การที่ประเทศไทยจะพัฒนากีฬาชาติให้ติดอันดับโลก จะต้องมีการวางแผนระยะสั้น ระยะยาว จะต้องมีการวางแผนให้ทุกหน่วยงานของรัฐและเอกชนมีเป้าหมายเดียวกัน ถึงแม้จะเริ่มต้นจากจุดที่ไม่เหมือนกัน

ผมได้พูดไปแล้วว่าเราต้องทำให้เด็กทั้งชายหญิงของเราสูงมากกว่านี้ เช่น 180 ซม.ขึ้นไป ฟังดูคล้ายๆ เป็นความฝัน แต่เป็นไปได้ถ้าเราวางแผน สรุปก็คือ เราต้องให้อาหารที่ถูกต้อง เหมาะสม แก่เด็กๆ ทุกๆ คนในทุกช่วงวัย แต่โดยเฉพาะช่วงที่เด็กกำลังเข้าสู่วัยรุ่น

เราต้องส่งเสริมให้ประชาชนทั้งประเทศออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ จะได้มีร่างกาย สุขภาพ ที่ดี แข็งแรง ซึ่งจะเป็นพื้นฐานของการนำไปสู่ความเป็นเลิศทางด้านกีฬา จะทำให้เรามีโอกาสเลือกนักกีฬามากยิ่งขึ้น การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพโดยสรุปก็คือ การออกกำลังกายให้หัวใจ ปอด ระบบหมุนเวียนโลหิตแข็งแรง ซึ่งก็คือการใช้กล้ามเนื้อกลุ่มใหญ่ เช่น แขนหรือขา หนึ่ง อย่างต่อเนื่องและนานพอ คือ 30-60 นาที สอง ออกกำลังกายให้หนักพอ คือ หัวใจ หรือชีพจร เต้นเข้าเป้า เป้าคือ 70% ของความสามารถสูงสุดที่หัวใจจะเต้นได้ (maximal heart rate, MHR - วิธีคำนวณ MHR คือ 220 – อายุปี เช่น คนอายุ 30 ปี MHR คือ 220 – 30 คือ 190 ครั้งต่อนาที) สาม อย่างน้อยออกกำลังกาย 5 ครั้งต่อสัปดาห์

และควรมีการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพอีกด้วย โดยการออกกำลังกายและรับประทานอาหารต้องดูแลให้ดัชนีมวลกาย หรือ Body Mass Index, BMI อยู่ต่ำกว่า 23 วิธีคำนวณ BMI คือ น้ำหนักตัวเป็นกิโลกรัม หารด้วยความสูงเป็นเมตรกำลังสอง และควรควบคุมให้ขนาดของพุงไม่เกิน 90, 80 ซม. ชาย หญิงตามลำดับ การออกกำลังกายและรับประทานอาหารโดยควบคุมให้ BMI และขนาดของพุงอยู่ในเกณฑ์ปกติ จะเป็นพื้นฐานที่ดีสำหรับการดูแลสุขภาพ ทั้งนี้ควรลดการกินเค็ม (Na sodium น้อยกว่า 2000 มก. หรือเกลือแกงไม่เกิน 5 กรัมต่อวัน หรือเกลือ 1 ช้อนชา) หวาน (น้ำตาลไม่เกิน 6 ช้อนชา) มัน (น้ำมันพืชไม่เกิน 6 ช้อนชา)

และถ้าตามด้วยการไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ มีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย ไม่ใช้สารเสพติด และตรวจสุขภาพเป็นระยะๆ มีอารมณ์ที่ดี นอนหลับให้พอ (7 ชม.) จะเป็นพื้นฐานการดูแลสุขภาพที่ดี

ทั้งนี้ควรออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ความยืดตัว และการทรงตัวอีกด้วย

นอกจากการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพแล้ว ยังควรสนับสนุนให้เด็กๆ มีโอกาสเล่นกีฬากันมากขึ้นอีกด้วย โดยมีสนามกีฬาต่างๆ อย่างเพียงพอ มีครูที่จบทางด้านพลศึกษา วิทยาศาสตร์การกีฬา ที่มีความรู้ ทักษะในการเล่น สอน กีฬาทุกชนิด มีการสร้างสนามกีฬาอย่างเพียงพออย่างเช่นโรงเรียนประจำเก่าของผมที่สหราชอาณาจักรมีนักเรียน 100-200 คน แต่มีสนามรักบี้ (หรือหน้าร้อนเป็นสนามคริกเก็ต) 3 สนาม มีสนามเทนนิส (clay) 1 สนาม และเล่นกีฬาทุกวัน ใครที่ไม่ได้เล่นกีฬาเช่น รักบี้คริกเก็ต ฮอกกี้ ฯลฯ ก็ต้องไปวิ่งรอบโรงเรียนเป็นระยะทางหลายกิโลเมตรทุกวัน

ที่สหราชอาณาจักรมีการเล่นกีฬาทุกวันซึ่งเป็นสิ่งที่ดี ผมอยากให้รัฐบาลร่วมมือกับภาคเอกชน กระตุ้น สนับสนุนให้มีโรงเรียนประจำนอกเมืองใหญ่ๆ ที่มีพื้นที่กว้างขวาง เพียงพอที่จะมีสนามกีฬาต่างๆ ตั้งแต่ฟุตบอล รักบี้ เทนนิส ว่ายน้ำ วอลเลย์บอล บาสเกตบอล ปิงปอง แบดมินตัน ฯลฯ

การมีโรงเรียน เช่น วชิราวุธ ที่เป็นโรงเรียนประจำ ที่มีสนามกีฬาอย่างเพียงพอ จะช่วยสร้างเด็กให้เป็นผู้ที่สามารถช่วยตนเอง มีระเบียบวินัย เล่นกีฬา จะได้ค้นพบศักยภาพของตนเองว่ามีศิลปะ ทักษะ ในการออกกำลังกาย เล่นกีฬาไหม ถ้ามีๆ ทักษะในกีฬาประเภทไหน

การมีโรงเรียนประจำนอกเมือง จะทำให้รถติดน้อยลงด้วย บิดา มารดา ไม่ต้องไปส่ง ไปรับ ลูกหลาน จะช่วยลดปัญหาต่างๆ มากมาย รวมทั้งจะทำให้หน่วยงานต่างๆ มีผลผลิตมากขึ้นมากมาย เพราะบิดา มารดา ไม่ต้องไปรับ-ส่ง ลูกหลาน ดังกล่าว

ถ้าทุกโรงเรียนต้องเล่นกีฬา เราก็จะมีเด็กให้เลือกมากยิ่งขึ้นในการที่จะเอาเด็กไปเก็บตัวเป็นนักกีฬาทีมชาติ ทั้งนี้ รัฐบาลต้องกระตุ้น สนับสนุน มีแรงจูงใจ (incentive) ให้ผู้ที่คิดที่จะก่อตั้งโรงเรียนประจำเช่นนี้

เด็กๆ ที่มีแววเป็นนักกีฬา อาจนำไปเก็บตัวอย่างที่สโมสรฟุตบอลอังกฤษต่างๆ ทำ เช่น ช่วงกลางวันเรียน บ่ายเล่นกีฬา ซ้อม เรียนทักษะต่างๆ พออายุถึงการสอบชั้นต่างๆ ก็สอบไป ผู้ที่ไปไม่ถึงศักยภาพก็ไปเรียนต่ออย่างจริงจัง ผู้ที่มีทักษะก็เก็บตัวต่อไป

ในระยะสั้นเราอาจเริ่มต้นกระตุ้น สนับสนุน กีฬาที่เราไม่เสียเปรียบในรูปร่าง เช่น กีฬายิงปืน มวย เพราะแข่งกันตามรุ่น น้ำหนัก อย่างกีฬายิงปืน ถ้าเราซ้อมมากๆ มีลูกปืนให้ซ้อม จิตใจนิ่ง มือนิ่ง ถ้าเรายิงได้คะแนนเต็ม เราก็ไม่แพ้ใครอยู่แล้ว

ฉะนั้น กีฬาประเภทต่างๆ ที่เราไม่เสียเปรียบ เราต้องลุยเลยอย่างเต็มที่ ไม่ต้องรอ

กีฬาอย่างอื่น ต้องวางแผนระยะยาว