สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ผู้ชนะการ ประมูลลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพของประเทศไทย (ไทยลีก) ประจำฤดูกาล 2025/26-2028/29 รวมระยะเวลา 4 ฤดูกาล  เป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

โดยก่อนหน้านี้ ได้มีผู้เข้าประมูล 3 รายที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ประกอบไปด้วย บริษัท ไบรท์ นาว จำกัด (TrueVisions Now), บริษัท ไมโม่เทค จำกัด ร่วมกับ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (AIS – JAS) และ บริษัท บีจี สปอร์ตส์ จำกัด (BG Sports)  ก่อนจะมีการปิดประมูลในวันที่ 4 มิ.ย.  

ล่าสุดในการประชุม สภากรรมการสมาคมกีฬาฟุตบอล เมื่อวันศุกร์ที่ 6 มิ.ย.  "มาดามแป้ง"  นวลพรรณ ล่ำซำ  นายกสมาคมฯ พร้อมสภากรรมการ  ได้เปิดเผยว่าเวลานี้ได้ผู้ชนะการประมูลครั้งนี้แล้ว นั่นก็คือ  บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ  บริษัท กัลฟ์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) คือ ผู้ชนะการประมูลลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีกทุกระดับ แบบ Exclusive ภายในประเทศ ตั้งแต่ฤดูกาล 2025/26-2028/29 พร้อมเงื่อนไขพิเศษต่ออีก 2 ฤดูกาล โดยได้รับความเห็นชอบจากมติสภากรรมการ อย่างเป็นทางการ

มูลค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดไทยลีก ตั้งแต่ฤดูกาล 2025/26-2028/29

- ฤดูกาลละ 350 ล้านบาท รวม 4 ฤดูกาล เป็นเงิน 1,400 ล้านบาท

- ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดแบบ Exclusive รายการ ไทยลีก 1 , ไทยลีก 2 , ไทยลีก 3 , ฟุตบอลถ้วย ช้าง เอฟเอ คัพ , ฟุตบอลถ้วย รีโว่ คัพ , U21 ลีก , Women’s League 1-2

- รับผิดชอบค่าผลิตสัญญาณ มูลค่าไม่น้อยกว่า 150 ล้านบาท/ฤดูกาล รวม 4 ฤดูกาล เป็นเงินไม่น้อยกว่า 600 ล้านบาท

- รวมมูลค่าที่ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ได้รับ ไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท/ฤดูกาล เป็นมูลค่าไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท ตลอด 4 ฤดูกาล

นอกจากนี้ ”มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ยังเสนอต่อที่ประชุมสภากรรมการ เพิ่มเงินสนับสนุนแบบให้เปล่าให้กับสโมสรสมาชิก ทั้ง 3 ลีก ตั้งแต่ฤดูกาล 2025/26 เป็นต้นไป ดังนี้

ไทยลีก 1 ทีมละ 15 ล้านบาท จำนวน 16 ทีม รวมเป็นเงิน 240 ล้านบาท

ไทยลีก 2 ทีมละ 4 ล้านบาท จำนวน 18 ทีม รวมเป็นเงิน 72 ล้านบาท

ไทยลีก 3 ทีมละ 1.25 ล้านบาท จำนวน 70 ทีม รวมเป็นเงิน 86.5 ล้านบาท

รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 398.5 ล้านบาท 

ทั้งนี้ JAS ยังเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ พรีเมียร์ลีก และเอฟเอ คัพ ครอบคลุม 3 ประเทศ (ไทย, กัมพูชา, ลาว) ระยะเวลา 6 ฤดูกาล (2025/26 – 2030/31) ด้วย