การแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ อังกฤษ ฤดูกาล 2024-25 เดินทางมาถึงรอบชิงชนะเลิศ เป็นปีที่ 154 สำหรับถ้วยฟุตบอลที่เก่าแก่ที่สุดในโลก โดยในหนนี้ “ปราสาทเรือนแก้ว” คริสตัล พาเลซ จะพบกับ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเวลา 22.30น. ที่สนามเวมบลีย์ ในมหานครลอนดอน
คริสตัล พาเลซ ภายใต้การคุมทีมของ โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ รั้งอันดับ 12 ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ช่วงหลังถือว่าฟอร์มแข็งแกร่งไม่แพ้ใครมา 5 เกมติดในทุกรายการ ชนะ 2 เสมอ 3 สภาพทีมไม่มี ชาดี้ ริยาด และชีค ดูคูเร่ ที่บาดเจ็บ ส่วนมิดฟิลด์คนสำคัญอย่าง อดัม วอร์ตัน ต้องรอทดสอบความฟิต นอกนั้นอยู่กันครบ ดีน เฮนเดอร์สัน ลงเฝ้าเสาแนวรับจัดหลังสามในระบบ 3-4-2-1 นำโดย มาร์ค เกฮี, มักซองต์ ลาครัวซ์ และคริส ริชาร์ดส์, วิงแบ็คสองฝั่งใช้ ดาเนี่ยล มูนญอซ และไทริค มิทเชลล์ โดยมี อิสไมล่า ซาร์, เอเบเรซี่ เอเซ่ และฌอง ฟิลิปป์-มาเตต้า เป็นสามแนวรุก
ฝั่ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รั้งอันดับ 4 ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ช่วงหลังผลงานยอดเยี่ยมไม่แพ้ใครมา 10 เกมในการลงเล่นทุกรายการ ชนะ 7 เสมอ 3 แต่เกมล่าสุดฝืด ทำได้เพียงบุกไปเสมอทีมบ๊วยอย่าง “นักบุญ” เซาธ์แฮมป์ตัน ที่ตกชั้นไปแล้ว 0-0 ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า น่าจะยังไม่มีแกนผู้เล่นที่บาดเจ็บอย่าง ออสการ์ บ็อบบ์, จอห์น สโตนส์, นาธาน อาเก้ และโรดรี้ เอร์นานเดซ แม้บางรายจะกลับมาซ้อมแล้วก็ตาม นอกนั้นไม่มีปัญหาอะไร อยู่ที่ว่าจะจัดทัพแบบไหน เพราะตัวเลือกมีค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะแนวรุกที่ได้ เออร์ลิ่ง เบร้าท์ ฮาลันด์ กลับมา
สถิติการเจอกันของทั้งสองทีม 73 ครั้งในทุกรายการ แมนฯซิตี้ 39 เสมอ 17 และคริสตัล พาเลซ ชนะ 17 นับเฉพาะในรายการเอฟเอ คัพ 4 ครั้ง แมนฯซิตี้ ชนะ 3 พาเลซ ชนะ 1
ส่วนการพบกันในฤดูกาลนี้ในลีก 2 เกม เสมอที่ เซลเฮิร์ตส์ พาร์ค 2-2 และแมนฯซิตี้กลับมาถล่มที่เอติฮัต 5-2 ในเกมที่พาเลซบุกมานำ 2-0 และเกือบจะเป็น 3-0 แต่โดนระบบ VAR เซมิออโต้จับล้ำหน้า
คริสตัล พาเลซ ไม่เคยคว้าแชมป์รายการนี้ พวกเขาเคยไปถึงรอบชิงชนะเลิศ 2 ครั้ง ในปี 1990 เสมอกับ แมนฯยูไนเต็ด เสมอ 2-2 ต่อเวลาก็เสมอ 3-3 ทำให้ต้องเล่นนัดรีเพลย์ ปรากฏว่าพ่าย 0-1 โดน ลี มาร์ติน ยิงประตูชัย
ส่วนหนที่ 2 เกมขึ้นในปี 2016 ภายใต้การคุมทีมของ อลัน พาร์ดิว ก็พ่ายให้กับ แมนฯยูไนเต็ด ของหลุยส์ ฟาน ฮาล 1-2 ในช่วงการต่อเวลาพิเศษ นำก่อนจาก เจสัน พันเซี่ยน นาทีที่ 78 ก่อนจะโดน ฆวน มาต้า ตามตีเสมอในอีก 3 นาทีต่อมา และ “ปีศาจแดง” ได้ประตูชัยจาก เจสซี่ ลินการ์ด ในนาทีที่ 110
แมนฯซิตี้ คว้าแชมป์รายการนี้ได้ 7 ครั้ง จากการเข้าชิงทั้งหมด 13 ครั้ง หนล่าสุดที่เข้าชิงคือฤดูกาลที่แล้ว พ่ายให้กับคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง แมนฯยูไนเต็ด 1-2
11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาด
คริสตัล พาเลซ (3-4-2-1) : ดีน เฮนเดอร์สัน, คริส ริชาร์ดส์, มักซองต์ ลาครัวซ์, มาร์ค เกฮี, ดาเนี่ยล มูนญอซ, อดัม วอร์ตัน, ไดจิ คามาดะ, ไทริค มิทเชลล์, อิสไมล่า ซาร์, เอเบเรซี่ เอเซ่ และฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า
แมนฯซิตี้ (4-2-3-1) : สเตฟาน ออร์เตก้า, มาเตอุส นูเนส, รูเบน ดิอาส, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, นิโก้ โอไรลีย์, มาเตโอ โควาซิซ, อิลคาย กุนโดกาน, ฟิล โฟเด้น, เควิน เดอ บรอยน์, โอมาร์ มาร์มูช และเออร์ลิ่ง เบร้าท์ ฮาลันด์
สกอร์ที่คาด: คริสตัล พาเลซ 1-2 แมนฯซิตี้
Road to Wembley
คริสตัล พาเลซ
รอบ 3: (เหย้า) ชนะ สต็อคพอร์ต เค้าน์ตี้ (ลีก วัน) 1-0
รอบ 4: (เยือน) ชนะ ดอนคาสเตอร์ (ลีก ทู) 2-0
รอบ 5: (เหย้า) ชนะ มิลล์วอลล์ (แชมเปี้ยนชิพ) 3-1
รอบ 8 ทีม: (เยือน) ชนะ ฟูแล่ม (พรีเมียร์ลีก) 3-0
รอบรองฯ: (กลาง) ชนะ แอสตัน วิลล่า (พรีเมียร์ลีก) 3-0
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
รอบ 3: (เหย้า) ชนะ ซัลฟอร์ด ซิตี้ (ลีก ทู) 8-0
รอบ 4: (เยือน) ชนะ เลย์ตัน โอเรียนท์ (ลีก วัน) 2-1
รอบ 5: (เหย้า) ชนะ พลีมัธ อาร์ไกล์ (แชมเปี้ยนชิพ) 3-1
รอบ 8 ทีม: (เยือน) ชนะ บอร์นมัธ (พรีเมียร์ลีก) 2-1
รอบรองฯ: (กลาง) ชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (พรีเมียร์ลีก) 2-0
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี