แก้ครหา...ผูกขาดท่อก๊าซไม่ยาก...
nn ประชาชนคนไทย...กำลังเคลิ้ม...มหกรรมคืนความสุข...ทั้งลดอัตราจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ปรับราคาแอลพีจี...แต่ที่ต้องจับตาดูก็เรื่อง...แต่กับเรื่องของท่อก๊าซ ปตท.ที่กำลังระอุขึ้นมา...เพราะเครือข่ายเอ็นจีโอออกมาตีฆ้องร้องป่าวว่า บริษัท ปตท.ยังไม่ได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ในการคืนท่อก๊าซปตท.กลับมาเป็นสมบัติของแผ่นดิน... แม้ว่าผู้บริหาร ปตท.จะออกโรงยืนยันว่าได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาไปหมดสิ้นแล้วตั้งแต่ 28 พ.ย. 2551...แต่ดูเหมือนคำชี้แจงของฝ่ายบริหาร ปตท.ข้างต้น ดูจะไม่สามารถสร้างความกระจ่างให้แก่เครือข่ายเอ็นจีโอ เครือข่ายจับตาปฏิรูปพลังงานไทยอะไรได้...ทั้งยังคงโจมตีว่าแม้จะแยกกิจการท่อก๊าซออกไปจัดตั้งเป็นบริษัทดูแลโดยเฉพาะ แต่สุดท้ายก็ยังคงมีปตท.เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เพียงเจ้าเดียว...จนนายกฯ สั่งให้กระทรวงพลังงานเร่งเคลียร์หน้าเสื่อเรื่องนี้... ที่จริงทางออกของการแก้ข้อครหาว่าปตท.ผูกขาดท่อก๊าซ...มีอยู่แล้ว...และเป็นเรื่องที่รัฐบาลและกระทรวงการคลัง รวมทั้ง ปตท.เองก็เคยดำเนินการมาก่อน...ยกตัวอย่าง...โมเดลธุรกิจ “บริษัทบริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ” หรือ BAFs นั่นแหละที่มีบริษัทการบินไทย บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. และบริษัทน้ำมันร่วมลงขัน ถือหุ้นอยู่ด้วย...และใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันเติมเครื่องบินร่วมกันใครจะถือหุ้นมาก-น้อยอย่างไรก็ว่ากันไปแล้วแต่กำลัง...ด้วยโมเดลธุรกิจของบาฟส์นี้ ผู้ถือหุ้นแต่ละรายสามารถดำเนินการเจรจาธุรกิจที่เป็น Exclusive กับลูกค้า ของตนได้ จะสั่งให้ฝ่ายจัดการคือ “บาฟส์” เป็นผู้จ่ายน้ำมันให้แก่ลูกค้าจากหัวจ่ายเดียวกันก็ทำได้จากปกติที่ฝ่ายจัดการเป็นผู้ทำตลาดให้อย่างเบ็ดเสร็จอยู่แล้ว...ด้วยคุณภาพน้ำมันเครื่องบินหรือ Jet Oil นั้นมีคุณภาพเดียว ไม่ได้มีหลายเกรด หลายระดับ ไม่ต่างไปจากก๊าซธรรมชาติที่คงไม่ได้มีหลายเกรดหลายคุณภาพ การแยกท่อก๊าซออกมาดำเนินการตามโมเดลธุรกิจนี้ จึงไม่ได้เป็นเรื่องยากเย็นแสนเข็ญอะไรเลย แค่หามืออาชีพเข้ามาทำ Due Diligence ประเมินมูลค่าก่อนจะเชื้อเชิญผู้ถือหุ้นผู้ค้าน้ำมันผู้ค้าก๊าซน้อยใหญ่เข้ามาร่วมลงขัน จ้างผู้บริหารมืออาชีพเข้ามาเป็นผู้บริหาร...โดยที่ผู้ค้าก๊าซมีส่วนร่วมกำหนด อัตราค่าผ่านท่อที่เป็นราคามาตรฐานที่ทุกฝ่ายพึงพอใจไม่ถูก หรือแพงจนเกินไปจนกลายเป็นการกีดกันรายอื่นไม่ให้มีโอกาส...แต่หากกำหนดอัตราค่าผ่านท่อต่ำไปจนไม่คุ้มการลงทุน กระทบสถานะของบริษัทร่วม ท้ายที่สุดผู้ถือหุ้นเองก็ได้รับผลกระทบจะต้องมีการเพิ่มทุนตามมานั้น...จึงทำให้การกำหนดอัตราค่าผ่านท่อเกิดความสมดุลที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันกำหนด... น่าแปลกที่ “โมเดลธุรกิจ” นี้ คนในปตท.ก็รู้อยู่เต็มอกเพราะร่วมถือหุ้นอยู่ในบริษัทบาฟส์ที่ให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานอยู่แล้ว แต่กลับแปลกที่ไม่เห็นคนพลังงานปตท.ปัดฝุ่นเรื่องนี้ขึ้นมาดำเนินการ...การแยกท่อก๊าซที่ให้ปตท.ถือหุ้น 100% แยกออกจากบริษัทแม่แล้วมันลดข้อครหาผูกขาดพลังงาน และท่อก๊าซลงไปได้หรือ?... และถึงแม้จะเปิดให้รัฐเข้ามาถือ 25-30% ดึงคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เข้ามากำหนดอัตราค่าผ่านท่อหรือเปิดทางให้เอกชนรายอื่นเข้ามาใช้ มันก็ยังหนีไม่พ้นจะต้องถูกครหาว่าผูกขาดอยู่ดี...ฝาก ฯพณฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.ไหนๆ จะปฏิรูปพลังงานไม่ให้ “เสียของ” แล้วก็ทำซะให้มันสะเด็ดน้ำลงไปอย่าปล่อยคาราคาซังจนต้องหวนกลับมาสังคายนากันใหม่ในอนาคตอีกเลย!!!...nn
อนันตเดช พงษ์พันธุ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี