ตลาดซื้อขายนักเตะวันสุดท้ายดุเดือดขั้นสุดเมื่อ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี จอมทุ่มแห่งวงการลูกหนัง ทุบสถิติพรีเมียร์ลีก คว้าตัว เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ห้องเครื่องทีมชาติอาร์เจนตินา ของเบนฟิก้า มาร่วมทัพด้วยค่าตัว 105 ล้านปอนด์

โดย เชลซี ที่ตามจีบ เอ็นโซ่ มาอย่างยาวนานตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว ก่อนที่ล่าสุดพวกเขาจะยอมจ่ายค่าฉีกสัญญา 105 ล้านปอนด์ให้กับ เบนฟิก้า และคว้าตัวดาวเตะวัย 21 ปี มาร่วมทัพได้ในที่สุดในตลาดนักเตะวันสุดท้าย พร้อมกับทำให้ ดาวเตะทีมชาติอาร์เจนตินากลายเป็นแข้งที่มีค่าตัวแพงที่สุดในพรีเมียร์ลีกอังกฤษทันที

ซึ่งสถิติค่าตัวนักเตะของพรีเมียร์ลีกแพงที่สุดก่อนหน้านี้คือ แจ๊ค กรีลิช ที่ย้ายจาก แอสตัน วิลล่า มาร่วมทัพ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ด้วยค่าตัว 100 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2021 ก่อนที่ เอ็นโซ่จะทำลายสถิติดังกล่าวลงในที่สุด

ทั้งนี้ เชลซี นั้นใช้เงินเสริมทัพในฤดูกาลนี้ตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาทะลุหลัก 500 ล้านปอนด์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ขณะเดียวกัน “ไอ้ปืนใหญ่” อาร์เซน่อลจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก ก็เซ็นสัญญาคว้าตัวจอร์จินโญ่ ห้องเครื่องทีมชาติอิตาลี ของ เชลซี มาร่วมทัพด้วยค่าตัว 12 ล้านปอนด์ โดยเซ็นสัญญาไปจนถึงปี 2024 ซึ่งดาวเตะวัย 31 ปี จะเข้ามาแทน โมฮาเหม็ดเอลเนนี่ กองกลางทีมชาตอียิปต์ที่ต้องพักยาวทั้งฤดูกาลหลังต้องเข้ารับการผ่าตัดที่เข่าขวารวมไปถึงการปล่อยแซมบี้ โลคองก้า กองกลางอีกราย ไปให้กับ คริสตัล พาเลซ ด้วยสัญญายืมตัวด้วย

ทางด้าน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ได้แข้งเสริมทัพในวันสุดท้ายเช่นกันเมื่อยืมตัว มาร์เซล ซาบิทเซอร์ กองกลางทีมชาติออสเตรียของ บาเยิร์น มิวนิค มาร่วมทัพจนจบฤดูกาล หลังจากที่ต้องเสีย คริสเตียน เอริคเซ่น มิดฟิลด์คนสำคัญ ที่ต้องพักยาวร่วม 3 เดือน

ปิดท้ายที่ แมนเชสเตอร์ซิตี้ ปล่อยตัว ชูเอา คันเซโล่ แบ๊กคนสำคัญ ไปให้ บาเยิร์นมิวนิค ด้วยสัญญายืมตัวจนจบฤดูกาลและมีออปชั่นซื้อขาด 60 ล้านปอนด์พ่วงไว้ หลังเจ้าตัวนั้นมีปัญหากับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือของทีมนับตั้งแต่จบฟุตบอลโลกที่ผ่านมา