หลุยส์ เอ็นริเก้ กุนซือทีมชาติสเปน เปิดเผยว่า เขาผิดหวังกับความพ่ายแพ้จุดโทษต่อ โมร็อกโก 0-3 ตกรอบ 16 ทีมบอลโลกครั้งนี้ หลังจาก สเปน กลายเป็นทีมที่อาจจะครองบอลได้มากที่สุด ส่งบอลแต่ละแมทช์ทะลุ 1,000 ครั้ง แต่กลายเป็นทีมที่ยิงจุดโทษแล้ว แพ้มากที่สุดในบอลโลกไปแล้ว เพราะยิง 5 ครั้ง แพ้ไปถึง 4
“ผมกำชับลูกทีมไม่ให้ประมาท โมร็อกโก ซึ่งเราก็ทำได้ แต่เราเจ็บปวดที่พ่ายแพ้จุดโทษ ผมได้เน้นย้ำเป็นอย่างดีว่า คุณต้องมั่นใจ แต่สุดท้ายเราแพ้ ผมเลือกคนไปยิง ผมคิดว่าพวกเขาดีที่สุดในสนาม ถ้าผมเปลี่ยนแปลงบางอย่างได้ ผมจะเอา ยัสซี บูนู ผู้รักษาประตูโมร็อกโก ออกไปจากสนาม อย่างที่ทุกคนรู้ดีว่า การดวลจุดโทษไม่ใช่ลอตเตอรี่สำหรับผม มันไม่ใช่การวัดดวง แต่คุณต้องควบคุมตัวเองให้ได้”
กุนซือคนดัง กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่เราทำคือการครองเกม แต่เราขาดเป้าหมายที่ชัดเจนในการยิงประตู นั่นคือความจริง มันคือความจริง ส่วนอนาคตนั้น ผมมีสัญญาอยู่ถึงซัมเมอร์ 2023 แต่ในสัปดาห์หน้าเราจะพูดคุยและหารือเกี่ยวกับอนาคตของผมกับทีมชาติสเปน ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม แน่นอนที่สุดก็คือผู้รับผิดชอบ
“ถ้าเลือกได้ ผมก็จะอยู่ในตำแหน่งนี้ตลอดชีวิต แต่นั่นไม่ใช่กรณีที่จะเกิดขึ้นแน่ ผมต้องคิดอย่างใจเย็นว่าอะไรดีที่สุดสำหรับตัวผมและทีมชาติ สถานการณ์ทั้งหมดจะมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของทุกฝ่าย”
ทั้งนี้ เอ็นริเก้ ได้ให้สัมภาษณ์ตั้งแต่ก่อนเกมว่า เรื่องการยิงจุดโทษนั้นสำคัญมากในบอลน็อคเอาท์ เขาได้สั่งให้ลูกทีมเน้นการฝึกซ้อมยิงจุดโทษไปแล้วไม่ต่ำกว่า 1,000 ครั้ง หลังเคยมีบทเรียนในเกมยูโร 2020 ซึ่งเตะเมื่อปีที่แล้ว ซึ่ง สเปน ก็พ่ายในรอบตัดเชือกของการดวลจุดโทษให้กับ อิตาลี จนชวดเข้าชิงชนะเลิศ