บิ๊กแมทช์!
‘อังกฤษ’ชน‘ฝรั่งเศส’
โปรตุเกสยังดร็อป‘โด้’
ล่าตั๋วตัดเชือกบอลโลก
การแข่งขันฟุตบอลโลก ครั้งที่ 22 ที่ประเทศกาตาร์ เป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่20 พฤศจิกายน-18 ธันวาคม 2565เดินทางมาถึงการดวลแข้ง รอบ 8 ทีมสุดท้าย อีก 2 คู่ ในวันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม 2022
เริ่มจากคู่แรกในเวลา 22.00 น.”สิงโตแห่งคาซาบลังก้า” ทีมชาติโมร็อกโก พบกับ “ฝอยทองผยองเดช” ทีมชาติโปรตุเกส เวลา22.00 น. ที่อัล ธูมาม่า สเตเดี้ยม กรุงโดฮาถ่ายทอดสด JKN ช่อง 18 และทรูสปอร์ต 2 จากนั้น เวลา 02.00 น. “ไก่ทองคำ” ทีมชาติฝรั่งเศส แชมป์เก่า และแชมป์โลก 2 สมัย ดวลกับ “สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ แชมป์ 1 สมัย ที่ อัล เบย์ต สเตเดี้ยม ในอัล-คอร์ ถ่ายทอดสด ทาง ไทยรัฐทีวี และทรูสปอร์ต 2
ในเกมคู่แรกของสองทีมม้ามืดประจำรายการนี้ “สิงโตแห่งคาซาบลังก้า” กลายเป็นทีมที่ถูกพูดถึงมากที่สุดไปแล้วในทัวร์นาเมนต์นี้ หลังจากลาก สเปน ไปสังหารด้วยการดวลจุดโทษ ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศในศึกฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และยังเป็นชาติที่ 4 จากกาฬทวีปที่สามารถทำได้ต่อจาก แคเมอรูน (1990), เซเนกัล (2002) และกาน่า (2010) นอกจากนี้ วาลิด เรกรากี ยังกลายเป็นกุนซือจากแอฟริกันคนแรกที่พาทีมเข้ามาถึงรอบนี้ แม้ว่าตัวเขาเองจะเกิดที่ฝรั่งเศสก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ปัญหาของ โมร็อกโก ก็คือเกมนี้น่าจะไม่มี นาเยฟ อาเกิร์ด แนวรับคนสำคัญที่บาดเจ็บจากนัดที่ผ่านมา ทำให้ต้องใช้ จาวัด เอล ยามิค ลงจับคู่เป็นเซ็นเตอร์แบ๊กกับ โรแม็ง ซาอิสส์ นอกนั้นม่มีปัญหาอะไรยึดระบบ 4-3-3 นำโดย ฮาคิม ซีเย็คแกนรุกคนสำคัญจาก “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี จะทำงานเพื่อชาติร่วมกับ เอซซาดีน อูนาฮี, โซฟียาน อัมราบัต, เซลิม อมัลลาห์, ยุสเซฟ เอ็น-เนสซีรี่ และโซฟียาน บูฟาล
ทางฝั่ง “ฝอยทอง” โปรตุเกส ถล่มเอาชนะ “แดนนาฬิกา” สวิตเซอร์แลนด์ ขาดลอย 6-1 ปรากฏว่า กอนซาโล่ รามอส ดาวรุ่งที่เป็นคนแรกที่ยิงแฮตทริกในฟุตบอลโลกหนนี้ ได้ทำสถิติมากมาย ด้วยวัย 21 ปี 169 วัน เป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สามารถกดแฮตทริกในศึกฟุตบอลโลก ต่อจาก ฟลอเรียน อัลเบิร์ต อดีตดาวยิงของ “แม็กย่าร์” ฮังการี่ ที่เคยทำไว้เมื่อปี 1962 ที่ประเทศชิลี ด้วยวัย 20 ปี 261 วัน และยังถือสถิติอายุน้อยอันดับ 2 ในรอบน็อกเอาท์ ต่อจาก “ไข่มุกดำ” เปเล่ ตำนานลูกหนังโลกชาวบราซิลอีกด้วย
พร้อมกับเป็นผู้เล่นคนแรกในรอบ 32 ปี ที่สามารถยิงแฮตทริกในรอบน็อคเอาท์ ต่อจาก “ไอ้หัวตะปู” โทมัส สคูราวี่ อดีตหัวหอกของทีมชาติเชโกสโลวาเกีย ที่เคยทำเอาไว้เมื่อปี 1990 เขายังกลายเป็นนักเตะคนแรกที่สามารถยิงแฮตทริกจากการลงเล่นตัวจริงนัดแรกในศึกฟุตบอลโลก นับตั้งแต่ มิโลสลาฟ โคลเซ่ เคยทำไว้กับทีมชาติเยอรมนี เมื่อปี 2002
ความพร้อมเกมนี้ไม่มี ดานิโล่ เปเรยร่า ที่ซี่โครงร้าว ส่วน นูโน่ เมนเดส บาดเจ็บถอนตัวออกไปแล้ว มีดราม่าเล็ก ๆ จากการที่ คริสติอาโน่ โรนัลโด้ เดินเข้าอุโมงค์ไม่ไปฉลองกับเพื่อนร่วมทีมต่อหน้าแฟนบอล แต่กุนซือเฟอร์นานโด ซานโตส ยืนยันไม่มีปัญหาเพราะเคลียร์กันแล้ว คาดว่าเกมนี้น่าจะนั่งสำรองเหมือนเดิม เล่นในระบบ 4-3-3 โอตาวิโอ้ คุมแดนกลางร่วมกับ วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่ และแบร์นาร์โด้ ซิลวา สามแนวรุกใช้ บรูโน่ เฟอร์นานเดส, กอนซาโล่ รามอส และชูเอา เฟลิกซ์
สถิติการพบกันของทั้งสองทีม เคยดวลมาเพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้นในประวัติศาสตร์ โดยพบกันในศึกฟุตบอลโลกทั้งหมด เริ่มจากครั้งแรก รอบแบ่งกลุ่ม ในปี 1986 โมร็อกโก เอาชนะได้ 3-1 และหนล่าสุดเมื่อ 4 ปีที่แล้ว โปรตุเกส เฉือน 1-0 จากประตูชัยของ คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ก็เตะรอบแบ่งกลุ่มเช่นกัน
11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม โมร็อกโก (4-3-3): ยาซีน โบโน่, อาชราฟ ฮาคิมี่, จาวัด เอล ยานิค, โมแม็ง ซาอิสส์, นุสแซร์ มาซราอุย, เอซซาดีน อูนาฮี, โซฟียาน อัมราบัต, เซลิม อมัลลาห์, ฮาคิม ซีเย็ค, ยุสเซฟ เอ็น-เนสซีรี่ และโซฟียาน บูฟาล
โปรตุเกส (4-3-3): ดีโอโก้ คอสต้า, ชูเอา กานเซโล่, เปเป้, รูเบน ดิอาส, ราฟาเอล เกร์เรโร่, โอตาวิโอ้, วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, บรูโน่ เฟอร์นานเดส, กอนซาโล่ รามอส และชูเอา เฟลิกซ์
ทางด้านเกมระหว่าง อังกฤษ เจอกับ ฝรั่งเศส นั้น ทีมขวัญใจมหาชน “สิงโตคำราม” ไล่ถล่ม “สิงโตแห่งเตรังก้า” ทีมชาติเซเนกัล มาขาดลอย 3-0 ในรอบ 16 ทีม เกมนี้รอทดสอบความฟิตของ คัลลั่ม วิลสัน และจอห์น สโตนส์ ส่วน ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ที่ได้รับอนุญาตให้บินกลับลอนดอนไปดูแลครอบครัวต้องลุ้นว่าจะได้กลับสู่ทีมเร็ว ๆ นี้
คาดกันว่า กุนซือ แกเร็ธ เซาธ์เกต ยังคงยึดระบบการเล่น 4-3-3 ที่กำลังลงตัวลงเล่นต่อไป โดยที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่ฟอร์มดีลงคุมแดนกลางร่วมกับ เดแคลน ไรซ์ และจู๊ด เบลลิ่งแฮม สามแนวรุกวาง บูกาโย่ ซาก้า ประสานงานกับแฮร์รี่ เคน และฟิล โฟเด้น
ทางฝั่ง “ตราไก่” ทีมชาติฝรั่งเศส แชมป์เก่าที่ฟอร์มร้อนแรงสุด ๆ รอบ 16 ทีมจัดการถล่ม โปแลนด์ 3-1 ตามรายงานทีมของ ดิดิเย่ร์ เดสชองส์ ไม่มีปัญหาบาดเจ็บเพิ่ม ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าจะยึดไลน์อัพชุดเดิมในระบบ 4-2-3-1 เพียงแต่พวกเขานั้นเสียประตูทุกนัดที่ลงสนาม
แผงกลางยังเป็น ออเรเลียง ชูอาเมนี่ และอาเดรียง ราบิโอต์ ทำหน้าที่คุมจังหวะแดนกลาง แนวรุกนำโดย คีลิยัน เอ็มบาปเป้ ที่ยิงไปแล้ว 5 ประตู นำดาวซัลโวในเวลานี้ ประสานงานกับ อองตวน กรีซมันน์ และอุสมาน เดมเบเล่ พร้อมวาง โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ดาวยิงสูงสุดของทีมชาติคนปัจจุบันเป็นหน้าเป้าเหมือนเดิม
สถิติการพบกันของทั้งสองทีม เคยดวลมา 31 ครั้ง ในทุกรายการอังกฤษชนะ 17เสมอ 5 และฝรั่งเศส ชนะ 9 แต่เจอกันในฟุตบอลโลกเพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้น ในรอบแบ่งกลุ่ม นั่นคือปี 1966 ที่อังกฤษเป็นเจ้าภาพพวกเขาชนะ 2-0 และปี 1982 ย้ำแค้นอีกถล่ม 3-1
11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม อังกฤษ (4-3-3): จอร์แดน พีคฟอร์ด, ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, ลุค ชอว์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เดแคลน ไรซ์, จู๊ด เบลลิ่งแฮม, บูกาโย่ ซาก้า, แฮร์รี่ เคน และฟิล โฟเด้น
ฝรั่งเศส (4-2-3-1): ฮูโก้ ญอริส, ฌูลส์ คุนเด้, ราฟาเอล วาราน, ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, เตโอ แอร์กนองเดซ, ออเรเลียง ชูอาเมนี่, อาเดรียง ราบิโอต์, อุสมาน เดมเบเล่, อองตวน กรีซมันน์, คีลิยัน เอ็มบาปเป้ และโอลิวิเย่ร์ ชิรูด์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี