ซาดิโอ มาเน่ แนวรุกทีมชาติเซเนกัล แชมป์แอฟริกาคัพ ออฟ เนชั่นส์ ออกมาให้สัมภาษณ์ยอมรับว่าเขารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากเมื่อได้รับรู้ว่า “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค ให้ความสนใจอยากจะได้ตัวไปร่วมทีม ก่อนจะตัดสินใจย้ายจากถิ่นแอนฟิลด์ ของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ดับเบิ้ลแชมป์บอลถ้วยของอังกฤษ หลังจากปักหลักอยู่เมอร์ซี่ย์ไซด์ มานานถึง 6 ปีเต็มๆ

ดาวยิงวัย 30 ปี ปฏิเสธการต่อสัญญากับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่เหลืออยู่ 1 ปี เพื่อเปิดโอกาสให้ตัวเองในการไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ ในการค้าแข้ง และได้เดินทางถึงเยอรมนี เพื่อเข้ารับการตรวจร่างกายกับ บาเยิร์น มิวนิค ก่อนจะออกมาเปิดเผยว่า ตัวเขารู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้รู้ว่าตนเป็นที่สนใจของบาเยิร์น มิวนิค และมองว่าการย้ายทีมเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด

“เอเย่นต์ได้แจ้งกับผมว่ามีการติดต่อจาก บาเยิร์น มิวนิค ในครั้งแรกผมรู้สึกตื่นเต้นมากๆ และสามารถจินตนาการว่าตัวเองได้ลงเล่นที่นั่นทันที สำหรับผมแล้วพวกเขาคือทีมที่ใช่ และมันยังเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมด้วย แน่นอนว่า บาเยิร์น มิวนิค คือหนึ่งในสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก พวกเขาต่อสู้เพื่อการลุ้นแชมป์เสมอ มันเป็นความท้าทาย และการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยม ในการย้ายมาอยู่กับสโมสรแห่งนี้ ซึ่งจริงๆ แล้ว ผมได้รับข้อเสนอจากสโมสรอื่นๆ แต่เมื่อได้เห็นชื่อของ บาเยิร์น มิวนิคและได้รับฟังแผนงานของพวกเขา ผมคิดว่าที่นี่แหละเหมาะสมที่สุด”

สำหรับการย้ายทีมของ ซาดิโอ มาเน่ ที่เหลือสัญญา1 ปี ลิเวอร์พูล จะได้รับค่าตัวเบ็ดเสร็จประมาณ 35 ล้านปอนด์รวมโบนัส

ทางด้าน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีอันต้องเสีย เควิน เฟรนด์ ผู้ตัดสินฝีมือดีไปอีกหนึ่งราย หลังจากเจ้าตัวตัดสินใจอำลาการทำงานด้วยการแขวนนกหวีด ทำให้วงการฟุตบอลลีกสูงสุดอังกฤษ ต้องเสียผู้ตัดสินมากประสบการณ์พร้อมกันถึง 4 รายในซัมเมอร์เดียว ซึ่งไม่เคยปรากฏเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน

ก่อนหน้านี้ผู้ตัดสินที่รีไทร์หลังจากซีซั่นที่ผ่านมาจบลงนั่นก็คือ ไมค์ ดีน, มาร์ติน แอ็ตกินสัน และ โจนาธาน มอสส์ ล่าสุดคือ เฟรนด์ ปัจจุบันอายุ 50 ปี ที่ตัดสินใจอำลาไปอีกคน หลังจากตัดสินมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ฤดูกาล 2003 โดยเขาอยู่ในลิสต์ผู้ตัดสินกลุ่มแรก 20 คน ที่จะทำหน้าที่ในฤดูกาลที่จะถึงนี้ ทำให้ตอนนี้เหลืออยู่ 19 คน และการอำลาของ เฟรนด์ ทำให้มีการวิเคราะห์จากผู้สันทัดกรณีกันอย่างกว้างขวางว่า พรีเมียร์ลีกอาจมีปัญหาในการตัดสินเพิ่มขึ้น เนื่องจากขาดผู้ตัดสินที่มีประสบการณ์ไปพร้อมกันถึง 4 คนในปีเดียว ซึ่ง 3 คนแรกทั้ง มอสส์, ดีน และแอ็ตกินสัน ต่างลงทำหน้าหน้าที่เกิน 20 นัดตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา

สำหรับรายชื่อผู้ตัดสินพรีเมียร์ลีกในซีซั่นหน้ามีดังนี้ สจ๊วร์ต แอตเวลล์, เดวิด คู้ต, โทนี่ แฮร์ริงตัน, แอนดี้ เมดเลย์, ไมเคิ่ล ซาลิสบิวรี่, ปีเตอร์ แบงค์ส, ดาร์เรน อิงแลนด์, ไซม่อน ฮูเปอร์,อันเดร มาร์รีเนอร์, เกรแฮม สก็อตต์, ทอม บรามอลล์, ร็อบ โจนส์,ไมเคิ่ล โอลิเวอร์, แอนโธนี่ย์ เทย์เลอร์, จอห์น บรู๊คส์, จาร์เร็ด ยิลเล็ตต์, คริส คาวานาฟ, เคร็ก พาว์สัน และ พอล เทียร์นี่ย์ส่วนผู้ช่วยผู้ตัดสินมีทั้งสิ้น 30 คนด้วยกัน

ทางด้าน โรเมลู ลูกากู กองหน้าวัย 29 ปี ที่ย้ายจากอินเตอร์ มาอยู่ เชลซี ปีก่อน 97.5 ล้านปอนด์ กลับไปค้าแข้งในเซเรีย อา กับ อินเตอร์ อีกคำรบ ด้วยสัญญายืมตัว 6.9 ล้านปอนด์หลังจากปีก่อนยิงให้ เชลซี 15 ลูกทุกรายการ แต่ถ้านับในลีกเล่นไป 26 นัด ซัดได้แค่ 8 เม็ด โดยตัวเขาสมัยเล่นที่อิตาลีลงเตะ 95 นัด สกอร์ 64 ประตู กับ 16 แอสซิสต์ ในช่วงที่เล่นให้อินเตอร์ 2 ซีซั่น

ทั้งนี้ ลูกากู ตั้งแต่เทิร์นโปรปี 2009 ย้ายทีมไปแล้วทั้งการซื้อขาดและยืมตัว 9 ครั้ง รวม 6 ทีม ประกอบด้วย อันเดอร์เลทช์, เชลซี, เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน (ยืมตัว), เอฟเวอร์ตัน(ยืมตัว), เอฟเวอร์ตัน, อินเตอร์ มิลาน, เชลซี และ อินเตอร์ มิลาน ติดทีมชาติเบลเยียม ไปแล้ว 102 นัด ยิงได้ 68 ประตู