นายบวร วงศ์สินอุดม รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) ในฐานะประธานคลัสเตอร์ปิโตรเคมี สอท. เปิดเผยว่า คลัสเตอร์ปิโตรเคมี เกิดจากการรวมกลุ่มธุรกิจหลัก 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ปิโตรเคมี พลาสติก และเคมี โดยมีเป้าหมายที่จะผลักดันให้คลัสเตอร์ดังกล่าวก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำในภูมิภาคอาเซียนในปี 2020 หรือปี 2563 เพื่อที่จะขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะการผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมชีวภาพ หรือ Bio-Industry ซึ่งไทยมีศักยภาพจากที่เป็นแหล่งวัตถุดิบทางการเกษตร ได้แก่ อ้อย มันสำปะหลัง
“Bio Industry เป็นเทรนด์ของโลกที่เอกชนเห็นว่าไทยมีศักยภาพมากเพราะเป็นแหล่งวัตถุดิบ แต่จะต้องร่วมมือกับภาครัฐในการผลักดันและสนับสนุน ซึ่งขณะนี้ก็หารืออยู่กับกระทรวงอุตสาหกรรมที่จะกำหนดเป็นโปรดักส์แชมเปี้ยน รวมถึงการทำให้เกิดดีมานด์ในประเทศนำร่องเพื่อดึงดูดการตั้งโรงงาน เช่น การลดภาษีนำเข้าเม็ดพลาสติกชีวภาพลงมาเพื่อกระตุ้นตลาด เพราะขณะนี้ราคายังค่อนข้างแพง เป็นต้น ซึ่งหากเป็นไปได้เราก็อยากเห็นนโยบายที่ชัดเจนภายในปีนี้ เพราะจะทำให้เกิดมูลค่าเพิ่มกับเกษตรกรไทย ทั้งนี้ปัจจุบันปิโตรเคมีเพียงอย่างเดียวคิดเป็นสัดส่วน 6-7% ของจีดีพีประเทศ แต่เมื่อรวมทั้ง 4 กลุ่มของคลัสเตอร์ปิโตรเคมีคิดเป็นสัดส่วน 10% ของจีดีพีประเทศ และหากภาครัฐมีการส่งเสริมปิโตรเคมีทั้ง 4 กลุ่มอย่างจริงจังจะสามารถผลักดันจีดีพีประเทศให้โตมากกว่า 4% อย่างแน่นอน” นายบวรกล่าว
ทั้งนี้ มีนักลงทุนจากต่างประเทศสนใจที่จะเข้ามาลงทุนตั้งโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกไบโอชีวภาพในไทยแล้วอย่างน้อย 2-3 ราย ทั้งจากสหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น โดยกำลังรอความชัดเจนถึงการส่งเสริมการลงทุนในภาพรวม ซึ่งหากเกิดขึ้นได้ 2 แห่ง จะมีเม็ดเงินลงทุนประมาณ 500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม ไทยเองก็มีคู่แข่งที่จะดึงการลงทุนคือมาเลเซียที่ให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ ค่อนข้างมาก โดยเครือปตท.เองก็มีพื้นที่ในการรองรับอุตสาหกรรมนี้ไว้แล้วคือที่นิคมอุตสาหกรรมเอเชีย ซึ่งหากมีการปักธงลงทุนขั้นต้นที่เป็น Bio-Base การลงทุนต่อเนื่องจะตามมาอีกมาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี