การแข่งขันฟุตบอลลา ลีกา สเปน ประจำซีซั่นใหม่ 2022-23 ได้ฤกษ์ดวลแข้งกัน ตามทรงแล้วทีมที่จะไล่ล่าแชมป์หากเราจะนับในตลาดนักบอลกับฟอร์มการเล่น
คงไม่มีใครเกินคู่ปะทะระหว่าง “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด กับ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า อีกคำรบ
หลังจากปีก่อน บาร์ซ่า ตุปัดตุเป๋กับเรื่องการบริหารจัดการทีม และหลุดโผการลุ้นแชมป์ไปแทบจะตั้งแต่ต้นซีซั่น ก่อนจะไต่จากอันดับต่ำสุดคือที่ 9 กลับมาเป็นรองแชมป์ แต่คะแนนห่างไกลกับ เรอัล มาดริด มากถึง 13 แต้ม
หากปีนี้ทุกอย่างไร้ปัญหา จะทำให้มูลค่าพวกเขากลับมา และมูลค่าของบอลกระทิงกลับมา สำคัญที่สุดก็คือ เอล กลาซิโก้จะเรียกความสนใจจากแฟนบอลทั่วโลกอีกครา
l ‘เอลกลาซิโก้’ที่จะกลับมาสนั่นหวั่นไหว
หลังจากการเดินจากไปของทั้งคริสติอาโน่ โรนัลโด้ ตามด้วย ลีโอแนล เมสซี่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ได้ทำให้ลีกนี้ลดความน่าสนใจไปบานเบอะ เพราะหมดยุคทองของสองคู่ปะทะที่ดีที่สุดในโลก
อย่างไรก็ดี การมาของ โรเบิร์ตเลวาดอฟสกี้ ที่ย้ายมาท้าทายความสำเร็จครั้งใหม่กับ บาร์ซ่า ทำให้ศึกแห่งศักดิ์ศรี“เอล กลาซิโก้”ดูน่าจับตามองขึ้นมาอีกครั้ง เพราะ เลวี่ จะได้ดวลกับ คาริม เบนเซม่า ฟรอนท์แมนของ เรอัล มาดริด
สองดาวเตะที่ดูเหมือนจะเป็น “อมตะ”ไปอีก โดยไม่เกี่ยวกับเงื่อนไขอายุ เพราะเลยวัย 33 กันมาแล้ว แต่ยังอยู่ในระดับท็อป เพราะ เลวี่ ได้ทุกสิ่งที่ต้องการกับ บาเยิร์นฯ ขณะที่ เบนเซม่า เพิ่งบันดาล “บิ๊กเอียร์”ให้กับแฟนบอล
l การกลับมาที่ไม่ปกติของ‘บาร์ซ่า’
“เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า กลับมาอย่างน่าประหลาดใจ ไหนบอกว่า “เป็นหนี้” หลังจากใช้ระบบ คันโยกทางระบบเศรษฐกิจ หรือ “activating financial levers” เมื่อไปช็อปปิ้งนักบอลมากมายถึง 153 ล้านยูโร ในการซื้อ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้,ฌูล์ส คุนเด้ และราฟินญ่า บวกกับเซ็นฟรี ฟรองค์ เคซิเย่ กับ อันเดรส คริสเตนเซ่น พร้อมกับต่อสัญญากับ อุสมาน เดมเบเล่
บาร์เซโลน่า ลุยตลาดด้วยการซื้อนักเตะในรอบทศวรรษที่ผ่านมา ขาดทุนยับ 650 ล้านยูโร เป็นทีมเดียวที่ลงทุนจากระบบการถือหุ้น ไม่ได้มีเงินถุงเงินถังให้ได้ถลุง และพวกเขาใช้เงินเกินเพดานที่กำหนดเอาไว้ 617 ล้านยูโร
พวกเขาเป็นหนี้ก็เพราะ “ใช้เงินผิดพลาด” ในการซื้อนักบอลที่ล้มเหลวไม่เป็นท่า และจ่ายค่าเหนื่อยแบบไม่บันยะบันยัง
การกู้เงินมาเพิ่มความจุของสนามแข่งขัน ให้ทะลุเป็นหลักแสนคนที่คัมป์นู ว่ากันว่าสูงกว่า 800 ล้านยูโร
การระบาดของโรคที่ไม่เคยขึ้นมาก่อนอย่าง โควิด-19 ทำให้รายได้โดยปกติของพวกเขา หายไปทั้งระบบ ทั้งรายได้ต่อวัน และรายได้แมทช์เดย์ กับการถ่ายทอดสด
กระทั่งการมาของ โจน ลาปอร์ต้า แทนที่ บาร์โตเมว ในตำแหน่งประธานสโมสร ทีมใช้ คันโยกทางระบบเศรษฐกิจ หรือการใช้เงินจากอนาคต เข้ามากอบกู้สถานการณ์ทีม ไม่อย่างนั้นจะไปต่อไม่ได้ แม้กระทั่งการซื้อนักเตะ ต่อให้เซ็นมาแล้ว แต่ก็จะลงเล่นไม่ได้ใน ลา ลีกา ทำให้พวกเขาตัดสินใจกระทืบคันเร่งเข้าไปที่คันโยก 3 รอบ
First Lever คือ การขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดลา ลีกา จำนวน 10 เปอร์เซ็นต์ ให้กับ บริษัท ซิกซ์ สตรีท ยาวถึง 25 ปี และขอรับเงินทันที 207-267 ล้านยูโร จากราคาประเมิน 412.5 ล้านยูโร
Second Lever คือ การขายลิขสิทธิ์ 25 ปีข้างหน้า เพิ่มขึ้นไปอีก 15 เปอร์เซ็นต์ ให้กับ ซิกซ์ฯ เจ้าเก่า เป็นจำนวนเงินที่ 350 ไปจนถึงราคาสูงสุดตามคาดที่ 400 ล้านยูโร
มีการระบุว่า บาร์ซ่า สามารถซื้อสิทธิ์ดังกล่าวนี้ได้ตลอดเวลาทั้ง 25 เปอร์เซ็นต์ที่ปล่อยล่วงหน้าไป ซึ่งเรื่องนี้มันไม่น่าจะจริงเท่าไหร่นัก
Third Lever จากสองสเต็ปแรกพวกเขาได้เงินมาสูงสุดก็คือ 667 ล้านยูโร แต่ยังไม่พอ ก็ลุยต่อด้วยการขายหุ้นบางส่วนของบริษัทลูกเพื่อแลกกับเงินอีก 200 ล้านยูโร
มันคือการเอาอนาคตของทีมมาเสี่ยงอย่างแท้จริง
วิธีแก้ไขดังกล่าว เมื่อนำมาบวกกับการขายนักเตะออกไป รวมถึงการเซ็นสัญญาสปอนเซอร์ต่างๆ ทั้งการรับเงินผู้ให้การสนับสนุนคาดหน้าอก แต่ยังมีข่าวต่อเนื่องว่า “หมุนเงินไม่ทันตามระบบ” ถึงขั้นจะต้องลดเงินเดือนนักบอลเก่า และเขี่ยนักบอลใหม่ทิ้งไป เพราะลงทะเบียนไม่ได้
ปริศนาแห่งความสาหัสรออยู่
l ‘ดอนคาร์โล’กับชัยชนะอันต่อเนื่องของชุดขาว
เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ซูเปอร์คัพ สมัยที่ 5 หลังจากทุบ แฟร้งค์เฟิร์ตจากเยอรมนี ไม่ยาก 2-0 ครองแชมป์ต่อเนื่อง
คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือมือปืนอิตาเลี่ยน สตาร์ท 11 คนแรกชุดเดียวกับที่เริ่มการแข่งขันแชมเปี้ยนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศ
ถือเป็นการพบกันครั้งนี้เป็นครั้งแรกของทั้งคู่ นับตั้งแต่ เรอัล มาดริด ชนะ 7-3 ในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลยุโรปถ้วยใหญ่ใน ปี 1960
หลายคนได้เห็น คาริม เบนเซม่า เล่นได้อันตรายอีกครั้ง และมีโอกาสอย่างมากในการคว้าบัลลังดอร์ปีนี้ การได้เห็นสไตล์เล่นร่วมกับ วินิซิอุส กองหน้าดาวรุ่งในครั้งนี้นั่นคือ เบนเซม่า ดึงตัวออกห่างจากกรอบเขตโทษ สร้างความยืดหยุ่นในช่องว่างตรงกลางระหว่างกองกลาง ไปสู่พื้นที่สุดท้ายของคู่แข่ง
“หลังจากที่เราทำประตูแรกได้ เราก็คุมเกมได้มากขึ้น และเราไม่รับความเสี่ยง ไม่ได้เล่นด้วยความเข้มข้นสูง แต่เป็นการควบคุมที่ดี ทั้งจังหวะการเล่น และทิศทางของเกม” อันเชล็อตติ กล่าว “พวกเขาเคยเล่นด้วยกัน พวกเขามีความสบาย พวกเขารู้จักกัน มันง่ายที่จะเล่นด้วยกัน เพื่อหาเวลาที่เหมาะสมในเกม เป็นสิ่งที่เราจะต้องหาสิ่งนี้ต่อไปทั้งซีซั่น”
l ไม่แปลกสำหรับการเป็น‘เต็งแชมป์’
เรอัล มาดริด ถูกยกให้เป็นเต็ง 1 ที่จะคว้าแชมป์ในซีซั่นนี้ ซึ่งทุกฝ่ายยกให้พวกเขาเป็นเต็ง 1 ด้วยอัตราต่อรองส่วนใหญ่อยู่ที่ 6-5, 11-10 และต่ำสุดคือ 1-1
ไม่มีใครบอกได้ว่า ที่สุดแล้วใครจะ“พร้อมกว่ากัน” แต่ที่แน่ๆ ฟุตบอลที่จะต้องมีสมาธิในการเล่น พวกเขามีมากกว่า บาร์ซ่า อย่างไม่ต้องสงสัย
สังเกตได้ว่า ทีมชุดนี้ข่าวด้านลบค่อนข้างเงียบกว่า สงบกว่ามาก ผิดกับยุคชื่อเสียงคับโลกอย่าง “กาลาติกอส” ที่เหมือนกับ “ฮอลลีวู้ด เอฟซี” แต่สุดท้ายไม่ค่อยได้อะไรกลับมา
บาร์เซโลน่า มีอัตราที่ไม่ห่างจาก เรอัลมาดริด เท่าไหร่นักอยู่ที่ต่ำสุดคือ 6-5อันเนื่องมาจากการเสริมทัพที่น่าสนใจ แต่อย่างที่อยู่ในช่วงข้างต้น พวกเขาต้องข้ามจุดความวุ่นวายให้ได้เร็วที่สุด
ขณะที่ทีมจอมแสบที่พร้อมเสียบอย่าง “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด ปีนี้อัตราอยู่ที่ 13-2 ตามาด้วย เซบีญ่า 16-1 และ บียาร์เรอัล 40-1
แบบนี้เท่ากับเดากันว่า น่าจะมีแค่ 2 ทีมที่ไล่ล่าแชมป์คือ เรอัล มาดริด กับบาร์เซโลน่า
ยังไงซะต้องเคลียร์เรื่องรุงรังโดยเร็ว บอลจะเตะอยู่รอมร่อ!!!
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี