ฟุตบอลไทยลีก 2023-24 จะเปิดฤดูกาลกลางเดือนหน้าแล้ว ซึ่งตามกำหนดการไม่มีปัญหาอะไร
แข่งน่ะแข่งแน่
แต่ถ่ายทอดสดช่องไหน ดูได้ทางไหน เพิ่งจะเริ่มสะเด็ดน้ำ ว่ามีถ่ายทอดสด ทาง AIS, ทรูไอดี และ 3BB ส่วนฟรีทีวี..มี แต่ยังคุยไม่เคลียร์เพราะวนเวียนกันอยู่หลายช่องด้วยกัน
เรื่องนี้รุงรังกันมานานพอสมควรกับการที่บอลไทยไม่มี “แม่ข่ายถ่ายทอดสด” หลายคนก็ตั้งคำถามมากมายว่า ทำอะไรกันอยู่ทั้ง นายกสมาคม, บอร์ดบริหาร รวมไปถึง ผู้ดูแลสิทธิประโยชน์ที่นิ่งจนเหมือนกับว่า จะปล่อยไปให้มันผ่านๆ
บอลไทยไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง บอลไทยไม่ใช่ของเล่นบอลไทยไม่ได้มีให้คนมาสูบเลือด และบอลไทยไม่ควรจะให้ใครมาใช้เป็นหุ่นเชิด
มีหลายเรื่องที่น่าสนใจและน่าเป็นห่วง เพราะซีซั่นนี้ไม่มีค่ายใด ถ่ายทอดแบบเอ็กซ์คลูซีฟ คือเอาเงินมาซื้อแล้วไปจัดการเองบริหารให้มันได้เงินงอกเงย
หนึ่งในสาเหตุที่ “เค้า” ว่า “กันว่า” ได้มีการแทรกแซง เพราะฟากหนึ่งได้คุยจบแล้ว 550 ล้านบาทต่อปี (ปีที่แล้ว AIS 350 ล้านบาท) แต่มาดึงกลับดื้อๆ!!!
ทุกอย่างแข่งขันกับเวลา สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ กับ บจก.ไทยลีก คุยกับ 16 สโมสรให้ไปบริหารจัดการเรื่องการถ่ายทอดสดกันว่าเอาอย่างไร ซึ่งวิธีของ 16 สโมสร คือเอาสัญญาณถ่ายทอดสด(ที่สมาคมฯ ผลิตให้) ไปปล่อยในค่ายต่างๆ ที่สนใจ
เทียบง่ายๆ เมื่อก่อนมี “พ่อค้าคนกลาง” มาซื้อเหมา แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็น “ฝากร้าน” แทน ไทยลีก เอาสัญญาณไปในช่องทางของแต่ละค่ายที่สนใจ
รายได้ แบ่งกัน 90-10 นั่นคือ สโมสรไทยลีกได้ 90 เปอร์เซ็นต์ และค่ายที่รับฝากร้านได้ 10 เปอร์เซ็นต์
ทีนี้รายได้ล่ะมาจากไหน???
คำตอบก็คือ มาจากแพ็กเกจชมถ่ายทอดสด ที่ไปขายซึ่งตีตามกำหนดรายเดือนแปะป้าย 59 บาท หรือจะเหมาไปตลอดทั้งฤดูกาล คือ 500 บาทถ้วน
แถมได้ดูบอลถ้วยพ่วงมาด้วย
ช่องที่จะรับฝากร้าน ในระบบ OTT หรือเสียเงินดู ก็มี 3 เจ้าหลัก ประกอบด้วย AIS, ทรูไอดี และ 3BB ใครถนัดทางไหน ก็ไปซื้อช่องทางนั้น
ส่วน “ฟรีทีวี” ก็จะมี “ค่อนข้างแน่” แต่ยังไม่สรุปว่าทางไหนบ้าง แต่นาทีนี้เพื่อกระตุ้นให้คนอยากดูถ่ายทอดสด ไปซื้อแพ็กเกจจะได้ดูเต็มๆ
เมื่อรายได้มาจากแพ็กเกจ ดังนั้นโจทย์ของ 16 สโมสร ไม่ใช่แค่ทำผลงานในสนามให้ดีแล้ว ยังต้องไปกระตุ้นให้แฟนๆ หรือกองเชียร์ของตัวเอง ช่วยซื้อแพคเกจด้วย
นาทีนี้มี 3 สโมสรยืนยันเริ่มต้นจะซื้อไปทำกิจกรรม สโมสรละ 20,000 โค้ด เท่ากับ 10 ล้านบาท คือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, การท่าเรือ เอฟซี และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด รวมเป็น
30 ล้านบาท และ 3 สโมสรนี้ใจป้ำจะไม่เอาส่วนแบ่งด้วย
ทำให้ตัวหารเท่ากับที่เราทราบตั้งแต่สัปดาห์ก่อนก็คือ 13 สโมสร
เส้นทางนี้ยังอีกยาวไกล แต่ถือว่าได้วัดใจกันแบบเต็มๆ เพราะนั่นหมายว่า แต่ละสโมสรจะได้เงินมากแค่ไหน เพียงพอหล่อเลี้ยงให้อยู่รอดหรือไม่ ก็อยู่ที่แฟนบอลที่จะซื้อแพ็กเกจดูไทยลีกมากเพียงใด นั่นคือสิ่งสำคัญ
เป้าหมายเพลานี้คือ อย่างน้อยไปขายได้ทีมละ 20,000 โค้ด 16 สโมสรก็ 160 ล้านบาท ตัดไป 10 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 144 ล้านบาท หาร 13 ก็ได้ทีมละ 10 ล้านบาทกว่าๆ ก็พอถูๆ ไถๆ สีข้างแดงๆ พอถลอกๆ
ดังนั้น ชะตาของไทยลีก จึงถูกส่งกลับมาฝากไว้ในมือแฟนบอล จากที่ดูสนุกสนาน เปิดลิงก์เถื่อน (ขอลิงก์หน่อย) บ้างอะไรบ้าง ก็ขอให้มาเสียเงินซื้อแพ็กเกจชม
เปลี่ยนจากกองเชียร์ (FAN) มาเป็นผู้สนับสนุน (SUPPORTER)แบบเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์
ทำให้ทุกอย่างถูกต้องตามกฎ ตามแพลตฟอร์ม เหมือนกับต่างประเทศที่ 1.ซื้อตั๋วปี 2.จ่ายเงินเปย์เพอร์วิว 3.ซื้อเสื้อหรือสินค้าที่ถูกลิขสิทธิ์ของทีม
ถ้าจะขยับไปพร้อมๆ กัน คงจะต้องเริ่มต้นจาก 3 ข้อนี้ก่อน
แน่นอนที่สุด เมื่อแฟนบอลต้องกัดฟันช่วยแล้ว สโมสรเองก็ต้องทำให้ตัวเองมีมูลค่า สมควรที่จะจ่ายเงินสนับสนุน
เตะให้มันน่าดู เล่นให้สนุก เล่นให้มันส์ ที่สำคัญการตัดสินต้องให้เคลียร์
เพราะส่วนหนึ่งของชะตากรรมก็อยู่ในมือท่านนั่นเอง.........
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี