นายอัษฎางค์ เชี่ยวธาดา กรรมการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(ธพว.) หรือเอสเอ็มอีแบงก์ ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่เก็บรวบรวมข้อมูลและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับคดีความการทุจริตภายในธนาคารทั้งหมด พร้อมรายงานความคืบหน้าเป็นระยะ คาดว่าจะใช้เวลา รวบรวมและพิจารณาเอกสารนานหลายเดือน
หลังจากที่ได้รวบรวมเอกสารแล้ว จะต้องมาพิจารณาว่าเป็นปัญหาประเภทใด โดยแบ่งเป็นกลุ่ม กลุ่มที่มีความเร่งด่วนก็จะนำมาตรวจสอบก่อน เช่น คดีที่เสียหายต่อธนาคารโดยตรงอย่างการฟ้องร้องลูกหนี้ที่เป็นหนี้เสีย หากรายใดมีการฟ้องร้องอยู่แล้ว ก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ และรายใดที่ค้างอยู่คณะกรรมการชุดก่อนหน้า ก็จะดำเนินกระบวนการทางคดีต่อไป
นอกจากนี้คดีที่ได้รับมาทั้งหมด รวมไปถึงข้อพิพาทระหว่างคณะกรรมการชุดก่อนและอดีตกรรมการผู้จัดการที่มีปัญหากันด้วย หากมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบอยู่แล้ว ก็จะให้ดำเนินตามกระบวนการต่อไปได้ทันที แต่ส่วนที่ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ก็จะตั้งคณะกรรมการเข้าไปตรวจสอบซึ่งต้องเป็นไปอย่างละเอียด
ข้อมูลทุจริตดังกล่าว อาทิ โครงการสินเชื่อเลิกจ้างงานที่ยืมเงินประกันสังคมมาปล่อยกู้ กรณีการรับฝากเงินขององค์กรสวนยาง โครงการจัดซื้อจัดจ้างทำระบบคอลแบงกิ้งของธนาคาร นอกจากนี้ยังมีกรณีปล่อยกู้ให้กับธุรกิจราชประสงค์หลังความวุ่นวายทางการเมืองเมื่อปี 2553 จัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์สำนักงานที่เกินจริง
“กระทรวงการคลังปล่อยให้คณะกรรมการ ตรวจสอบชุดนี้พิจารณาอย่างอิสระ โดยสั่งให้เจ้าหน้าที่รวบรวมคดีทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับแบงก์ จากนั้นจะเข้าไปดูเพื่อพิจารณา ผิดก็ว่าไปตามผิด ไม่ว่าจะลงโทษทางวินัย หรือการฟ้องร้องก็จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด” นายอัษฎางค์ กล่าว
นายอัษฎางค์กล่าวว่า เรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการคือการขายหนี้ด้อยคุณภาพออกไป 2 หมื่นล้านบาท จากหนี้ปัจจุบันอยู่ที่
3.4 หมื่นล้านบาท โดยจะให้บริษัทบริหารสินทรัพย์เข้ามาประมูล คาดว่าจะสรุปได้ใน 2 เดือนนี้ จากนั้นในระยะที่ 2 คณะกรรมการจะปรับโครงสร้างผู้บริหารภายในองค์กรให้เหมาะสมกับการบริหารจัดการ โดยอาจปรับลดในส่วนของผู้บริหารระดับสูงเพื่อให้เหมาะสมและไม่เกินความจำเป็น
“จากแผนฟื้นฟูกิจการนี้ เชื่อว่าภายใน 1 ปีจะเห็นเด่นชัดมากขึ้นอาจไม่ถึงกับต้องควบรวมอย่างที่เป็นข่าว แต่ก็ขึ้นอยู่กับกระทรวงการคลังด้วยว่าจะเห็นอย่างไร แต่ถ้าในอนาคตมีการเมืองเข้ามาแทรกแซง เหมือนในอดีต แบงก์ก็อาจเข้าสู่วิกฤติได้อีก” นายอัษฎางค์ กล่าว
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่ากระทรวงการคลังได้กำชับคณะกรรมการชุดนี้ตรวจสอบการทุจริตให้ถึงที่สุด เพื่อเรียกความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์องค์กรให้กลับมา นอกจากนี้ ยังให้อำนาจธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ตรวจสอบและกล่าวโทษผู้กระทำความผิดได้ หากธปท.ตรวจพบความผิดสามารถส่งต่อให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริต หรือสำนักงานป้องกันและปราบปราม การฟอกเงินได้ทันที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี