9 ธ.ค.57 นายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยภายหลังการหารือกับผู้ให้บริการเรียกรถแท๊กซี่ผ่านแอพพลิเคชั่นจำนวน 3 รายได้แก่ GRAB Taxi ,Easy Taxi และ Uber Taxi (ประเทศไทย) ว่า ทางกรมการขนส่งทางบกได้มีการสั่งให้ผู้ประกอบการ Uber Taxi หยุดการให้บริการรถแท๊กซี่ป้ายดำ  เนื่องจากผิดต่อพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 ในการใช้รถยนต์ผิดประเภท รวมถึงไม่มีใบขับขี่สาธารณะและไม่ใช้อัตราค่าโดยสารตามที่หน่วยงานราชการกำหนด ซึ่งในช่วงที่ผ่านได้ดำเนินการจับกุมแล้วประมาณ 10 ราย โดยการลงโทษในเบื้องต้นคือการปรับสูงสุด 2,000 บาท

ทั้งนี้ ในส่วนการให้บริการรถแท๊กซี่ป้ายเขียวของ Uber Taxi สามารถทำได้แต่ต้องอยู่ในกฎหมาย คือสามารถให้บริการได้เฉพาะในพื้นที่สนามบินโรงแรมและการนำเที่ยวเท่านั้น ซึ่งทาง Easy Taxi และ GARB Taxi ให้บริการผ่านรถแท๊กซี่ป้ายเหลือง เป็นการให้บริการที่ถูกต้องตามกฎหมายอยู่แล้ว โดย GARB  Taxi เตรียมจะเปิดให้บริการรถแท๊กซี่ป้ายเขียว โดยจะเข้ามาหารือถึงแนวทางการดำเนินการที่ถูกต้องกับกรมการขนส่งทางบกอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการใช้แอพพลิเคชั่นฯ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงไอซีทีที่จะต้องเป็นผู้ทำการตรวจสอบ หากพบว่าผิดกฎหมายก็จะมีการสั่งปิดทันที โดยในการดำเนินการในระยะต่อไปทางกรมการขนส่งทางบกก็เตรียมที่จะหารือกับอัยการสูงสุด ในเรื่องการเพิ่มบทลงโทษทางกฎหมายกับการใช้รถผิดประเภท

ด้านนายณัฐภัค อติชาตการ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท Easy Taxi เปิดเผยว่า การให้บริการของ Easy Taxi เป็นไปตามกฎหมายที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด เพราะให้บริการแอพพลิเคชั่นร่วมกับรถแท๊กซี่ป้ายเหลือง และการคัดเลือกผู้ให้บริการรถแท๊กซี่ก็จะต้องมีใบขับขี่รถยนต์สาธารณะ, ใบประกอบการรถแท๊กซี่, บัตรประชาชน และจะมีการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม ซึ่งผู้ให้บริการของ Easy Taxi ในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 8,000 ราย หากผู้ให้บริการกระทำผิดกับผู้โดยสารขั้นร้ายแรงจะดำเนินการไล่ออกโดยทันที แต่หากเป็นการกระทำผิดเพียงเล็กน้อยก็จะมีการรเรียกเข้ามาตักเตือน