“เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เข้าชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร หลังจากย้ำแค้น “หอคอยฝังเพชร” ปารีส แซงต์-แชร์กแมง จากฝรั่งเศสลงได้ 2-0 ผ่านเข้ารอบด้วยสกอร์รวม 4-1
ก่อนหน้านี้ แมนฯซิตี้ เคยเป็นแชมป์ยุโรป 1 รายการ ในศึกคัพ วินเนอร์ส คัพ ปี 1970 ชนะ กอร์นิต ซาเบรเซ่ จากโปแลนด์ 2-1 ชิงที่เวียนนา ออสเตรีย และทำให้พวกเขาเป็นทีมที่ 9 ในประวัติศาสตร์บอลอังกฤษ ที่ได้ชิงชนะเลิศถ้วยนี้
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือของแมนฯซิตี้ นำทีมสร้างสถิติด้วยการชนะ 7 นัดติดในบอลยุโรป ดีที่สุดของทีมอังกฤษในบอลยุโรป ทุบสถิติแมนยูฯ ปี 1966, ลีดส์ 1970 และอาร์เซนอล 2005 ทำไว้ 6 นัดติด และยังเป็นเป็นทีมแรกจากอังกฤษที่ชนะได้ถึง 11 นัดในการเตะบอลยุโรป 1 ซีซั่น
ขณะเดียวกันในวันพฤหัสบดีนี้จะมีการดวลแข้ง ฟุตบอล ยูโรป้า ลีก รอบรองชนะเลิศ เลกสอง เวลา 02.00 น.ทั้งสองเกม เริ่มจาก “หมาป่า” อาแอส โรม่า เล่นในกรุงโรม ดวลกับ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เจ้าถิ่น “หมาป่าแห่งกรุงโรม” อาแอส โรม่า ที่เกมแรกบุกไปโดนผีถลุงมา 6-2 เกมนี้ไม่มีทางเลือกต้องชนะด้วยสกอร์ 4-0 ขึ้นไป หากยังหวังเข้ารอบ ส่วนฟอร์มในลีกก็ย่ำแย่บุกไปพ่ายซามพ์โดเรียมาอีก 2-0 เกมนี้เจอปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหลายรายไล่ตั้งแต่ จอร์แดน แวร์ตูร์, เปา โลเปซ, นิโกโล่ ซานิโอโล่,สเตฟาน เอล ชาราวี่, เปโดร รวมไปถึงเลโอนาร์โด้ สปีนาซโซล่า ข่าวดีจุดเดียวคือการได้ จานลูก้า มานชินี่ แนวรับที่พ้นโทษแบนกลับมา เชื่อว่าจะลงได้ลงตัวจริงทันที แดนกลางอาจจะต้องขยับเอา ไบรอัน คริสตานเต้ ขึ้นมาเล่นคู่กับ อมาดูเดียวาร่า ส่วนแนวรุกยังเป็นชุดเดิม นำโดย ลอเรนโซ่ เปเญกรินี่, เฮนริคห์ มาร์คิตาร์เรียน และ เอดิน เชโก้
ทีมเยือน “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เลกแรกถล่มมาได้ 6-2 กุมความได้เปรียบไว้เยอะ แถมเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ได้ลงเล่นเกมแดงเดือดหลังจากแฟนบอลบุกสนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต้องเลื่อนการแข่งขันออกไป เกมนี้ตัวเจ็บยังคงเป็น อองโตนี่ มาร์กซิยาล เหมือนเดิม ที่เหลือถือว่าพร้อม แต่เชื่อว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ จะเลือกพักผู้เล่นตัวหลักเอาไว้ เปิดโอกาสให้แข้งสำรองได้ลงเล่น โดยคงแผนเดิมคือ 4-2-3-1 ไม่ว่าจะเป็น อเล็กซ์ เตลลิส, เนมานญ่า มาติช,เอริค ไบญี่, ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ๊ค, แดเนี่ยล เจมส์ และเมสัน กรีนวู้ด
อีกคู่ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล เกมแรกไปแพ้มา 1-2 จะเปิดรังดวลกับ “เรือดำน้ำสีเหลือง” บียาร์เรอัล จากสเปน โดยเจ้าถิ่นผลงานในลีกบุกไปเอาชนะ นิวคาสเซิ่ล แบบนิ่มๆ2-0 นัดนี้ไม่มี ดานี่ เซบาญอส มิดฟิลด์เลือดกระทิงที่ติดโทษแบนจากการโดนใบแดงไล่ออกนัดที่แล้ว ส่วน คีแรน เทียร์นีย์ และอเล็กซองดร์ ลากาแซตต์ รอเช็คความฟิต แต่คาดว่าน่าจะยังไม่พร้อมสำหรับการเป็นตัวจริง คาดว่า มิเกล อาร์เตต้าจะกลับมาใช้ทีมชุดหลักที่พักมาเมื่อสุดสัปดาห์ โธมัส ปาร์เตย์ จะคุมแดนกลางร่วมกับ โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ แนวรุกวาง บูกาโย่ซาก้า ประสานงานกับ มาร์ติน โอเดการ์ด และนิโคลัส เปเป้ โดยมี ปีแอร์-เอเมอริค โอบาเมยัง ยืนหน้าเป้า
ทางฝั่งผู้มาเยือน “เรือดำน้ำสีเหลือง” บียาร์เรอัล เก็บชัยชนะมาได้ในเกมแรกแต่เสียอเวย์โกลให้ปืนโต นัดนี้ขาดมิดฟิลด์ตัวตัดเกมอย่าง เอเตียง กาปู ที่ติดโทษแบนรวมไปถึงแนวรับดาวรุ่ง ฮวน ฟอยธ์ ที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บ คาดว่า อูไน เอเมรี่ จะส่ง ฟร็องซิส โกเกอแล็งลงไปคุมแดนกลางร่วมกับ ดานี่ ปาเรโฆ่ และ มานูเอล ติเกรอสแผงเกมรุก เกราร์ด โมเรโน่ ที่ได้พักมาจะประสานงานร่วมกับ ปาโก้ อัลคาแซร์ และซามูเอล ชุควูเซ่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี