"Muchachos, ahora nos volvimo' a ilusionar."
เป็นเพลงของสาวกลูกหนัง อาร์เจนติน่า ที่โด่งดังมาตั้งแต่อดีต ที่ได้รับการบันทึกมาหลายสมัย แปลออกมาให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือ "เฮ้ย พวกเราได้เวลาตื่นเต้นกันอีกแล้ว"
BBC นำเสนอเรื่องราวของแฟนฟุตบอลอาร์เจนไตน์ ได้ร้องเพลงนี้กันทั้งก่อนแข่ง, ระหว่างแข่งและภายหลังเกมการแข่งขัน
กองทัพอัลบิเซเลสเต้ กระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุขบนรถไฟใต้ดินและบนอัฒจันทร์ พวกเขาร้องเพลงซ้ำ ๆ หลังจากได้เห็นฟอร์มการเล่นอันสุดแสนจะ "มาสเตอร์คลาส" จากความหวังของหมู่มวลอย่าง ลีโอเนล เมสซี ในวัยที่เดินทางมาถึงตัวเลขที่ 35 ปี
แฟนบอลต่างร้องตะโกนว่า "เมสซี เมสซี เมสซี" เมื่อสิ้นเสียงนกหวีดสุดท้ายของเกมที่ปราบ ออสเตรเลีย 2-1และเขาร่วมกับเพื่อนร่วมทีมกระโดดโลดเต้น ต่อหน้าแฟนบอล
เมสซี่ ดูเข้าถึงง่ายขึ้น และเฟรนด์ลี่ย์ขึ้น เล่นเพื่อทีมมากขึ้น
เมสซี กล่าวหลังเกมว่า นี่เป็นความรู้สึกที่น่าทึ่ง ผมมีความสุขจริงๆ ที่ได้แบ่งปันช่วงเวลาที่สวยงามของพวกเขากับแฟนๆ ผมรู้ว่าพวกเขาพยายามมากแค่ไหนในการมาที่นี่เพื่อให้กำลังใจเรา และผมก็รู้ว่าชาวอาร์เจนตินาทั้งหมดต้องการมาที่นี่ สายสัมพันธ์ สหภาพแรงงาน เรามีสิ่งที่สวยงามอยู่เสมอ ๆ
"ความหลงใหล พลังงาน และความสุขของแฟนๆ เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ เหลือเชื่อจริงๆ พวกเขาใช้ชีวิตจากข้างใน แล้วส่งมันออกมาให้เราได้เห็น และผมเห็นว่าพวกเขาต้องทนทุกข์ระหว่างเกม หรือสนุกกับมันอย่างไร มันน่าทึ่งมาก พวกเขาตื่นเต้นเช่นเดียวกับชาวอาร์เจนติน่าทุกคน"
"ฮ็อตช็อต" อลัน เชียร์เรอร์ อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษ แสดงทัศนะกับ BBC One ว่า "เราโชคดีมากที่ได้มาชม เมสซี่ ในสนามนี้ การเล่นของเขาสุดยอดมาก เราได้พูดถึงความสามารถ ความกระหาย และความปรารถนาของเขาแล้ว
"ความสามารถในการวิ่งไปกับลูกบอลซึ่งดึงดูดผู้เล่นมากมาย วิธีที่ เมสซี ใช้พื้นที่นั้นยอดเยี่ยม วิธีที่เขาพาบอลมันสวยงาม เหมือนมีสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นรอบๆ ตัวเขา เขามีทุกอย่างจริง ๆ และเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาได้บอล คนทั้งสนามก็จะลุกขึ้นยืน ไม่สำคัญว่าเขาอยู่ที่ไหนในสนาม คนทั้งสนามก็จะลุกขึ้น"
ในเกมกับ ออสเตรเลีย เขาผ่านบอลสำเร็จ 90% สร้างโอกาสได้ 4 ครั้ง จากการสัมผัสบอลได้ 9 ครั้งในกรอบเขตโทษ
เกรมแฮม อาร์โนลด์ กุนซือคนเหล็กของออสเตรเลีย ยอมรับว่า เมสซี่น่าทึ่งมาก หนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยมีมา เราทำงานหนักจริงๆ เพื่อไม่ให้กลัวเขา แต่เขาน่าทึ่งมากจริง ๆ
"อาร์เจนติน่าควรจะภูมิใจและมีความสุขมากที่พวกเขามีผู้เล่นที่มีคุณภาพแบบนี้เป็นผู้นำทีม"
ฟากฝั่ง "มิสเตอร์ไนซ์กาย" แกรี่ ลินิเกอร์ กล่าวว่า มันทำให้ผมนึกถึงปี 1986 และนี่คือทีมเดียวกันกับที่ ดีเอโก้ มาราโดนา เคยนำทัพมา พวกเราแพ้เขา 1-2 ในเกมที่ทุกคนยังพูดกันจนถึงทุกวันนี้ ของการเตะรอบ 8 ทีมสุดท้าย
"อาร์เจนติน่า ชุดนี้เริ่มเหมือนกับปี 1986 พวกเขายากที่จะต่อกร, มีความแข็งแกร่ง และอดทนกับเกมที่ยาก แต่ในนั้นคือพวกเขามีสายตาที่มองเห็นว่า จะทำยังไงให้ชนะ"
"พวกเขามีแทคติคที่ยากที่จะเอาชนะและอาศัยความมหัศจรรย์ของ ดีเอโก้ มาราโดนา ทำให้ชุดนี้มีความคล้ายคลึงกันมากมาย เพียงแต่ตอนนั้น มาราโดนา อยู่ในช่วงพีค ส่วน เมสซี กำลังจะถึงจุดสิ้นสุดของอาชีพอย่างเห็นได้ชัด แต่พวกเขาจะทำได้หรือไม่? นั่นคือสิ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษ"
"เขาทำในสิ่งที่ผมไม่เคยเห็นนักเตะคนไหนนอกจากมาราโดนาทำ และการมีนักเตะสองคนที่ถนัดเท้าซ้ายและมาจากประเทศเดียวกัน ตัวเล็กทั้งคู่...มันน่าประหลาดใจจริง ๆ"
"คนละยุคกัน สนุกทั้งคู่" ลินิเกอร์ ว่ามาอย่างนั้น
นั่นแหล่ะ.....มันสนุกจริงๆ
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี