“ซามูไรบลูส์” ทีมชาติญี่ปุ่น และ “โสมขาว” ทีมชาติเกาหลีใต้ 2 ตัวแทนจากทวีปเอเชีย เตรียมลงทำศึกครั้งสำคัญใน ฟุตบอลโลก 2022 รอบน็อกเอาท์16 ทีมสุดท้ายในค่ำคืนวันจันทร์นี้ ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ประจำวันจันทร์นี้จะมีลงสนามฟาดแข้ง 2 คู่ โดย 2 ชาติตัวแทนจากทวีป เอเชีย ที่เหลืออยู่อย่าง “โสมขาว” เกาหลีใต้ จะพบกับ เต็ง 1 ของรายการอย่าง “แซมบ้า” ทีมชาติ บราซิล และ “ซามูไรบลูส์” ทีมชาติ ญี่ปุ่น จะดวลกับ “ตาหมากรุก” ทีมชาติโครเอเชีย รองแชมป์เก่า โดยปรีวิวทั้งสองคู่มีดังนี้
เวลา22.00น.ญี่ปุ่น-โครเอเชีย (True4U, ทรูสปอร์ต 2: ทัพ “ซามูไรบลูส์” ผ่านเข้ารอบมาแบบยิ่งใหญ่เมื่อคว่ำ 2 แชมป์โลกทั้ง เยอรมนี และ สเปน มาในรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งเรื่องแบบนี้ไม่เกิดขึ้นมา 44 ปีแล้ว โดยทีมสุดท้ายที่ชนะทั้งสเปนและเยอรมนีในฟุตบอลโลกครั้งเดียวกัน ก็คือ ออสเตรีย ในฟุตบอลโลก 1978
เกมนี้สภาพความพร้อมของ ฮาจิเมะ โมริยาสุ กุนซือทีมชาติญี่ปุ่น ที่จะมาในระบบ 3-4-3 จะขาด โค อิตาคุระ ปราการหลังคนสำคัญที่ติดโทษแบน แต่จะได้ ทาเกฮิโระ โทมิยาสุ ที่แม้จะเป็นตัวสำรองในทัวร์นาเมนต์นี้แต่ลงมาเล่นได้ดีทุกนัด ลงเป็นตัวจริงแทน ส่วนแกนหลักรายอื่นไม่มีปัญหาอยู่ที่ว่า โมริยาสุ จะวางแผนส่งลงเล่นยังไง โดยแข้งอย่าง มายะ โยชิดดะ ,อาโอะ ทานากะ ,จุนยะ อิโตะ ,ริตสึ โดอัน ,ทาเคฟุสะ คุโบะ ,ไดอิชิ คามาดะ ,คาโอรุ มิโตมะ และ ไดเซน มาเอดะ จะพร้อมล่าฝันทั้งหมด
ทางฝั่ง “ตาหมากรุก” รองแชมป์โลกจากเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ยังไว้ลายเมื่อเกมสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่มเสมอกับ เบลเยี่ยม เข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่มได้สำเร็จ เกมนี้ ซลัตโก ดาลิช กุนซือของทีมจะไม่เจอแข้งเจ็บหรือติดโทษแบน จะมาในระบบ 4-3-3 นำโดยคู่เซ็นเตอร์แบ็กที่เล่นได้อย่างแข็งแกร่งอย่าง ยอสโก้ กวาร์ดิโอลและเดยัน ลอฟเรน ส่วนแดนกลางแน่นปั๊กมี มัตเตโอ โควานซิช ,มาร์เซโล่ โบรโซวิช และ ลูก้า โมดริช คอยขับเคลื่อนเกมอยู่หลังแนวรุกอย่าง อิวาน เปริซิช , อังเดร ครามาริช และ มาร์โก้ ลิวาย่า
สำหรับ โครเอเชีย-ญี่ปุ่น เคยเจอกันในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมาแล้ว 2 ครั้ง ในปี 1998 และ 2006 ซึ่งเป็นการเจอกันในรอบแรกทั้ง 2นัด ผลปรากฏว่า โครเอเชีย ชนะ1 เสมอ1
11คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม ญี่ปุ่น (3-4-3) : ชูอิจิ กอนดะ ; ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ, โชโกะ ทานิงุจิ, มายะ โยชิดะ , จุนะ อิโตะ; ชินจิ ทานากะ, ฮิเดมาสะ โมริตะ, ยูโตะ นากาโตโมะ , ริตสึ โดอัน, ไดเซน มาเอดะ, ไดจิ คามาดะ
โครเอเชีย (4-3-3) : โดมินิค ลิวาโควิชะ; โยซิป ยูราโนวิช, เดยัน ลอฟเรน, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, บอร์นา โซซ่า ; ลูก้า โมดริช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช, มาเตโอ โควาซิช ; อันเดรจ์ ครามาริช, มาร์โก้ ลิวาย่า, อิวาน เปริซิช
เวลา02.00น.เกาหลีใต้-บราซิล (ช่อง 8 , ทรูสปอร์ต 2) : ทัพ “โสมขาว” ระเบิดฟอร์มสุดยอดมาทันเวลาเมื่อเอาชนะ โปรตุเกส ในรอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย เกมนี้ เปาโล เบนโต้ กุนซือของทีมชาวโปรตุเกส จะไม่เจอปัญหาแข้งเจ็บหรือติดโทษแบน แต่เจ้าตัวจะหมดสิทธิ์คุมทีมข้างสนาม เนื่องจากโดนใบแดงจากเกมนัดที่แล้ว
โดย ฮวาง ฮี ชาน กองหน้าฮีโร่ซัดประตูชัยเกมที่แล้ว จะพร้อมกลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง ส่วนแกนหลักคนอื่นๆทั้ง จอง วู-ยอง, ซน ฮึง-มิน และ โช กยู-ซอง จะยังเป็นสามประสานแนวรุกเช่นเดิม ส่วนในแผงกองกลางจะมี จอง อู-ยอง และ ควอน ชาง-ฮุน เป็นตัวขับเคลื่อนเกม ขณะที่แนวรับ ยังมีตัวเก่งอย่าง คิม มิน-แจ กับ คิม ยอง-กวอน เป็นแกนหลักนำทัพ
ทางฝั่ง แซมบ้า บราซิล ที่ยังคงยึดเต็ง 1 ของที่จะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกหนนี้ แม้นัดสุดท้ายจะพ่ายให้กับ แคเมอรูน 0-1 ก็ตาม แต่เกมนี้ ติเต้ กุนซือของทีม จะขนแข้งตัวหลักที่ได้พักในเกมที่แล้วกลับมาลงสนามทั้งหมด รวมถึงจะได้รับข่าวดีเมื่อ เนย์มาร์ จอมทัพคนสำคัญหายเจ็บพร้อมกลับมาลงช่วยทีมได้แล้ว ส่วน ดานิโล่ กับ อเล็กซานโดร ต้องรอทดสอบความฟิต อย่างไรก็ตามต้องเจอข่าวร้ายเช่นกันเมื่อ กาเบรียล เฆซุส และ อเล็กซ์ เตลเลส 2 แข้งของทีมที่เจ็บในเกมนัดสุดท้ายต้องถอนตัวจากการแข่งขันไปแล้ว
เกมนี้ บราซิล จะมาในระบบ 4-1-4-1 ผู้รักษาประตู อลิสซอน เบ็คเกอร์ จะยืนเฝ้าเสา พร้อมให้ มาร์กินญอส เป็นปราการหลังคู่กับ ติอาโก้ ซิลวา ส่วนแดนกลาง คาเซมิโร่ จะยืนเป็นห้องเครื่องร่วมกับ ลูคัส ปาเกต้า และมี เนย์มาร์ ยืนเป็นจอมทัพอยู่หลังกองหน้าอย่าง ราฟินญ่า ,วินิซิอุส จูเนียร์ และ ริชาร์ลิซอน
11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม เกาหลีใต้ : คิม ซึง-กิว (GK),คิม มุน-ฮวาน,ควอน คยุง-วอน,คิม ยอง-กวอน,คิม จิน-ซู,ฮวาง อิน-บอม,จอง วู-ยอง,อี คัง-อิน,อี แจ-ซอง,ซน ฮึง-มินมโช กยู-ซอง
บราซิล (4-2-3-1): อลิสซอน เบ็คเกอร์; เอแดร์ มิลิเตา, ติอาโก้ ซิลวา, มาร์กินญอส, อเล็กซ์ ซานโดร, คาเซมิโร่ ,ลูคัส ปาเกต้า , ราฟินญ่า, วินิซิอุส จูเนียร์ ,ริชาร์ลิซอน
ขณะเดียวกัน เปเล่ ดาวยิงระดับตำนานทีมชาติ บราซิล ออกมายืนยันว่าเขานั้นยังคงแข็งแรงดี และส่งใจเชียร์ ทัพ แซมบ้า ในฟุตบอลโลกหนนี้มาตลอด หลังก่อนหน้านี้มีรายงานว่าเจ้าของฉายา “ไข่มุกดำ” ที่เป็นมะเร็งลำไส้ นั้นได้หยุดทำคีโมแล้ว หลังการรักษาไม่ได้รับการตอบสนองและต้องย้ายวอร์ดไปอยู่ในกระบวนการสุดท้าย
ล่าสุด เปเล่ ได้โพสต์ข้อความผ่านทาง อินสตาร์แกรมส่วนตัว ตอบโต้เรื่องดังกล่าวแล้วว่า “ถึงเพื่อนของผม ผมอยากให้ทุกคนใจเย็นแล้วมองแง่บวกนะ ผมยังแข็งแรงดี ยังมีความปรารถนาดีมากมายและผมก็มารักษาตามปกติ อยากขอบคุณแพทย์และทีมพยาบาลทุกคนที่ดูแลผม ผมยังมีศรัทธาต่อพระเจ้า และทุกข้อความเปี่ยมด้วยความรักที่ส่งมาให้ ทำให้ผมมีพลังเต็มเปี่ยม และยังตามเชียร์ บราซิล ในฟุตบอลโลกเหมือนเดิม ขอบคุณมากสำหรับทุกสิ่ง” ทั้งนี้ ตัวแทนจากทางโรงพยาบาล อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ที่เปเล่ ไปรักษายังชี้แจงด้วยว่าข่าวที่บอกว่า เข้าสู่กระบวนการรักษาระยะสุดท้ายว่าไม่ถูกต้อง เพราะเขาแค่เข้ามารับการตรวจตามนัดหมายปกติทุกเดือน ปัจจุบันสุขภาพของ เปเล่ ยังอยู่ในภาวะคงที่ แต่ยังต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์เหมือนเดิม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี