เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์ ดาวยิงตัวเก่งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ออกมาเผยว่าเขามีความสุขสุดๆ หลังระเบิดฟอร์มซัดแฮททริก ช่วยให้ทัพ “เรือใบสีฟ้า” พลิกกลับมาชนะ คริสตัล พาเลซ 4-2 ในศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดยนับตั้งแต่ย้ายจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาสวมเสื้อแมนฯ ซิตี้ ถึงเวลานี้ ฮาแลนด์ ยิงไปแล้ว 6 ประตู นำเป็นดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก และแฮททริกที่เขาทำได้ในเกมนี้ นับเป็นแฮททริกที่ 13 ในการเล่นฟุตบอลระดับสโมสรและทีมชาติด้วยวัยเพียง 22 ปีเท่านั้น และเป็นนักเตะ แมนฯ ซิตี้ คนที่ 15 ที่ยิงแฮททริกได้

ภายหลังเกม ฮาแลนด์ เผยว่า “มันเป็นช่วงเวลาที่น่าภูมิใจมากสำหรับผมและครอบครัว ใช่เลย ผมมีความสุขมันยอดเยี่ยมมากที่ยิงแฮททริกได้ มันเป็นเรื่องของการพยายามทำสิ่งที่ตัวเองทำต่อไป และปรับเปลี่ยนอะไรเล็กน้อย เราทำแบบนั้นจนได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ และต้องฟังผู้จัดการทีมด้วย แน่นอนมันต้องใช้เวลาที่จะทำความเข้าใจที่ดีกับคนอื่น แต่ผมรู้ว่ามันจะเกิดขึ้น และพวกเราจะแกร่งขึ้นไปเรื่อยๆ หลังจากนี้ไปอีก”

ทางด้าน เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือของทีม พูดถึงสิ่งที่ ดาวยิงนอร์วีเจี้ยน ได้ทำในสนามทำนองว่าไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร “สิ่งที่ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ทำได้ในวันนี้ (แฮททริก) คือสิ่งที่เขาทำมาตลอดในการเล่นฟุตบอลอาชีพ ไม่ใช่เรื่องพิเศษอะไรเลย เราไม่ได้ทำอะไรให้เขาเป็นพิเศษ เพื่อให้เขาทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน มันเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเขาที่ยิงประตูได้ เขาเป็นคนที่มีเซ้นส์การทำประตูอยู่แล้ว”

สำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่า ตอนนี้อยู่อันดับ 2ของตาราง มี 10 แต้ม ตามหลัง อาร์เซน่อล จ่าฝูง 2 แต้มนัดต่อไปจะเปิดบ้านเจอกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ วันที่ 31 สิงหาคม นี้

ทางด้าน มิเกล อาร์เตตา กุนซือ อาร์เซน่อล ยืนยันยังไม่มองถึงการลุ้นแชมป์ แม้เวลานี้ “ไอ้ปืนใหญ่” จะเป็นทีมเดียวในลีกที่ชนะรวด 4 นัดติด

โดย “ไอ้ปืนใหญ่” เป็นทีมเดียวในพรีเมียร์ลีก อังกฤษที่คว้าชัยชนะ 4 นัดรวด เริ่มจากชนะ คริสตัล พาเลซ 2-0,ชนะ เลสเตอร์ 4-2 , ชนะ บอร์นมัธ 3-0 และเกมล่าสุดชนะฟูแล่ม 2-1 รั้งจ่าฝูงมี 12 แต้ม เหนือ แมนฯซิตี้ และ ไบรท์ตัน อยู่ 2 แต้ม ซึ่ง อาร์เตต้า ได้เผยถึงเป้าหมายในการลุ้นแชมป์ว่า ฤดูกาลนี้ยังอีกยาวไกลเกินกว่าจะคิดเรื่องนี้

“มันเป็นฤดูกาลที่มาราธอนมาก ผมคิดเรื่องการยืนระยะมากกว่า ฤดูกาลนี้ยังอีกยาวไกล คุณได้เห็นความยากของเกม ผลการแข่งขันที่มันเกิดขึ้น ความแข็งแกร่งที่มี คุณภาพของโค้ชระดับท็อปที่ทำให้แต่เกมยากขึ้นไปอีก มันเป็นแค่ต้นฤดูกาล ทุกคนก็ยังต้องมีบททดสอบ เรากำลังทำผลงานได้ดีและต้องรักษามันอย่างสม่ำเสมอ ทีสำคัญคือต้องถ่อมตัวและกระหายกับมันเรามีสองเกมในสัปดาห์นี้ เราต้องเตรียมตัว พักฟื้น และเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ให้ดีกับทุกๆ เกม คุณเห็นผลแล้วว่าเราต้องพร้อมกันมากจริงๆ”

ขณะเดียวกันสถิติที่น่าสนใจหลังเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษฤดูกาล นัดที่ 4 ในแมทช์ที่ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ปลดล็อกคว้าชัยนัดแรกได้สำเร็จ ด้วยการไล่ถล่มเอาชนะ เดอะ “เชอรีส์” บอร์นมัธทีมน้องใหม่ไป 9-0 เก็บเพิ่มเป็น 5 คะแนน ขยับจากอันดับ 16ขึ้นมาอยู่ที่ 8 มี 5 คะแนน ส่วน “เดอะ เชอร์รีส์” มี 3 แต้มเท่าเดิม หล่นไปอยู่อันดับ 16 แทน

โดยชัยชนะของ ลิเวอร์พูล ถือเป็นการยิงประตูคู่แข่งขาดลอยที่สุดกับการลงเล่นบนลีกสูงสุดของอังกฤษ รอบ 33 ปี นับตั้งแต่พวกเขาเคยเอาชนะ คริสตัล พาเลซ 9-0 เมื่อเดือนกันยายน ปี 1989 นอกจากจะเป็นการเอาชนะคู่แข่งเยอะสุดของ ลิเวอร์พูล ในยุค พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 9-0 ยังเป็นสถิติการเอาชนะขาดลอยสุดของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เทียบเท่ากับเกมที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ อิปสวิช ทาวน์ ด้วยสกอร์ดังกล่าวเมื่อปี 1995, เลสเตอร์ ซิตี้ ชนะ เซาแธมป์ตัน ปี 2019 และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ เซาแธมป์ตัน ปี 2021

สำหรับศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะกลับมาลงสนามอีกครั้งในกลางสัปดาห์นี้ โดยโปรแกรมมีดังนี้ เริ่มตั้งแต่วันอังคาร 01.30 น. คริสตัล พาเลซ - เบรนท์ฟอร์ด, 01.30 น. ฟูแล่ม -ไบรท์ตัน, 01.45 น. เซาแธมป์ตัน - เชลซี, 02.00 น. ลีดส์ ยูไนเต็ด - เอฟเวอร์ตัน / วันพุธ 01.30 น. บอร์นมัธ - วูล์ฟแฮมป์ตัน, 01.30 น. แมนฯซิตี้ - น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์, 01.30 น.อาร์เซน่อล - แอสตัน วิลล่า, 01.45 น. เวสต์แฮม - สเปอร์ส, 02.00 น. ลิเวอร์พูล - นิวคาสเซิ่ล / วันพฤหัสบดี 02.00 น. เลสเตอร์ ซิตี้ - แมนฯยูไนเต็ด