นาทีนี้ย่อมมีการสงสัยว่าอนาคตของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เอฟซี นั้นเป็นอย่างไรกันแน่

เมื่อมีเรื่องจะ “เปลี่ยนมือ” แม้จะ “ไม่เต็มใบ” แต่นั่นมันหมายถึง “อนาคต” ของทีม เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมากๆ

ซึ่งเป็น “คนละเรื่องเดียวกัน”กับเมื่อปี 2010

สัมผัสได้เลยกับเรื่อง “สมาธิ” เพราะทิศทางในอนาคตของลิเวอร์พูลอยู่ในสถานการณ์ที่ “ไม่แน่นอน” หลังจากที่เจ้าของทีมกำลังจะ “พิจารณาผู้ถือหุ้นรายใหม่”

มันต้องทำให้นักบอล และเจอร์เก้นคล็อปป์ เสียสมาธิไม่มากก็ต้องน้อย

แม้สำนวนจากถ้อยแถลง และการทำงานในปัจจุบันนั้นตีออกมาถึงเรื่องที่ “เป็นไปไม่ได้เลย” ที่ Fenway Sports Group(FSG) จะขาย ลิเวอร์พูล แบบเต็มใบ

เพียงแต่ที่มีอยู่ตอนนี้มันอาจจะ“ไปไม่ไกลกว่านี้” หรือว่า “ความสนใจ” ในพื้นฐานทางเศรษฐกิจปัจจุบันมันส่งผลต่อความคิดเช่นเดียวกัน

ที่ผ่านมา FSG ได้พิสูจน์แล้วว่า“ฉลาดหลักแหลม” ในการพัฒนา ลิเวอร์พูล ให้กลายเป็นแบรนด์ที่ยิ่งโตขึ้นชัดเจน บวกกับแนวคิด “Moneyball” เกี่ยวกับการสรรหาและรักษาผู้เล่น

หมายความว่า ลิเวอร์พูล ประสบความสำเร็จในช่วงหลายปีที่ผ่านมาทั้งที่ไม่ได้ใช้เงินมากมายอะไร ซึ่งตรงกันข้ามกับหลายสโมสรยักษ์ใหญ่ในเรื่องของ “การลงทุน”

หากคิดในแง่ที่มองกันได้ก็คือ เรื่องนี้มันมีให้คิดได้ “หลายพิมพ์เขียว”

การไม่ประสบความสำเร็จในการก่อตั้งซูเปอร์ลีก, การพลาดพลั้งจั่วลมหลายครั้งในการผิดใจกับคนในเมือง(เคยเขียนไปแล้วเรื่อง นกไลเวอร์เบิร์ด กับชื่อเมือง) รวมถึงการเห็น เชลซีที่ขายได้มากถึง 4,250 ล้านปอนด์แถมมีเศรษฐีที่สนใจ “นับร้อยราย”

หรือผลงานปีก่อนแม้จะได้แชมป์ 2 รายการก็จริง แต่พลาดถ้วยใหญ่ มูลค่าหายไปพอสมควร บวกกับการออกสตาร์ทซีซั่นใหม่ที่ฟอร์มดุจรถไฟเหาะตีลังกา

น่าสนใจก็คือ นักลงทุนจากสหรัฐ อาจจะได้สิทธิ์ก่อน เพราะจะค่อยๆ เข้ามาซื้อแบบเดียวกับ มัลคอล์ม เกลเซอร์ ผิดกับพวกตะวันออกกลาง ที่ต้องการซื้อแบบรวบหัวรวบหาง

ซึ่งดูทรงแล้วเป็นไปไม่ได้ที่ FSG จะปล่อย

อีกเรื่องที่สำคัญก็คือ ในนาทีปัจจุบันสถานะของ “เงินปอนด์” อ่อนตัว

มันยั่วพอตัวที่จะทำให้ดีลนั้นน่าดึงดูดยิ่งขึ้น หากนักลงทุนเหล่านั้นมาจากต่างประเทศ ยิ่งตัดสินใจง่ายขึ้นและเป็นไปได้ที่จะมาจากทั่วสารทิศ

ยกเว้น จีน ที่รัฐบาลประกาศห้ามไม่ให้ลงทุนในฟุตบอล ซึ่งจะทำให้เป็นพื้นที่เดียวที่หายไปจากแผ่นที่โลก

“ความไม่แน่นอน” ณ เวลานี้ ทำให้แยกแฟนบอลได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ อย่างไรก็ตาม แฟนบอลในถิ่นเกิดของสโมสร คือ พื้นฐานฝังรากที่สำคัญของฟุตบอลอาชีพ

พวกเขาไม่ได้หยุดนิ่ง

กลุ่มแฟนบอล “Spirit of Shankly” ผู้นำแห่งกองเชียร์ท้องถิ่นนิยม เป็นลำดับแรกที่เดินหน้าจริงจัง ไม่สาดของเสียผ่านทางโซเชียล เป็นหัวหอกในการทวงถามในฐานะของผู้เป็นสหภาพกองเชียร์ของสโมสร

พวกเขาได้ทำจดหมายถึงสโมสร เพื่อขอคำชี้แจงเกี่ยวกับการขายที่อาจเกิดขึ้นทันที

อนาคตในสนามของลิเวอร์พูล ยังมีเครื่องหมายคำถาม น่ากังวลว่ากำลังขึ้นๆ ลงๆ ไม่เสถียร

อนาคตนอกสนามของ ลิเวอร์พูล ก็คงจะมีคำถามไม่น้อยไปกว่ากัน

ยังไม่เสถียรเหมือนกันจริงๆ...แต่ที่แน่ๆ ใครจะซื้อใครจะขาย ผมเชื่ออย่างหนึ่งว่า ตอนนี้นักบอลต้องการกำลังใจและสมาธิ

“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ต้องได้ยินเสียงเชียร์ของแฟนบอล”

ไม่อย่างนั้นจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย

บี แหลมสิงห์