การแข่งขันฟุตบอล คาราบาว คัพ รอบ 16 ทีม คืนวันพุธนี้เวลา 01.45 น. “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เอฟซี ที่กำลังเข้าฟอร์ม จะบุกไปเยือนถิ่นของ“แกะแดนเหนือ” เปรสตัน นอร์ธ เอนด์ ทีมจากศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ ปัจจุบันรั้งอันดับ 19 ของตาราง
เจ้าถิ่นลงเล่นไป 14 เกม ชนะ 3 เสมอ 6 แพ้ 5 ส่วนในรายการลีก คัพ รอบที่แล้วเอาชนะเชลท์เน่ม มา 4-1 เกมนี้ไม่มี อลัน บราวน์ ที่ติดโทษแบน ส่วน คอนเนอร์ วิคแฮม,แมทธิว โอลูซันเด้ และเชด อีแวนส์ มีปัญหาอาการบาดเจ็บ รวมไปถึงหมดสิทธิ์ใช้บริการ เซ็ปป์ ฟาน เดน เบิร์ก เพราะเจอกันต้นสังกัดที่แท้จริง นอกนั้นถือว่าไม่มีปัญหาอะไรพร้อมรับมือในระบบ 3-4-2-4 แนวรุกฝากความหวังไว้ที่สามประสานอย่าง แบร๊ด พ็อตต์ส, แดเนี่ยล จอห์นสัน และเอมิล ยาค็อบเซ่น
ทีมเยือน “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ฟอร์มร้อนแรงเหลือเกินเพิ่งบุกถล่มเอาชนะ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมแดงเดือด 5-0 จากแฮททริกของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ รอบที่แล้วบุกถล่มเอาชนะ “นกขมิ้น” นอริช ซิตี้ มาได้ 5-0 เกมนี้ไม่มี ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์, ธีอาโก้ อัลคันทาร่า, นาบี้ เกอิต้า, เจมส์ มิลเนอร์ และฟาบินโญ่ ที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บเชื่อว่ากุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ตั้งใจที่จะพักแกนหลักอยู่แล้ว เปิดโอกาสให้แข้งสำรองได้ลงเล่นแบบยกแผง ยังยึดระบบการเล่น 4-3-3 ควีวีน เคลเลเฮอร์ ลงเฝ้าเสา แนวรับใช้ โฌเอล มาติ๊ป เล่นกับโจ โกเมซ ส่วนแดนกลางตัวเลือกมีไม่เยอะต้องใช้กัปตันทีมอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงคุมเกมร่วมกับ อเล็กซ์ ออกซ์เลด-เชมเบอร์เลน และเคอร์ติส โจนส์ ส่วนเกมรุกวาง ไคลด์ กอร์ดอน ประสานงานกับดิว็อค โอริกี้ และทาคุมิ มินามิโนะ
สถิติการพบกันของทั้งสองทีม คู่นี้เจอกันมาอย่างโชกโชนเพราะเป็นสโมสรเก่าแก่ของวงการฟุตบอลอังกฤษ ลิเวอร์พูล ชนะได้ 36 เสมอ 21 ส่วนเปรสตัน ชนะ 26 ส่วนการเจอกันหนล่าสุดเกิดขึ้นในปี 2009 เป็นศึกเอฟเอ คัพ ลิเวอร์พูล บุกชนะถึงดีพเดล 2-0
อีกคู่ในวันเดียวกันเป็นเกมใหญ่ที่สองทีมดังในพรีเมียร์ลีก โคจรมาปะทะกัน นั่นก็คือ “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ดวลกับ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้โดยเจ้าบ้าน “ขุนค้อน” ฟอร์มดีอย่างต่อเนื่องเกมล่าสุดทำศึกลอนดอน ดาร์บี้ ด้วยการเปิดบ้านเอาชนะ “ไก่เดือยทอง”ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 1-0 ส่วนรายการนี้รอบที่ผ่านมาบุกเอาชนะ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึงโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 1-0 ความพร้อมเกมนี้ไม่มี อเล็กซ์ คราล มิดฟิลด์เช็กที่ติดโควิด-19 ส่วน วลาดิเมียร์ คูฟาล ยังไม่ฟิต คาดว่าเดวิด มอยส์ อาจจะปรับทีมเล็กน้อยแต่ยังยึดขุมกำลังหลักอยู่เดแคลน ไรซ์ คุมแดนกลางร่วมกับ โทมัส ซูเซ็ค แนวรุกใช้จาร์ร็อด โบเว่น ประสานงานกับมานูเอล ลานซินี่ และ ปาโบล ฟอร์นาลส์ โดยมี มิคาอิล อันโตนิโอ ยืนหน้าเป้า
ทีมเยือน “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพิ่งบุกถล่มเอาชนะ ไบรท์ตัน 4-1 เกมนี้ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน เลียม ดีแลป และ เฟร์ราน ตอร์เรส ที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บ ส่วนราฮีมสเตอร์ลิ่ง ต้องเช็คความฟิต นอกนั้นไม่มีปัญหาอะไรมาในระบบ 4-3-3 ใช้ตัวเก๋าอย่าง แฟร์นานดินโญ่ลงคุมจังหวะเกมตรงกลางประครองดาวรุ่ง โคล พาลเมอร์ โดยมี เควิน เดอ บรอยน์เป็นตัวขับเคลื่อนเกมรุกสอดประสานกับสามแดนบนอย่าง ริยาด มาห์เรซ, กาเบรี่ยล เฮซุสและแจ็ค กรีลิช
สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุดแมนฯซิตี้ ไม่แพ้ให้กับเวสต์แฮม เลย เอาชนะได้ 4 และ เสมอ 1
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี