พร้อมลุย : ดาร์วิน นูนเญซ และ หลุยส์ ดิอาซ 2 แนวรุกคนสำคัญของ ลิเวอร์พูล หายจากอาการบาดเจ็บกลับมาลงฝึกซ้อมได้อีกครั้ง ก่อนจะบุกไปเยือน “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเกมพรีเมียร์ลีก คู่บิ๊กแมทช์ ประจำวันเสาร์นี้ เริ่มฟาดแข้งในเวลา 18.30 น. เป็นต้นไป
ศึกฟุตบอลลีกยุโรป กลับมาดวลแข้งกันอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้งในวันเสาร์นี้ โดยเกมพรีเมียร์ลีก 7 คู่มีความสำคัญในการไล่ล่าแชมป์ ถ่ายทอดสดทาง ทรู ช่อง 600 เริ่มจากเกมแรกเวลา 18.30 น. ที่กลับมาดวลกันตามเวลาหน้าร้อน “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะเปิดเอติฮัต สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล คู่ปรับแห่งยุคที่บี้แชมป์กันมาก่อนหน้านี้ 3 จาก 4 ฤดูกาล
เจ้าถิ่น แมนฯซิตี้ โดนจ่าฝูง “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อลทิ้งไปไกลถึง 8 แต้ม ก่อนพักเบรกทีมชาติ เกมนี้ทีมของ เป๊บ กวาร์ดิโอล่า จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ฟิล โฟเด้น แนวรุกที่เข้ารับการผ่าไส้ติ่ง ส่วน เออร์ลิ่ง เบร้าท์ ฮาลันด์ดาวซัลโวของทีมต้องลุ้นว่าจะฟิตพร้อมหรือไม่ เพราะเมื่อวันพฤหัสบดียังไม่ได้ซ้อมกับทีม นอกนั้นไม่มีปัญหาอะไร คาดว่าจะกลับมาใช้ระบบ 4-2-3-1 วาง โรดรี้ ลงคุมแดนกลางร่วมกับ อิลคาย กุนโดกัน แนวรุกใช้ ริยาด มาห์เรซ ประสานงานกับ เควิน เดอ บรอยน์ และแจ็ค กรีลิช ตำแหน่งหน้าเป้า หากฮาลันด์ ฟิตไม่ทัน ฮูเลี่ยนอัลบาเรซ จะเสียบแทน
ทีมเยือน ลิเวอร์พูล รั้งอันดับ 6 ของตารางได้พักมาเต็มๆ 17 วัน เพราะเกมสุดท้ายเล่นเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังไม่มี ธีอาโก้ อัลคันทาร่า, คัลวิน แรมซีย์, สเตฟาน บายเซติช และโจ โกเมซ ส่วน หลุยส์ ดิอาซ และดาร์วิน นูนเญซ ลงซ้อมได้แล้ว ที่เหลือไม่มีรายงานแข้งเจ็บเพิ่มเติม ยึดระบบ 4-3-3 แดนกลางนำโดย ฟาบินโญ่ ที่เป็นตัวตัดเกมขนาบข้างไปด้วย ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ และจอร์แดน เฮนเดอร์สัน สามแนวรุกใช้โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โคดี้ กัคโป และดาร์วิน นูนเญซ
สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด ลิเวอร์พูล ชนะ 3 เสมอ 1 และแมนฯซิตี้ ชนะ 1
สกอร์ที่คาด : แมนฯซิตี้ 2-1 ลิเวอร์พูล
อีกคู่ เวลา 21.00 น. จ่าฝูง “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ยังคงรักษามาตรฐานการเล่นอันยอดเยี่ยมก่อนพักเบรก เปิดบ้านถล่ม คริสตัล พาเลซ บอลไล่โค้ชไป 4-1 แต่เกมนี้จะไม่มี วิลเลี่ยม ซาลิบา, ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ, โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ และเอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ที่บาดเจ็บ ส่วน คีแรน เทียร์นีย์ รอทดสอบความฟิต ที่เหลืออยู่ครบ มิเกล อาร์เตต้า ยึดระบบเดิม 4-3-3 โธมัส ปาร์เตย์ และกรานิต ชาก้า ทำหน้าที่คุมแดนกลาง ปล่อยให้ มาร์ติน โอเดการ์ด มีอิสระในการปั้นเกมรุกประสานงานกับสามแดนบนอย่าง บูคาโย่ ซาก้า, เลอันโดร ทรอสซาร์ และกาเบรี่ยล มาร์ติเนลลี่
ฝั่งผู้มาเยือน “ยูงทอง” ผลงานดูดีขึ้นเล็กน้อย หลังได้ ฆาบี้ กราเซีย เข้ามาคุมทีม ปิดเบรกไปด้วยการบุกถล่ม “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตัน 4-2 เกมนี้ยังไม่มี สจ๊วร์ต ดัลลาส และไทเลอร์ อดัมส์ ที่บาดเจ็บ ส่วน แม็กซ์ โวเบอร์ และวีลฟรีด ญอนโต้ ต้องรอทดสอบความฟิต มาในระบบ 4-2-3-1 นำโดย มาร์ค โรก้า, เวสตัน แม็คเคนนี่,คริสเซนซิโอ้ ซัมเมอร์วิลล์, เบรนเด้น แอรอนสัน, แจ็ค แฮร์ริสัน และแพทริค แบมฟอร์ด
สกอร์ที่คาด : อาร์เซน่อล 3-1 ลีดส์ ยูไนเต็ด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี