“เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์ยุโรป ยำใหญ่ฟลูมิเนเซ่ แชมป์โคปา ลิเบอตาดอเรสคัพ จากบราซิล กระจุย 4-0 ครองแชมป์สโมสรโลกสำเร็จเป็นสมัยแรก ที่สนามคิง อับดุลเลาะห์ สปอร์ตส์ ซิตี้ ที่ประเทซาอุดีอาระเบีย
ความสำเร็จครั้งนี้ ทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลายเป็นทีมที่ 4 บนเกาะอังกฤษ ที่ได้แชมป์สโมสรโลกต่อจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล และเชลซี แต่กลายเป็นทีมอังกฤษทีมแรกที่คว้าแชมป์ 5 ถ้วยในปีปฏิทิน ตั้งแต่การได้แชมป์พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ และแชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ตามมาด้วยยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ในเดือนสิงหาคม และได้แชมป์ทีมโลก
“มันเป็นปีที่เหลือเชื่อ” เป๊ป กวาร์ดิโอล่ากล่าว “เราสร้างตำนานบทนี้แล้ว เราชนะทุกสิ่งที่เราทำได้ ตอนนี้ถึงเวลาลองอีกครั้งว่าเราจะทำแบบนี้ได้อีกหรือไม่ เราจะฉลองกันบนเครื่องบิน และกลับไปเตรียมเตะพรีเมียร์ลีกกับเอฟเวอร์ตัน ในวันพุธ นักเตะทุกคนยังคงกระหายและมีพลัง ก่อนมาทำงานที่แมนเชสเตอร์ ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะประสบความสำเร็จได้แบบเวลานี้”
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คว้าแชมป์ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพเป็นครั้งที่ 4 นับตั้งแต่เคยทำได้กับบาร์เซโลน่า (2009, 2011), บาเยิร์น มิวนิค (2013) และแมนฯซิตี้ ในปีนี้เป็นสถิติดีสุด
สำหรับรางวัลต่างๆ ประจำทัวร์นาเมนต์นี้ ผู้เล่นยอดเยี่ยม : โรดรี (แมนฯ ซิตี้) ดาวซัลโวสูงสุด : ฮูเลียนอัลวาเรซ (แมนฯ ซิตี้), คาริม เบนเซม่า (อัล อิตติฮัด), อาลี มาลูล (อัล อาห์ลี) คนละ 2 ประตู แฟร์เพลย์ :อัล อิตติฮัด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี