ยูโร 2024 ได้ 4 ทีมสุดท้ายเข้าสู่รอบตัดเชือก หลังจากการดวลแข้งสุดโชกโชนในรอบ 8 ทีมสุดท้าย

ในรอบรองชนะเลิศนั้น สเปน จะพบกับ ฝรั่งเศส และ อังกฤษ ดวลกับ เนเธอร์แลนด์ โดยฉบับนี้ผมรวบรวมเรื่องราวน่าสนใจมาฝากกับทุกท่านกับเกมที่สู้กันอย่างถูกใจแฟนบอลทั่วโลก

l สเปน ยุติสถิติไม่เคยชนะชาติเจ้าภาพในการแข่งขันชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป เอาไว้ที่ เสมอ 2 แพ้ 3 หลังจากชนะ เยอรมนี 2-1 ในช่วงต่อเวลา โดยได้ประตูชัยในนาทีที่ 119 จาก มิเคล เมริโน่

พวกเขายิงได้ 3 ประตูในช่วงครึ่งหลังของการต่อเวลาพิเศษในทัวร์นาเมนท์สำคัญๆ 3 ครั้งแล้วนั่นคือ ฟุตบอลโลก 2010 นัดชิง นาทีที่ 116 โดย อันเดรส อิเนียสต้า, ปี 1964 ยูโร นาทีที่ 115 จาก อมานซิโอ และมิเคล เมริโน่ นาทีที่ 119 โดยทั้งสามลูกนั้นเป็นประตูชัย

l ยูฟ่าได้ประกาศการตัดสินใจของแอนโทนี่ เทย์เลอร์ ที่จะไม่จุดโทษสำหรับเหตุการณ์นี้ให้ถูกต้องแล้ว เนื่องจากจังหวะที่ จามาล มูเซียล่า ของเยอรมนี เตะไปโดนมือของ มาร์ค คูคูเรลลากองหลังสเปน ในแขตโทษนั้น “แขนไม่อยู่ในตำแหน่งที่ผิดปกติ ในขณะที่ถูกลูกบอล”

l เปดรี้ กองกลางดาวรุ่งสเปน มีอาการบิดที่เอ็นข้างฝั่งนอกของหัวเข่าซ้าย และจะต้องใช้เวลารักษาประมาณ 6 สัปดาห์เป็นอย่างต่ำ ทำให้เกมรอบรองชนะเลิศ ที่จะพบกับ ฝรั่งเศสจะไม่มี เปดรี้ รวมถึงผู้เล่นที่ติดโทษแบน คือ โรบิน เลอ นอร์กม็องด์และ ดานี่ การ์บาฆาล

l เยอรมนี ไม่ชนะสเปนเลย 6 นัดติดต่อกัน ด้วยการเสมอ 3 แพ้ 3 โดยชัยชนะครั้งสุดท้ายของพวกเขาคือเกมชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปครั้งล่าสุดในบ้านเมื่อปี 1988 และทำให้เจ้าภาพนั้นเป็นแชมป์ครั้งหลังสุดต้องย้อนไปเมื่อ 40 ปีก่อน นั่นคือ ฝรั่งเศส ปี 1984

l โปรตุเกส ตกรอบด้วยการแพ้จุดโทษ ฝรั่งเศส และทำให้ยุคของคริสติอาโน่ โรนัลโด้ ในยูโรได้สิ้นสุดลงแล้ว กินเวลาทั้งสิ้น 20 ปี พร้อมกับทำสถิติมากมาย

นั่นคือลงเล่นมากสุด 30 นัด, ลงแข่งจำนวนมากสุด 6 ทัวร์นาเมนท์, ยิงประตูมากที่สุด 14 ประตู และแอสซิสต์มากที่สุด 7 ประตู อย่างไรก็ตาม หนนี้ในวัย 39 ปี เขาทำประตูไม่ได้เลย

l หลังจากเอาชนะ โปรตุเกส ด้วยการดวลจุดโทษ ฝรั่งเศส กลายเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์การแข่งขันชิงแชมป์ยุโรปที่เข้าถึงรอบรองชนะเลิศโดยไม่ได้ประตูจากโอเพ่นเพลย์ โดยสร้างโอกาส 86 ครั้งใน 5 เกม พวกเขาจะไปเจอกับ สเปน

l สวิตเซอร์แลนด์ ล้มเหลวในการผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศครั้งที่ 5 ในการแข่งขันชิงแชมป์โลกและชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ซึ่งถือเป็นจำนวนการผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศที่สูงที่สุดแต่ไม่ผ่านเข้าถึงตัดเชือก พวกเขาแพ้จุดโทษให้กับ อังกฤษ 3-5 หลังจากเสมอกัน 1-1

l อังกฤษ ชนะจุดโทษเป็นครั้งที่สามในประวัติศาสตร์ที่พวกเขาฝ่าวิกฤตตัวเองได้สำเร็จ โดยยิงจุดโทษทั้ง 5 ครั้งตุงทุกเม็ด เป็นครั้งที่ 2 ในการยิงจุดโทษ 10 นัดที่อังกฤษยิงจุดโทษได้ 100% หนแรกคือในยูโร 96 พบกับสเปน หนนั้นยิงเข้าชนะใน 4 คนรวด

l เนเธอร์แลนด์ เข้าถึงรอบรองชนะเลิศของการแข่งขันชิงแชมป์ยุโรปเป็นครั้งที่ 6 ในประวัติศาสตร์ โดยมีเพียงเยอรมนีเท่านั้นที่เข้าถึงสี่ทีมสุดท้ายได้บ่อยกว่าในยูโร 9 ครั้ง

แต่นี่คือการเข้าถึงรอบรองชนะเลิศของทัวร์นาเมนท์สำคัญได้เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ฟุตบอลโลก ปี 2014 และนับเฉพาะในยูโร พวกเขารอบรองชนะเลิศครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2004

สเตฟาน เด ฟราย ทำประตูตีเสมอในเกมกับตุรกี ก่อนชนะ 2-1 เป็นประตูแรกรอบ 9 ปี 97 วัน ที่ยิงให้ทีมชาติสำเร็จ

l ประตูชัยของ เนเธอร์แลนด์ ที่มีเหนือ ตุรกี 2-1 เป็นคู่เดียวในรอบนี้ที่ไม่มีการต่อเวลา รวมถึงมาจากการยิงเข้าประตูตัวเอง และเป็นประตูที่ 11 ในยูโรหนนี้ มากที่สุดในประวัติศาสตร์ลูกหนังชิงเจ้าทวีปนี้

l นับเป็นครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ของการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป มีเกมถึง 3 นัดในรอบก่อนรองชนะเลิศ ที่มีการต่อเวลาพิเศษ ครั้งแรกคือ ปี 2008 (โครเอเชีย-ตุรกี, เนเธอร์แลนด์-รัสเซีย และอิตาลี-สเปน) และครั้งนี้ ปี 2024 (เยอรมนี-สเปน, ฝรั่งเศส-โปรตุเกส และอังกฤษ-สวิส)

ครั้งแรก ปรากฏว่า สเปน ได้แชมป์ ส่วนครั้งนี้ต้องรอคำตอบ

บี แหลมสิงห์