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะสามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ และยูโรเปี้ยน คัพ ในหนึ่งฤดูกาลได้หรือไม่? ใช่ พวกเขาปรารถนา
ตรงกันข้ามกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พวกเขากำลังมีความคิดและแรงปรารถนาที่จะหยุดยั้ง ซิตี้
เพื่อรักษาความสำเร็จในประวัติศาสตร์ในปี 1999 ไว้กับตัวเอง เพียงทีมเดียวเท่านั้น
มันไม่ใช่แค่เรื่องว่าใครจะเป็นแชมป์มันเป็นเรื่องของความเป็นใหญ่ในเมือง
ลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา เหลืออีกเพียง 2 เกมเท่านั้นที่จะเป็นทีมที่ 10 ของยุโรปที่จะกวาดตำแหน่งแบบเหมากระดานแบบนี้
ก่อนที่ ยูไนเต็ด จะเอาชนะ ไบรท์ตัน ในรอบรองชนะเลิศเอฟเอ คัพ “เกรทเดนส์”ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล อดีตผู้รักษาประตูซึ่งเป็นสมาชิกคนสำคัญของยูไนเต็ด ในปี 1999 ก็พูดติดตลกว่า “นั่นคือเหตุผลว่าทำไมการเอาชนะไบรท์ตันจึงเป็นเรื่องสำคัญดังนั้นเราจะสามารถหยุด ซิตี้ ได้”
แกรี่ เนวิลล์ สมาชิกอีกคนของ ยูไนเต็ด บอกกับ Sky Sports ว่า “ยูไนเต็ดต้องการโอกาสที่จะคว้าเทรเบิ้ลด้วยตัวเราเองในอนาคต หรืออย่างน้อย ไม่ต้องการให้ใครเป็นแบบเรา”
เอริค เทน ฮาก ผู้จัดการทีมยูไนเต็ดบอกว่า จะทุ่มเททุกอย่าง และเมื่อผมพูดคำว่าทุกอย่าง มันคือทุกอย่าง... แฟนๆ วางใจได้
สำหรับแฟนๆ ยูไนเต็ด คุณจะรู้สึกว่าการหยุดซิตี้นั้นสำคัญพอๆ กับถ้วยดับเบิ้ลของพวกเขา หลังจากคว้าแชมป์คาราบาวคัพแล้ว เพลงที่มักร้องกระหึ่มโอลด์แทรฟฟอร์ด มันมาจากความภาคภูมิใจในการเป็นแชมป์เทรเบิลทีมเดียวของอังกฤษ
น่าสนใจคือ ยูไนเต็ด เคยอยู่ในตำแหน่งนี้มาก่อนในปี 1977
ยูไนเต็ด ต้องเผชิญหน้ากับทีมลิเวอร์พูล ที่คว้าแชมป์บอลลีก ดิวิชั่น 1 และมีนัดชิงถ้วยยุโรปตามมาอีก 4 วันหลังจากนัดชิงชนะเลิศเอฟเอคัพ ที่ต้องดวลกับ ยูไนเต็ด เวลานั้นลิเวอร์พูลกำลังจะเป็นสามแชมป์
บทสรุปกลายเป็น ยูไนเต็ด ดับฝันด้วยการเอาชนะ 2-1 ที่เวมบลีย์ ยุติความหวังเทรเบิ้ล ของลิเวอร์พูล ได้สำเร็จ ก่อนที่“พญาหงส์” จะบินไปเอาชนะโบรุสเซียมึนเช่นกลัดบัค 3-1 ในกรุงโรม ถ้วยยุโรป
ถ้าถามแฟนๆ ลิเวอร์พูลจะนึกถึง 3 แชมป์ของพวกเขาอย่างรวดเร็ว นั่นคือ แชมป์ลีก ดิวิชั่น 1, ยูโรเปี้ยนคัพ และ ลีก คัพปี 1984 หรือจากนั้นคือ แชมป์เอฟเอ คัพ,ลีก คัพ และยูฟ่า คัพ ในปี 2001
ในปี 2019 ซิตี้ กลายเป็นทีมแรกและทีมเดียวของอังกฤษ ที่คว้าแชมป์ในประเทศทั้งหมด 3 รายการพรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ และลีกคัพ
แต่ด้วยเทรเบิลเพียง 4 ครั้งในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลชายในอังกฤษทำให้ ซิตี้ รู้ดีว่าพวกเขากำลังเข้าใกล้ความยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง
“ความเหนือกว่าของ ยูไนเต็ด อยู่ภายใต้การคุกคามของ ซิตี้”
สำคัญที่สุดก็คือก่อนที่จะเป็น “เทรเบิ้ลแชมป์” ทุกคนต้องไม่ลืมว่าผู้ที่ออกจากสนามในนัดนี้
จะเป็น “ดับเบิ้ลแชมป์” ในทันที
ประวัติศาสตร์จะชี้ให้เห็นว่า นี่เป็นความสำเร็จที่ไม่ควรมองข้าม
กรณีหากว่า ซิตี้ ได้แชมป์ จะเป็นครั้งที่ 8 ที่มีทีมคว้าแชมป์เอฟเอคัพและพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลเดียวกัน
กรณีหากว่ายูไนเต็ด ได้แชมป์ จะเป็นสโมสรที่ 5 ที่คว้าแชมป์ลีก คัพ และเอฟเอ คัพ พร้อมกันในปีเดียว
ก่อนหน้านี้คือ อาร์เซนอล คือทีมแรกที่ทำได้ ปี 1992-93 โดยมี ลิเวอร์พูล ทำได้มากที่สุดถึงสองครั้งนั่นคือปี 2000-01 และซีซั่นที่แล้ว 2022-23, เชลซีปี 2006-07 และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ปี 2018-19
ดังนั้น ยูไนเต็ด ถ้าหยุด ซิตี้ ได้
มันหลายเด้งจริงๆ !!!!!
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี