การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันพุธนี้มีการดวลแข้งกัน 4 คู่ โดยที่ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่า จะดวลกับ “ผึ้งน้อย” เบรนท์ฟอร์ด เวลา 02.45 น.

แมนฯซิตี้ ยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม เกมนี้เป็นโอกาสดีที่จะทำแต้มทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง ลิเวอร์พูล ส่วนกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาเล่นเอฟเอ คัพ ถล่ม ฟูแล่ม ไปแบบสบายๆ4-1 ทีมของ เป๊บ กวาร์ดิโอล่า แทบจะไม่มีปัญหาอะไรให้ต้องกังวล เพราะแกนหลักอยู่กันครบรอเช็คความฟิตของ กาเบรี่ยล เฮซุส แค่รายเดียว เกมนี้จะกลับมาใช้ทีมชุดใหญ่เล่นในระบบ4-3-3 เควิน เดอ บรอยน์ และแบร์นาร์โด้ ซิลวา คือสองคีย์แมนในแดนกลางที่คอยปั้นเกมสนับสนุนสามแนวรุกด้านบนอย่าง ริยาด มาห์เรซ, แจ็ค กรีลิช และราฮีม สเตอร์ลิ่ง

ฟากผู้มาเยือน “ผึ้งน้อย” เบรนท์ฟอร์ด ช่วงหลังผลงานย่ำแย่แพ้มา 5 เกมติดต่อกันในทุกรายการ ล่าสุด ก็เพิ่งโดนเอฟเวอร์ตัน ถล่ม 4-1 ในเอฟเอ คัพ เกมนี้ไม่มี มาธิอัส ยอร์เก้นเซ่นหรือ “ซานก้า” และทาริค โฟซู-เฮนรี่ ที่บาดเจ็บ ส่วน คริสเตียน เอริคเซ่น ที่เพิ่งเซ็นเข้ามาต้องรอเช็คความฟิต เช่นเดียวกับแกนหลักอย่าง ไบรอัน เอ็มเมอูโม่ นอกนั้นน่าจะไม่มีปัญหาอะไร โธมัส แฟร้งค์ จัดทีมในระบบ 3-5-2 ต้องดันเอา เซร์กี้ กาญอส ขึ้นไปเล่นหน้าคู่กับ อีวาน โตนีย์

สถิติการพบกันของทั้งสองทีมดวลกันมา 14 ครั้ง เสมอแค่หนเดียว ที่เหลือเป็น แมนฯซิตี้ ชนะ 8 และเบรนท์ฟอร์ด ชนะ 5

สกอร์ที่คาด : แมนฯซิตี้ 4-0 เบรนท์ฟอร์ด

02.45 น. สเปอร์ส - เซาแธมป์ตัน : “ไก่เดือยทอง” ลงเล่นเอฟเอ คัพ ด้วยการถล่ม ไบรท์ตัน มาได้ 3-1 เกมนี้ต้องรอทดสอบความฟิตของ จาเฟ็ด ทานกานก้า, เอริค ดายเออร์และโอลิเวอร์ สคิปป์ สามผู้เล่นเชิงรับว่าจะสมบูรณ์หรือไม่ส่วนแข้งใหม่อย่าง โรดริโก้ เบนตานคูร์ และเดยัน คูลูเชฟสกี้ได้ลงประเดิมไปแล้วในเกมที่ผ่านมา แต่นัดนี้เชื่อว่าจะต้องนั่งสำรองไปก่อน คอนเต้ เล่นในแผน 3-4-3 เหมือนเดิมวาง ลูคัส มูร่า, แฮร์รี่ เคน และซน ฮึง มิน เป็นตัวชูโรงในเกมรุก

ทางฝั่ง “นักบุญแดนใต้” ช่วงหลังฟอร์มดีขึ้นเยอะ แม้ว่าเกมล่าสุดต้องเล่นถึง 120 นาทีกว่าจะเบียดเอาชนะ “ช้างกระทืบโรง”โคเวนทรี ซิตี้ 2-1 ในเอฟเอ คัพ ทีมของ ราล์ฟ ฮาเซนฮุตเทิ่ล จะไม่มี อเล็กซ์ แม็คคาร์ธีย์, ลิอานโก้, นาธาน เทลล่า และอาร์มานโด้ โบรย่า ที่มีอาการบาดเจ็บ ช่วงหลังมีการปรับแท็กติกจาก 4-4-2 มาใช้ 3-4-3 และน่าจะยึดระบบนี้เพราะทำผลงานได้ดี มี เจมส์ วอร์ด-พราว์ส เป็นตัวคุมจังหวะ สามแนวรุกฝากความหวังไว้ที่ นาธานเรดมอนด์, เช อดัมส์ และอดัม อาร์มสตรอง

สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 5 ครั้งหลังสุด สเปอร์ส ไม่แพ้เลย เอาชนะได้ 3 และเสมอ 2

สกอร์ที่คาด : สเปอร์ส 2-1 เซาแธมป์ตัน

02.45 น. นอริช ซิตี้ - คริสตัล พาเลซ : “นกขมิ้น”ที่กำลังหนีตายแบบสุดฤทธิ์ นัดล่าสุดลงเล่นเมื่อสุดสัปดาห์บุกเอาชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-0 เข้ารอบ 16 ทีม เอฟเอ คัพ เกมนี้ยังไม่มี ทิม ครูล นายด่านมือหนึ่งที่มีอาการบาดเจ็บ ส่วน จอช ชาร์เจ้นท์ ต้องรอดูว่าจะฟิตหรือไม่ เพราะเพิ่งกลับมาจากการรับใช้ทีมชาติสหรัฐอเมริกา ที่เหลือน่าจะลงเล่นได้หมด ดีน สมิธใช้แผน 4-4-2 บิลลี่ กิลมอร์ และเคนนี่ แม็คลีน เป็นตัวขุมจังหวะแดนกลาง เกมรุกใช้ ตีโม ปุ๊กกี้ ประสานงานกับ อดัม อีด้าห์

ทีมเยือน คริสตัล พาเลซ ของ ปาทริค วิเอร่า ผลงานโดยรวมยังลุ่มๆ ดอนๆ เอาแน่เอานอนไม่ได้ ล่าสุดสอนบอลฮาร์ทลีย์พูล จากลีกทู ในศึกเอฟเอ คัพ 2-0 เกมนี้ไม่มี ชีค คูยาเต้ที่เพิ่งคว้าแชมป์แอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่นส์ 2021 กับทีมชาติเซเนกัล เดินทางกลับมาไม่ทัน ส่วน วีลฟรีด ซาฮา ต้องรอเช็คความฟิต ที่เหลือเป็นทีมชุดเดิมมาในระบบ 4-3-3 คอนอร์กัลลาเกอร์ เป็นตัวปั้นเกมแดนกลางสอดประสานกับสามแนวรุกอย่าง ไมเคิ่ล โอลิเซ่, ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า และเอเบเรซี่ เอเซ่

สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 5 ครั้งหลังสุด พาเลซ เหนือกว่าเยอะเอาชนะได้ 4 และเสมอ 1

สกอร์ที่คาด: นอริช ซิตี้ 1-1 คริสตัล พาเลซ

03.00 น. แอสตัน วิลล่า - ลีดส์ ยูไนเต็ด : “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลล่า ไม่ได้ลงเล่นในเอฟเอ คัพ แต่ไปแอบอุ่นเครื่องกับ โมลด์ ทีมจากนอร์เวย์ ชนะได้ 3-1 ทีมของ สตีเว่นเจอร์ราร์ด ไม่มี เลออน ไบลี่ย์ และมาร์เวลาสนาคัมบ้า ที่บาดเจ็บ ส่วน แบร์กตรองด์ ตราโอเร่ และมาห์มุ้ด เทรเซเกต์ ยังไม่ฟิตเพราะเพิ่งกลับมาจากแอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่นส์ ที่เหลือถือว่าฟูลทีมเล่นในระบบ 4-3-3 ได้ จอห์น แม็คกินน์กลับมาคุมแดนกลางร่วมกับ ดั๊กลาสลุยซ์ และจาค็อบ แรมซีย์สามแนวรุกใช้ เอมิลิอาโน่ บูเอนเดีย ประสานงานกับ โอลลี่ วัตกิ้นส์ และฟิลิปเป้ คูตินโญ่

ทีมเยือน “ยูงทอง” ของ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ไม่ได้เล่นเอฟเอ คัพ มาเช่นกัน แต่นัดล่าสุดเมื่อ 22 มกราคมพ่ายคารังให้กับ นิวคาสเซิ่ล เกมนี้ยังไม่มี จูเนียร์ ฟีร์โป้, แพทริค แบมฟอร์ด,เคลวิน ฟิลิปป์ส และเลียม คูเปอร์ แกนหลักที่มีอาการบาดเจ็บ ส่วน ราฟินญ่า น่าจะผ่านความฟิตลงเล่นเป็นตัวจริงได้ โดยจะประสานงานกับ โรดริโก้ โมเรโน่, แจ็ค แฮร์ริสัน และไทเลอร์ โรเบิร์ตส

สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 5 ครั้งหลังสุด ถือว่าสูสีผลัดกันชนะฝั่งล่ะ 2 ครั้ง และเสมอ 1

สกอร์ที่คาด : แอสตัน วิลล่า 3-1 ลีดส์ ยูไนเต็ด