“ยิ่งเล่นยิ่งมีมูลค่า” คำนิยามในเวลานี้ที่จะให้กับ จู๊ด เบลลิ่งแฮม กองกลางดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษ ของ “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
หลายคนไม่เคยเห็น แต่เคยได้ยินข่าวว่า มีเด็กคนหนึ่งที่สโมสรเบอร์มิงแฮม ถึงกับประกาศ “รีไทร์หมายเลขเสื้อ” เมื่อครั้งที่ขาย จู๊ด ไปที่ทีมดังแห่งนอร์ธไรน์ เวสต์ฟาเลีย
หนุ่มน้อยจากสตอร์บริดจ์ ในตอนกลางของเกาะอังกฤษ ลูกชายของจ่าสิบเอกมาร์ค ตำรวจแห่งเวสต์มิดแลนด์ส เทิร์นโปรด้วยวัยเพียง 16 ปี 38 วัน ก่อนจะปฏิเสธ 20 ล้านปอนด์ จากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แล้วย้ายไป ดอร์ทมุนด์ 25 ล้านปอนด์ เป็นนักบอลที่แพงที่สุดด้วยวัยเพียงเท่านี้
เขายิ่งทำให้ทุกคนสนใจขึ้นไปอีกเมื่อทำประตูแรกได้ด้วยวัย 17 ปี 77 วัน ในเกมเดเอฟเบ โพคาล กับ มักเตบวร์ก จากนั้นก็มีตัวเลขสถิติเกิดขึ้นอย่างมากมาย
นาทีนี้ จู๊ด มีข่าวต่อเนื่องกับ ลิเวอร์พูล ที่ดูเหมือนว่าจะ“ล็อกสเปก” เพื่อจะคว้าตัวมาร่วมทัพในซีซั่นหน้า หลังจาก ดอร์ทมุนด์ไม่ต้องการเสียนักบอลตัวหลักไปพร้อมๆ กัน 2 คน ในปีเดียวหลังจากปีนี้เสีย เออร์ลิ่ง เบราท์-ฮาลันด์ ไปให้กับ แมนฯซิตี้ และถ้าย้อนกลับไปหนึ่งปีก่อนก็เสีย จาดอน ซานโช่ ไปให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ทีนี้วิธีการเล่นของ จู๊ด เป็นแบบไหน เหมาะกับสไตล์ 4-3-3 ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ หรือเปล่า
จู๊ด มีความน่าสนใจตรงที่ตัวเขาเป็นกองกลางที่ทรงพลังเล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถรักษาพื้นที่ได้ เติมเกมรุกได้ดีมีการสอดซ้อนได้อย่างครบเครื่องทั้งรุกและรับ ทั้งหมดที่กล่าวมาคือการเทียบมาตรฐานของนักบอลรุ่นเดียวกัน
ตัวเขามีความโดดเด่นมากกว่าคนอื่นๆ ชัดเจนมากๆ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับระดับการเล่นของเกมระดับสูง จู๊ด ยังคงมีปัญหาในการตัดสินใจการเล่นในจังหวะสุดท้าย รวมถึงการอ่านเกม และช็อตตัดสินใจที่เรื่องแบบนี้ มี 2 สิ่งที่จะสอนเขาได้เป็นอย่างดี
นั่นก็คือ เวลา และประสบการณ์
ความกล้าเล่น กล้าเลี้ยง กล้าแทคเกิ้ล กล้าจะลากไปดวลกับคู่แข่ง คือสิ่งที่กองกลางพึงมี แต่บางครั้ง จู๊ด ยังดื้อเกินไป และดันทุรังในการเล่นที่ทำให้เกิดจังหวะเสี่ยง
ที่บางครั้งเราอาจจะบอกว่า เขาถูกมองว่า “โอเวอร์เรต” มากเกินไป.....หรือเปล่า?!?!?
ทั้งหมดที่เราเห็นภาพมาก็คือ วิธีการเล่นของ ดอร์ทมุนด์ ที่มีแนวทางการเล่น “กองกลางคู่” ไม่ว่าจะปรับทัพเล่นแบบไหนก็ตาม 4-2-3-1 หรือ 3-4-3 เราจะเห็นได้ว่า แผนงานของทีมคือ กองกลางเล่นกันสองคน หรือ “กลางคู่”
โดย จู๊ด จะยืน “กลางคู่ตัวขวา” มักจะเล่นได้ดีเป็นพิเศษด้วย เวลาจับคู่กับ มาห์มูด ดาห์ฮู้ด ที่ยืนเป็น “กลางคู่ตัวซ้าย”
อย่างไรก็ตาม ในเกมแชมเปี้ยนส์ลีก กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปรากฏว่า ดอร์ทมุนด์ มาเล่นในสไตล์ 4-3-3
จู๊ด เล่นร่วมกับ เอ็มเร่ ชาน และซาลีห์ เอิซชาน โดยเขาได้รับหน้าที่เล่น “กองกลางด้านขวา” แบบเต็มตัว ที่เราไม่ค่อยได้เห็นในบุนเดสลีกา
มันกลายเป็น “บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์” ที่ทรงพลัง มาพร้อมกับ “วุฒิภาวะ” กับการเล่นฟุตบอลที่เกินวัยในระดับสูงขนาดนี้
การออกบอลของ จู๊ด ในบุนเดสลีกา ค่าเฉลี่ยความแม่นยำสูงมากที่ 84.3 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่เกมกับ แมนฯซิตี้ เขาจ่ายบอลสำเร็จ 75 เปอร์เซ็นต์
อาจจะน้อยกว่าบอลลีก แต่ต้องไม่ลืมวิธีการเล่นแบบบ้าดีเดือดของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่เพรสแบบไม่เลี้ยง
สิ่งสำคัญก็คือ สิ่งที่คุณต้องการจากกองกลางคือ การเล่นที่กล้าได้กล้าเสีย เสี่ยงเป็นเสี่ยง ไม่ใช่ส่งบอลแม่น ได้ตัวเลขที่ดี แต่ส่งทีละไม่เกิน 5 หลา
“A Risk-taking ball-player” คือตัวตนของเขาซึ่งเชื่อว่า คนที่ดูบอลจริงๆ จะชอบนักบอลแนวนี้
อีกเรื่องคือ การยืนตำแหน่งที่มิดฟิลด์ฝั่งขวา แต่พื้นที่ส่วนใหญ่ที่ จู๊ด โฉบมาเอาบอลนั้นก็คือ อยู่ด้านหน้าซ้าย หรือหมุดบนข้างหน้าเอิซชาน ในตำแหน่งแดนสาม
นี่คือการเล่นแบบสอดซ้อนที่มาทั้ง “ระบบ” และถือเป็น “ระดับ” ในการเล่น หมายความถึง Level ไม่ใช่ Class ซึ่งตรงนี้ผลดีมันตกสู่ทีมไม่ใช่ตกอยู่กับนักบอล
……ในกรณีนี้ หากจะให้นำเรียนเกี่ยวกับการเปรียบเทียบกับนักบอลตำแหน่งเดียวกันของ ลิเวอร์พูล ในซีซั่นนี้ ผลงานของ จู๊ด นำหน้ากว่าชัดเจนมาก ไม่ใช่แค่ความสามารถในเรื่องของเทคนิคเท่านั้น แต่เป็นวิธีการ และยุทธวิธีที่สำคัญ
สองประเด็นก็คือ 1.การเข้าปะทะของ จู๊ด ปีนี้ เข้าวินการปะฉะดะเฉลี่ย 3 ครั้งต่อเกมในบุนเดสลีกา ดีกว่า จอร์แดน เฮนเดอร์สัน(1.1) กับ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์(1.3) ซึ่ง จู๊ด จะเป็นรองแค่ นาบี เกอิต้าที่ทำได้ 3.5 เมื่อปีก่อน
2.การเข้าสกัด ซึ่ง จู๊ด ดีกว่าชัดเจนมากเมื่อทำได้ 1.7 ครั้ง มากกว่า เฮนโด้ 1.4, เกอิต้า 1.1 และหนักเลยคือ เอลเลียตต์ 0.6 เท่านั้น
ถ้าจะแถมไปอีกข้อก็คือ จู๊ด มีความกล้าที่จะลากบอลเข้าไปดวลกับคู่ต่อสู้ ทำให้เกิดพื้นที่ว่างสำหรับเพื่อนร่วมทีม
ด้วยความเคารพ นั่นก็คือ ลิเวอร์พูล นาทีนี้อาจจะไม่ต้องการ เจมส์ มิลเนอร์ ให้ลงเล่นทุกสัปดาห์ หรือภาวนาให้ เฮนเดอร์สัน กลับมาเล่นได้เหมือนกับ 3 ซีซั่นก่อนหน้านี้ ที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ค้นพบบทบาทสำคัญ และวาง เฮนโด้ จนมีประโยชน์สูงสุดให้กับทีม
นาทีนี้ทีมต้องการคนที่บุคลิกเดียวกัน มีร่างกายที่เหมือนกับ มิลเนอร์ และทำงานหนักได้เหมือนกับ เฮนโด้ แต่....
แต่ไม่ใช่ มิลเนอร์ และเฮนโด้ ก็เท่านั้นเอง
ทีนี้ จู๊ด บริบท และบทบาทต่างๆ ที่ได้เห็น ตำแหน่งที่ดีที่สุดของเขานั่นคือ บทบาทแผงมิดฟิลด์ที่ยืนตัวขวา คือสิ่งที่ตอบโจทย์ชัดเจน
มาถึงวันนี้คือ จู๊ด เล่นกับดอร์ทมุนด์ ครบไปแล้ว 100 นัด ในความเป็นไปได้รวม 107 เกม ทำไป 13 ประตู กับ 18 แอสซิสต์เนื้อหอมสุดๆ เพราะเจ็บไป 3 ครั้ง และติดแบนไป 2 หน ซึ่งก็แปลกดีกับเรื่องเจ็บที่น้อยกว่าสไตล์การเล่นที่ไม่กลัวการปะทะอย่างเขา
ยิ่งการเป็นนักบอลอังกฤษ แล้วไปเล่นต่างแดน ยิ่งโชว์ฟอร์มร้อนแรง แสงก็จะยิ่งสาดใส่
ราคาก็จะยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ กับสัญญาที่มีอยู่ที่เยอรมนี จนถึงปี 2025 และจะไม่ใช่แค่ ลิเวอร์พูล ทีมเดียวที่อยากได้ไปร่วมทีม
ในลิสต์หน้าข่าวมีทั้ง เรอัล มาดริด, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ
100 ล้านปอนด์ เป็นราคาที่ท้าทายมากๆ
แต่ 132 ล้านปอนด์ เป็นราคาที่แพงมากเกินไป แม้จะเล่นได้ดีแต่ “เรต” มันค่อนข้างจะ “โอเวอร์” ไปหน่อย
เพียงแต่ว่า ด้วยคุณสมบัติ ณ เวลานี้ เหมาะสมที่จะทุบคลังทุกประการครับ....
สำหรับจอห์น ดับเบิ้ลยู เฮนรี่ และเฟนเวย์!!!
ทำเนียบ 10 นักเตะแพงที่สุดตลอดกาล
1.แจ๊ค กรีลิช 100 ล้านปอนด์ (วิลล่า ไป แมนฯซิตี้ ปี 2021)
2.แฮร์รี่ แม็กไกวร์ 80 ล้านปอนด์ (เลสเตอร์ ไป แมนยูฯปี 2019)
3.จาดอน ซานโช่ 72.9 ล้านปอนด์ (ดอร์ทมุนด์ ไป แมนยูฯปี 2021)
4.เบน ไวท์ 50 ล้านปอนด์ (ไบรท์ตัน ไป อาร์เซนอล ปี 2021)
5.แอร่อน วาน-บิสซาก้า 49 ล้านปอนด์ (พาเลซ ไปแมนยูฯปี 2019
6.ราฮีม สเตอร์ลิ่ง 49 ล้านปอนด์ (ลิเวอร์พูล ไป แมนฯซิตี้ ปี 2015)
7.จอห์น สโตนส์ 47.5 ล้านปอนด์ (เอฟเวอร์ตัน ไป แมนฯซิตี้ปี 2016)
8.ราฮีม สเตอร์ลิ่ง 47.5 ล้านปอนด์(แมนฯซิตี้ ไป เชลซีปี 2022)
9.เบน ชิลเวลล์ 45 ล้านปอนด์ (เลสเตอร์ ไป เชลซี ปี 2000)
10.ไคล์ วอล์คเกอร์ 45 ล้านปอนด์ (สเปอร์ส ไป แมนฯซิตี้ปี 2017)
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี