การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม 2568 มีลงสนาม 3 คู่ถึงว่าน่าสนใจทั้งหมด เริ่มในเวลา 21.00 น.“ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ จะเปิดบ้านรับการมาเยือน “เดอะ เชอร์รีส์” เอเอฟซี บอร์นมัธ

เจ้าถิ่นบุกไปพ่ายให้กับ อาแซด อัล์คม่าร์ 0-1 ในศึกยูโรป้า ลีก รอบ 16 ทีม เลกแรกเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนในลีกรั้งอันดับ 13 ของตารางมี 33 คะแนน จากการลงเล่น 27 นัด เกมนี้ไม่มี ราดู ดรากูซิน และริชาร์ลิซอน ที่บาดเจ็บ ส่วนโดมินิค โซลันกี้ และเดยัน คูลูเซฟสกี้ ก็มาเดี้ยเพิ่ม ข่าวดีคือ 2 แนวรับอย่าง มิคกี้ ฟาน เดอเฟ่น และคริสเตียน โรเมโร่ น่าจะพร้อมสตาร์ทตัวจริงแดนกลางใช้ ป๊าป มาตาร์ ซาร์ คุมจังหวะเกมร่วมกับ โรดริโก้ เบนตานคูร์ และเจมส์ แมดดิสัน โดยมีแบรนแนน จอห์นสัน, มาธิส แตล และซน ฮึง-มิน เป็นสามประสานในแนวรุก

ทีมเยือน รั้งอันดับ 7 ของตารางได้พักมาเต็มๆช่วงหลังผลงานไม่ค่อยดีแพ้ในลีกมา 2 เกมติด เกมนี้ทีมของ อันโดนี่ อิราโอล่า ไม่มี อิลย่า ซาบาร์นยี่ ปราการหลังที่ติดโทษแบน เช่นเดียวกับ มาร์กอส เซเนซี่, เอเนส อูนัล และอดัม สมิธ ที่บาดเจ็บ ส่วน ไรอัน คริสตี้ ต้องรอทดสอบความฟิต นอกนั้นอยู่กันครบมาในระบบ 4-2-3-1 นำโดย อเล็กซ์สกอตต์, ไทเลอร์ อดัมส์, เดวิด บรู๊คส์, จัสตินไคลเวิร์ต, อองตวน เซเมนโย่ และเอวานิลซอนโดยสถิติการเจอกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด ไม่เคยจบลงด้วยผลเสมอ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ชนะ 3 และบอร์นมัธ ชนะ 2

สกอร์ที่คาด : สเปอร์ส 2-2 บอร์นมัธ

ในช่วงเวลาเดียวกัน 21.00น. “สิงห์บลูส์” เชลซี จะเปิดบ้านรับการมาเยือน “สุนัขจิ้งจอก” เลสเตอร์ ซิตี้ ที่กำลังดิ้นรนหนีการตกชั้น โดยเจ้าถิ่น เชลซี รั้งอันดับ 5 ของตาราง ล่าสุดเพิ่งลงเล่นในศึกยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก บุกไปเอาชนะ เอฟซีโคเปนเฮเกน 2-1 เกมนี้ไม่มี โรเมโอ ลาเวีย, นิโคลัสแจ็คสัน, มาร์ค กีอู และโนนี่ มาดูเอเก้ ที่บาดเจ็บนอกนั้นไม่มีปัญหาอะไร บรรดาแกนหลักที่ได้พักจะกลับมาเป็นตัวจริงทั้งหมด ยึดระบบการเล่น 4-2-3-1 เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ คุมแดนกลางร่วมกับมอยเซส ไคเซโด้ แนวรุกใช้ เจดอน ซานโช่ ประสานงานกับ โคล พัลเมอร์, เปโดร เนโต้ และคริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู

ฝั่งผู้มาเยือน รั้งอันดับ 19 มีเพียง 17 คะแนน จากการลงเล่น 27 เกม ฟอร์มไม่ดีเลย เกมนี้ไม่มี อับดู ฟาตาวู และริคาร์โด้ เปเรยร่าที่ยังบาดเจ็บ ที่เหลือแกนหลักอยู่ครบมีให้ รุด ฟาน นิสเตลรอย ได้เลือกใช้สอยอย่างเต็มที่ มาในระบบ 4-2-3-1 เช่นเดียวกัน นำโดย วีลฟรีด เอ็นดิดี้,บูบาการี่ ซูมาเร่ และเจมี่ วาร์ดี้ ซึ่งสถิติการเจอกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด เชลซี เหนือกว่าเยอะไม่แพ้เลย ชนะ 4 และเสมอ 1

สกอร์ที่คาด : เชลซี 3-0 เลสเตอร์ ซิตี้

ปิดท้ายด้วยคู่ดึก ถือว่าเป็นคู่เอกประจำสัปดาห์ลงเล่นในเวลา 23.30 น. “ปีศาจแดง”แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเปิดถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต้อนรับการมาเยือน “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล

เจ้าถิ่นไปเสมอกับ เรอัล โซเซียดัด 1-1 ในศึกยูโรป้า ลีก รอบ 16 ทีมเลกแรก ส่วนบอลถ้วยอย่าง เอฟเอ คัพ ตกรอบไปแล้วหลังพ่ายจุดโทษให้กับ ฟูแล่ม ทีมของ รูเบน อโมริม ยังรั้งอันดับ 14 ของตาราง มี 33 คะแนนจากลงเล่น 27 เกม นัดนี้ยังไม่มี แพทริค ดอร์กู ที่ชดชัยโทษแบนต่อไป รวมไปถึง ลิซานโดร มาร์ติเนซ, เมสัน เมาท์, อาหมัด ดิยัลโล่และค็อบบี้ เมนู ที่เดี้ยงอยู่ ที่เหลืออาจจะรอทดสอบความฟิตผู้เล่นบางราย แต่โดยรวมถือว่าอยู่กันครบ ยึดระบบ 3-4-2-1 เหมือนเดิม นำโดย นูสแซร์มาซราวี, บรูโน่ เฟอร์นานเดส, มานูเอล อูการ์เต้, ดีโอโก้ดาโลท์, อเลฮานโดร การ์นาโช่, โยชัว เซิร์กซี และราสมุส ฮอยลุนด์

ทีมเยือน อาร์เซน่อล รั้งรองจ่าฝูงของตาราง มี 54 คะแนน จากการลงเล่น 27 เกม ล่าสุดเพิ่งระบายความอัดอั้นด้วยการบุกไปถล่ม พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น 7-1ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีม เลกแรกเกมนี้ยังเจอปัญหานักเตะแดนหน้าอย่าง กาเบรียล เชซุส,ไค ฮาแวร์ตซ์, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ และบูกาโย่ซาก้า ที่บาดเจ็บ ทำให้ต้องยึดชุดเดิม วาง มิเกล เมริโน่เป็นหัวหอกจำเป็นขนาบข้างไปด้วย อีธาน เอ็นวาเนรี่และเลอันโดร ทรอสซาร์ โดยใช้แผนกลางชุดเดิมอย่าง โธมัส ปาร์เตย์, เดแคลน ไรซ์ และมาร์ตินโอเดการ์ด

สถิติการเจอกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุดในทุกรายการ อาร์เซน่อล ชนะ 3 เสมอ 1 และแมนฯยูไนเต็ด ชนะ 1

สกอร์ที่คาด: แมนฯยูไนเต็ด 1-1 อาร์เซน่อล