ยูโร 2024 จบรอบ 16 ทีมสุดท้าย เราเห็นหลายภาพที่ฉายออกมาน่าสนใจมาก

ทีมแชมป์กลุ่มผ่านเข้ารอบไปได้ 4 ทีม และพลาดพ่ายไป 2 นั่นคือ โรมาเนีย กับ ออสเตรีย

“แชมป์เก่า” อิตาลี จอดป้ายเพียงรอบนี้โดยแพ้ให้กับ สวิตเซอร์แลนด์ แบบราบคาบ 0-2 ขณะที่ “รองแชมป์เก่า” อังกฤษ โกงความตายตีเสมอในช่วงทดเจ็บ ก่อนจะได้ประตูแรกตั้งแต่นาทีแรกของช่วงต่อเวลาเหนือ สโลวาเกีย 1-0

เจ้าภาพ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี มีอุปสรรคจากสภาพดินฟ้าอากาศ แต่ก็ผ่าน เดนมาร์ก 2-0 เข้าไปเจอกับ “กระทิงดุ”สเปน ที่เล่นได้ตามมาตรฐานและเป็นทีมเดียวด้วยซ้ำที่ดีทั้ง “ระบบ” และดีทั้ง “ความสามารถส่วนบุคคล” กำราบ จอร์เจีย 4-1

ทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุด จาก 4 เหลือแค่หนึ่งเดียวก็คือ เนเธอร์แลนด์ ที่เล่นได้เข้าทรงทิ่ม โรมาเนีย ยับ 3-0

มีคู่เดียวที่ยิงกันไม่ได้ และต้องดวลลูกโทษตัดสินฎีกาก่อนที่ โปรตุเกส จะชนะ สโลวีเนีย 3-0 ได้เข้ามาเจอกับ ฝรั่งเศส ที่ยังยิงเองจากโอเพ่นเพลย์ไม่ได้ หลังจากมีลูกแฉลบเชือด เบลเยียม 1-0

พลิกล็อกที่สุด คงไม่พ้นเกมคู่สุดท้ายระหว่าง ตุรกีที่ดับ ออสเตรีย 2-1 ทั้งที่เป็นรองอยู่พอสมควร

ว่ากันถึงคู่ตุรกี มีการนำมาเปรียบกันระหว่างลูกเซฟสุดมหัศจรรย์ ของ กอร์ดอน แบงค์ส ที่เคยเซฟลูกโหม่งของ เปเล่ ในบอลโลก ปี 1970 ลูกนั้นเป็นที่รู้จักในฐานะ “การเซฟแห่งศตวรรษ”

การที่ เมิร์ต กูน็อก ผู้รักษาประตูของตุรกี พุ่งเข้าไปปัดลูกโหม่งของ คริสตอฟ บอมการ์ทเนอร์ ออกไปได้อย่างน่าเหลือเชื่อ คือการเซฟครั้งสำคัญ อาจจะไม่ได้สปริงตัวข้ามแบบมหัศจรรย์เหมือนเมื่อครั้งที่ แบงค์ส ทำเอาไว้ แต่มันจะตราตรึงทุกคนไปอีกนานในระดับทัวร์นาเมนท์ และเกิดขึ้นนาทีที่ 90+5 แล้วด้วย

มันคือการป้องกันอันน่าเหลือเชื่อมาก เพราะ เมิร์ต กูน็อกเซฟซะน็อกพวกออสเตรียนต้องกลับดานู้บ แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นชัดเจนก็คือ เมื่อถูกจับตามองมาก ๆ ทีมเหล่านี้กลับเล่นไม่เป็น

1.ออสเตรีย เสียเร็วเกินไป, 2.ออสเตรีย พลาดเสียทั้งสองประตูจากลูกเตะมุม, 3.กดดันเพรสหนักจนตุรกีโงหัวไม่ขึ้นก็จริง แต่ไม่เด็ดขาดไม่เฉียบคม

ภาพที่ออกมาก็คือ ตุรกี แม้จะขาดแม่ทัพสำคัญอย่าง ฮาคาน ชัลฮาโนกลู เลือกปรับทัพเล่นอัดกลางสายตัดเกม แล้วอาศัยวินัยการเล่นเหมือนกับชุดสุดคลั่งปี 2002 ในบอลโลก ปีนั้นที่โผล่มาได้ที่ 3

ว่ากันตามทรง ตุรกี มีหลายสิ่งที่น่าจดจำไล่ตั้งแต่เริ่มต้นทัวร์นาเมนท์ รอบแรกจนถึงน็อกเอาท์

นัดแรก ที่ฝ่าสายฝน ถลุง จอร์เจีย 3-1, นัดสองยิงเข้าโกล์ตัวเอง แพ้ราบคาบให้ โปรตุเกส 0-3, นัดสามกำชัยนาทีที่ 93.45 เหนือ เช็ก 2-1 ในเกมที่มีมากถึง18 ใบเหลือง 2 ใบแดง

ล่าสุด ยิงประตูเร็วสุดในรอบน็อกเอาท์ 57 วินาทีเท่านั้น และมีเซฟสำคัญก่อนชนะ 2-1 เหนือ ออสเตรียว่าที่ “ทีมม้ามืด” ในรายการ

สุดท้ายกลายเป็น ตุรกี ที่เป็น “ม้ามืด” ไปแล้วหรือยังไม่รู้หรอกครับ

รู้แต่ว่า นี่เป็น “ของแปลก” ที่สุดประจำทัวร์นาเมนท์ไปแล้ว!!!