บทสรุปจุดสลบ‘โมร็อกโก’พ่าย ปล่อย‘ไก่’กระต๊าก!ผงาดชิงบอลโลก
ฝรั่งเศส ได้เข้าไปป้องกันแชมป์ ครั้งแรกในรอบ 24 ปี เอาชนะ โมร็อกโก 2-0
ก่อนงาน สื่อฝรั่งเศส รายงานว่า ความจุ 68,895 ที่นั่งของ อัล เบยต์ วันนี้
เป็นของ โมร็อกโก ไปแล้ว 55,000 คน!!!!!
สภาพทีมของ โมร็อกโก สะบักสะบอมสมบุกสมบันมาโดยตลอด เข็นแนวรับที่เดี้ยงลงมาสู้ ปรับแผนมาเตะ สุดท้ายกลายเป็นเรื่องยุ่ง
การเปิดตัวจริงออกมา โมร็อกโก มี 3 กองหลังที่เจ็บกลับมาหมดทั้ง อาเกิร์ด,ซาอิสส์ และมาซราอุย และใส่ เอล ยามิค มาเป็นกองหลัง 5 คน
กองกลางเลือกตัด อมัลเลาะห์ ออกไปสำรอง เหลือ อัมราบัต กับ อูนาฮี ลงบู๊
กลายเป็น ฝรั่งเศส ที่เจ็บจริง! เปลี่ยน2คน โกนาเต้ ยืนเซ็นเตอร์ แทน อูปาเมกาโน่ และแดนกลางคือ ราบิโอต์ ป่วยไม่ได้ลง
เดเด้ เดส์ชองป์ เปลี่ยน "คู่มิดฟิลด์" เป็นครั้งแรกในทัวร์นาเมนท์นี้ แล้วให้ ยูซุฟ โฟฟาน่า ลงเล่นแทน
แต่แล้ว อาเกิร์ด ถูกเลือกลงสนามด้วยการเป็นตัวจริงแต่สุดท้ายก็ต้องถอนตัวออกไปในช่วงการวอร์ม เนื่องจากสภาพร่างกายไม่ไหวจริงๆ
#ครึ่งแรก
ฝรั่งเศส นำเร็วตั้งแต่นาทีที่ 4:39 จากประตูของ เตโอ แอร์กนานเดซ ของฝรั่งเศส เป็นประตูแรกในรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก ที่เร็วสุด นับตั้งแต่ปี 1958 จากการยิงของ วาวา จากบราซิล ที่ทำได้ในนาทีที่ 2
กรีซมันน์ เป็นหัวใจของทำประตูสำหรับฝรั่งเศส การเคลื่อนไหวและความคิดสร้างสรรค์ของเขาในพื้นที่ด้านขวานั้น สร้างความเจ็บปวดให้กับทุกทีม
โมร็อกโกเสียประตูแรกจากการยิงของคู่แข่งหลังจากที่พวกเขาก่อนหน้านี้เป็นการทำเข้าประตูตัวเองและเสียแค่นั้นจริงๆ เม็ดเดียว
มันอาจจะเป็นจังหวะที่บอลมันเข้าทางและเป็นใจให้ฝรั่งเศสแต่มันมาจากการยืนผิดตำแหน่งทำให้เสียประตู
ซาอิสส์ เล่นได้แค่ 20 นาทีต้องออก แต่ทีมกลับมาสมาร์ทขึ้น เมื่อกลับมาเล่นสูตรเดิม
เข้าใจได้ว่า “ทำไม” โมร็อกโก ต้องเปลี่ยนมาใช้ 5-4-1 หรือ 3-4-3 เป็นสิ่งที่ต้องการการป้องกันในวงกว้างมากขึ้น
เมื่อต้องเจอกับปีกปีศาจแบบ 1 ต่อ 1
หลังสามคือป้องกัน ชิรูด์ ที่ตัวใหญ่ แต่ไม่เวิร์ค เพราะนักบอลสับสนกันเอง
พอกลับไปใช้แบบเดิมแล้วดีขึ้น 4-4-3 กลางได้บดสู้สูสีขึ้น และเกือบตีเสมอได้ แต่ ญอริส เซฟสำคัญจากการตีลังกามอเตอร์ไซด์อากาศของ เอล ยามิค
#ครึ่งหลัง
โมร็อกโก ดีขึ้น สร้างโอกาสในการเล่นด้วยการหน้ากว้าง แต่พวกเขาได้แต่พาบอลแล้วถูกบีบให้ออกข้าง มากกว่าจะเข้าไปจบสกอร์
เร็วแต่ขาดความแม่นยำ
พวกเขาไม่เคยบุก แต่เล่นขนาดนี้เจ๋งแล้ว
แต่ความแตกต่างก็คือ ฝรั่งเศส กุมจังหวะได้ดีกว่า และคมกว่า
แนวรับหนึบนัดนี้ อิบราฮิมา โกนาเต้ เล่นดีมาก บล็อคลูกยากแบบจะ ๆ 3 ครั้ง
ลงท้าย เอ็มบาปเป้ อีกครั้งท่่ยังร้อนแรง พลิกหนีไปฉีกแนวรับได้ต่อเนื่อง และสุดท้ายบอลจากเค้าทำให้ทีมได้ประตูที่ 2 จาก โคโล มูนี่
บทสรุปจุดสลบเกิดขึ้น เป็นเกมที่โมร็อกโกเปิดพื้นที่ในการเล่นมากจนเกินไปหลายหลายจังหวะไม่ควรเปิดพื้นที่ขนาดนั้น และไม่เคยเห็นพวกเขาเปิดพื้นที่ขนาดนี้เลย
แต่ต้องชมสองกองกลางดาวรุ่งของฝรั่งเศสเข้าถึงได้อย่างรวดเร็วมาก และระดับที่เหนือกว่า จังหวะบอลเข้าทางบอลใหญ่
ชื่นชม โมร็อกโก มาขั้นนี้ถือว่าสุด ๆ แล้ว ไม่มีอะไรต้องเสียใจ หรือถูกตำหนิใด ๆ
เล่นได้ใจมาก
เราได้คู่ชิงคือ อาร์เจนติน่า กับ ฝรั่งเศส
ใครชนะคือแชมป์โลก สมัยที่ 3 ในวันอาทิตย์นี้
#บีแหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี