ประตูชัย : สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ กองกลางแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซัดประตูชัยในช่วงทดเจ็บ ช่วยให้ทัพ “ปีศาจแดง” เปิดบ้านเอาชนะ โอโมเนีย นิโคเซีย 1-0 ในศึก ยูโรป้า ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม 2022 คู่สำคัญอยู่ในเวลา 23.30 น. “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม

ฮ็อทสเปอร์ จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน”เอฟเวอร์ตัน

สเปอร์ส เพิ่งจะเฉือนเอาชนะ ไอทรัค แฟรงค์เฟิร์ต ในแชมเปี้ยนลีกมา 3-2 เกมนี้ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน แอแมร์ซอน รอยัล แบ๊กขวาที่ต้องใช้โทษแบนจากใบแดงในเกมที่พ่ายให้กับ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ในรายของ เดยัน คูลูเซฟสกี้ ตามรายงานกลับมาซ้อมได้แล้ว และมีแววว่าเกมนี้เขาจะเบียด ริชาร์ลิซอน ลงตัวจริง ประสานงานกับ แฮร์รี่ เคน และซน ฮึง มิน เป็นแนวรุก นอกนั้นยังเหมือนเดิมไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรยึดในระบบ 3-4-3 มี ปีแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์ค และโรดริโก้ เบนตานคูร์ คุมแดนกลาง

ทีมเยือน “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน ฟอร์มดีขึ้นอย่างชัดเจน แต่เกมที่แล้วพ่ายคารังให้กับ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-2 เกมนี้ไม่มีแอนโธนี่ กอร์ดอน แนวรุกดาวรุ่งที่ติดโทษแบนจากการสะสมใบเหลืองครบ 5 ใบ ส่วน เบน ก็อดฟรีย์, แอนดรอส ทาวน์เซ่นด์ และเนธาน แพ็ตเตอร์สัน ยังมีอาการบาดเจ็บ ขณะที่ โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิ่น น่าจะนั่งสำรองไปก่อน นอกนั้นเป็นชุดเดิมใช้ระบบ 4-3-3 นำทัพโดย อเล็กซ์ อีโวบี้, อิดริสซ่า กาน่า เกย์, อมาดู โอนาน่า, ดไวท์ แม็คนีล, นีลโมเปย์ และเดมาไร เกรย์ 

สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด กลายเป็น เอฟเวอร์ตัน ที่ทำได้ดีกว่าชนะ 2 เสมอ 1 และสเปอร์ส ชนะ 1     

สกอร์ที่คาด : สเปอร์ส 2-1 เอฟเวอร์ตัน

เลสเตอร์ ซิตี้ - คริสตัล พาเลซ เวลา 18.30 น. เจ้าบ้านหล่นไปรั้งบ๊วยของตารางอีกครั้ง หลังสัปดาห์ที่ผ่านมาพ่ายให้กับ บอร์นมัธ 2-1 เกมนี้ทีมของ แบรนแดน ร็อดเจอร์ส ยังไม่มี ริคาร์โด้เปเรยร่า, ไรอัน เบอร์ทรานด์ และวีลฟรีด เอ็นดิดี้ ที่มาเจ็บเพิ่งไปอีกคน ส่วน ทีโมธี กาสตานเญ่ ต้องรอทดสอบความฟิต นอกนั้นลงได้หมดส่ง บูบาการี่ ซูมาเร่ ลงไปคอยตัดเกมแดนกลาง ปล่อยให้ เจมส์ แมดดิสัน, ยูรี ตีเลมานส์, เคียร์แนน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์ และฮาร์วี่ยบาร์นส์ ทำเกมรุกอยู่ด้านหลังของหน้าเป้าอย่าง แพตสัน ดาก้า 

ทีมเยือน “ปราสาทเรือนแก้ว” คริสตัล พาเลซ ภายใต้การคุมทีมของ ปาทริค วิเอร่า เกมนี้แล้วเปิดบ้านเอาชนะ “ยูงทอง” ลีดส์ ยูไนเต็ด มา 2-1 เกมนี้ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน นาธาเนี่ยล ไคลน์และคริส ริชาร์ดส ที่พากันบาดเจ็บ ที่เหลือตามรายงานไม่มีปัญหาอะไร มาในระบบ 4-3-3 นำโดย ไมเคิ่ล โอลิเซ่, ชีค อูมาร์ ดูคูเร่, เอเบเรซี่ เอเซ่, จอร์แดน อายิว, อ็อดซอนด์ เอดูอาร์ และวีลฟรีดซาฮา  

สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 5 เกม หลังสุด เลสเตอร์ ซิตี้ ไม่แพ้เลย ชนะได้ 3 และเสมอ 2  

สกอร์ที่คาด : เลสเตอร์ ซิตี้ 1-1 คริสตัล พาเลซ

ฟูแล่ม – บอร์นมัธ เวลา 21.00 น. “เจ้าสัวน้อย” ฟูแล่มรั้งอันดับ 9 ของตารางฟอร์มกำลังแผ่วแพ้มา 2 เกมติด แถมเสียไปถึง 7 ประตู เรียกได้ว่าเกมรับมีปัญหา แถมนัดนี้ยังไม่มี เลย์แว็ง คูร์ซาว่า และวิลเลี่ยน ที่บาดเจ็บ รวมไปถึง นาธาเนี่ยล ชาโลบาห์ ที่ติดโทษแบน ปัญหาสำคัญคือต้องลุ้นว่า เคนนี่ เตเต้ และอเล็กซานดาร์มิโตรวิช สองแกนหลักว่าจะพร้อมหรือไม่ มีความเป็นไปได้ว่าตำแหน่งแบ๊กขวาอาจจะต้องถอย บ๊อบบี้ เด คอร์โดว่า-รี๊ด ไปเล่นแก้ขัด ส่วนหน้าเป้าต้องใช้ คาร์ลอส วินิซิอุส 

ทีมเยือน “เดอะ เชอร์รีส์” บอร์นมัธ หลังโดนลิเวอร์พูลถล่ม 9-0 พวกเขายังไม่แพ้ใครเลย ภายใต้การคุมทีมของ แกรี่ โอนีลกุนซือขัดตราทัพ ชนะ 3 เสมอ 2 เกมนี้ไม่มี จูเนียร์ สตานิสลาฟ, เดวิด บรู๊คส์ และลอยด์ เคลลี่ ที่บาดเจ็บ นอกนั้นพร้อมลงสนามได้หมด การดันเอา ฟิลิป บิลลิ่ง จากมิดฟิลด์ขึ้นไปเล่นหน้าคู่กับ โดมินิค โซลันกี้ ถือว่าน่าสนใจเพราะทำผลงานได้ดี และเชื่อว่าเกมนี้อาจจะใช้แท็กติกเดิมในระบบ 4-4-2  

สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด บอร์นมัธ ชนะ 2 เสมอ 1 และฟูแล่ม ชนะ 1   

สกอร์ที่คาด : ฟูแล่ม 1-1 บอร์นมัธ

วูล์ฟแฮมป์ตัน - น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เวลา21.00 น. “หมาป่า” ที่ปลด บรูโน่ ลาจ ออกจากตำแหน่งกุนซือจนถึงตอนนี้ยังไม่ได้ตั้งใครเข้ามาคุมทีมแบบถาวร มีข่าวกับ ฆูเลน โลเปเตกี แต่ก็ถูกปฏิเสธไปแล้วเพราะโค้ชชาวสเปนต้องการดูแลมารดา ทำให้ต้องใช้ เจมส์ คอลลินส์ และสตีฟ เดวิส โค้ชเยาวชนคุมทีมขัดตราทัพไปก่อน เกมนี้ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน รูเบน เนเวส และเนธาน คอลลิ่นส์ ที่ติดโทษแบน แถมยังมีผู้เล่นที่บาดเจ็บหลายราย อาทิ ราอูล ฆิมิเนซ และเปโดร เนโต้ ปรับทีมมาเล่นในระบบ 4-2-3-1 ชูเอา มูตินโญ่ คุมแดนกลางร่วมกับ มาเตอุส นูเนส แนวรุกนำโดย อดาม่า ตราโอเร่, แดเนี่ยล โพเดนซ์, กอนซาโล่ กูเอเดส และดีเอโก้ คอสต้า 

ทีมเยือน “เจ้าป่า” น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ตอนนี้มี 5 คะแนนจากการลงเล่น 9 นัด ชนะ 1 เสมอ 2 แพ้ 6 รั้งรองบ๊วย ทีมของ สตีฟ คูเปอร์ ยังไม่มี มุสซ่า เนียคาเต้, โอมาร์ ริชาร์ดส และแจ็ค โคลแบ็ค ที่บาดเจ็บ นอกนั้นไม่มีปัญหาอะไรตัวเลือกในการใช้งานเพียบ แต่คุณภาพนั้นอีกเรื่อง มาในระบบ 4-3-3 นำทัพโดย ไรอัน เยตส์, เรโม่ ฟรอยเลอร์, ชีค คูยาเต้, แบรนแนน จอห์นสัน, เอ็มมานูเอล เดนนิส และมอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์ 

สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด ไม่เคยจบลงด้วยผลเสมอ วูล์ฟส เหนือกว่าเยอะ ชนะ 4 ส่วน ฟอเรสต์ ชนะ 1    

สกอร์ที่คาด : เสมอ 0-0