โลกกีฬาจับตา “หุ้นส่วนใหญ่” ของแฟรนไชส์บาสเก็ตบอล NBA ของ ลอสแองเจลิส เลเกอร์ส กำลังจะถูกขายออกไป ซึ่งถือเป็นการขายทีมกีฬาของสหรัฐฯ ที่มีราคาแพงที่สุดในประวัติศาสตร์

ครอบครัวบัสส์(The Buss family) เป็นเจ้าของทีมมาตั้งแต่ปี 1979 และตอนนี้ได้ทำข้อตกลงกับมาร์ก วอลเตอร์ ซีอีโอของ TWG Global แล้ว โดยมีรายงานว่าการขายครั้งนี้มีมูลค่าสูงถึง 10,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 3แสน3หมื่ืนล้านบาท แต่ราคาอาจเพิ่มขึ้นเมื่อสรุปยอดสุทธิแล้ว โดย วอลเตอร์ ยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของทีมลอสแองเจลิส ดอดเจอร์ส ทีมเบสบอลอาชีพของสหรัฐฯ ที่คว้าแชมป์เวิลด์ซีรีส์เมื่อปีที่แล้ว

โฆษกของบริษัทของ มาร์ก วอลเตอร์ ยืนยันว่า มหาเศรษฐีผู้นี้กำลังทำข้อตกลงกับเลเกอร์สอยู่  ซึ่งเขาเป็นผู้ถือหุ้นมาตั้งแต่ปี 2021 โดย วอลเตอร์ กลายเป็นเจ้าของร่วมของทีมด้วยหุ้น 20% เขามีการลงทุนกับทีมกีฬาต่างๆ ทั่วโลก รวมถึง “สิงห์บลูส์” เชลซี ทีมฟุตบอลในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และตาดิลแลค ฟอร์มูล่า วัน ทีม ในศึกชิงเจ้าความเร็ว ซึ่งเตรียมเข้าสู่การแข่งขันในปี 2026

ก่อนหน้านี้ ทีมกีฬาที่แพงที่สุดในสหรัฐคือ บอสตัน เซลติคส์ ทีมบาสเกตบอลชื่อก้องโลก ซึ่งถูกขายไปให้กับ บิลล์ คริสโฮล์ม เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ด้วยมูลค่า 6.1 พันล้านดอลลาร์  แซงหน้าการขายทีมอเมริกัน ฟุตบอล อย่าง วอชิงตัน คอมมานเดอร์ส  ด้วยมูลค่า 6.05 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2023

เจอร์รี บัสส์ ซื้อทีมเลเกอร์ส ด้วยข้อตกลงมูลค่า 67.5 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 1979 ซึ่งรวมถึงทีมฮอกกี้ ลอสแองเจลิส คิงส์ และสนามกีฬาในลอส แองเจลิส ซึ่งรู้จักกันในชื่อ เกีย ฟอรัม ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เลเกอร์ส คว้าแชมป์ได้มากกว่าทีมอื่น ๆ ใน NBA โดยพวกเขาได้เข้ารอบชิงชนะเลิศ NBA 17 ครั้ง และคว้าแชมป์ได้ 11 ครั้ง

หลังจาก เจอร์รี บัสส์ เสียชีวิต ไปเมื่อปี 2013 ความเป็นเจ้าของก็ตกไปอยู่ในมือของลูก ๆ ทั้ง 6 คนของเขา โดยครอบครัวนี้ถือหุ้นในแฟรนไชส์อยู่ 66%