ไทยเบฟชี้กำลังซื้อในประเทศดีขึ้นดันยอดขายโต
ลุ้นโครงการรัฐผันเม็ดเงินสู่รายย่อย
นายวิเชฐ ตันติวานิช ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ กล่าวภายหลังการร่วมพิธีเปิดบูธไทยเบฟ ในงาน
THAIFEX-World of food ASIA 2015 ว่า เครื่องดื่มกับอาหารเป็นตัวชี้วัดกำลังซื้อของคนในประเทศว่ามีมากน้อยแค่ไหน ซึ่งในไตรมาสที่ 1 ของไทยเบฟ ผลประกอบการดีขึ้นประมาณ 10% ซึ่งบ่งบอกว่าสินค้าได้รับการตอบสนองที่ดีจากผู้บริโภค สาเหตุหากวิเคราะห์ตามหลักการตลาดแล้ว น่าจะมาจากการที่สินค้าของเรามีจำนวนตราสินค้าที่มากขึ้น ทำให้ยอดขายดีขึ้นมา แต่ถ้าเทียบสินค้าเป็นชนิดๆ ก็ต้องบอกว่าใกล้เคียงกับปีที่แล้ว คือ สินค้าเดิมมียอดขายประมาณเดิม แต่มีสินค้าใหม่มาคือ จับใจ และ 100 plus ก็ได้รับการตอบรับที่ดี ทำให้ผลประกอบการโดยรวมดีขึ้น
ทั้งนี้สินค้าที่มียอดขายเพิ่มขึ้น คือ สุราและเบียร์ โดยเฉพาะเบียร์นั้นเป็นไตรมาสที่ 4-5 แล้วที่มีกำไรมากขึ้น ส่วนสินค้าไม่มีแอลกอฮอล์ ตอนนี้ยังไม่มีกำไรเพราะอยู่ในช่วงกำลังเริ่มบุกตลาด ส่วนด้านอาหารก็มีกำไรเล็กน้อย ดังนั้น ถ้าวัดจากยอดขายถือว่ากำลังซื้อของประชาชนดีขึ้น ในช่วงต่อไปหากรัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจให้เม็ดเงินเข้าไปสู่รายย่อย
“ในปีนี้ถ้านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐเริ่มได้ตามแผน ก็เชื่อว่าเม็ดเงินจะเข้าไปถึงกำลังซื้อของรายย่อยมากขึ้น สิ่งที่จะสะท้อนให้เห็น เราจะทราบได้จากยอดขายจากร้านรายย่อย เช่น น้ำดื่มที่เราขายใน ร้านข้าวแกง ก๋วยเตี๋ยว หรือซูเปอร์มาร์เก็ต
โดยรวมเรายังเชื่อมั่นว่าปีนี้ทั้งปีน่าจะมีผลประกอบการที่ดีกว่า
ปีที่แล้ว” นายวิเชฐกล่าว
ส่วนด้านการส่งออก Market Share ของไทยเบฟในตลาดต่างประเทศมีประมาณ 4-5% ส่วนในอาเซียนเรามี Market Share อยู่ 10% เรามองตรงนี้เป็นโอกาสในการเพิ่ม Market Share ในตลาดส่งออก ตามที่เราได้ประกาศวิสัยทัศน์ 2020 (vision 2020) เมื่อปีที่แล้ว ว่าต้องการมียอดขาย 50% มาจากการส่งออก ในอีก 5 ปี เราจะเร่งการส่งออกไปยังต่างประเทศโดยเริ่มจากตลาดอาเซียนก่อน เนื่องจากเป็นประเทศเพื่อนบ้าน มีโรงงานอยู่ติดชายแดน สามารถผลิตและ
ส่งออกได้ง่าย และสินค้ามีความคุ้นเคยอยู่แล้ว ซึ่งในตอนนี้เราไปตลาด มาเลเซีย สิงคโปร์ พม่า เวียดนาม แล้ว
สำหรับเศรษฐกิจโลก เรายังอ่านเกมได้ยากมาก เนื่องจากเมื่อเศรษฐกิจโลกส่งผลกระทบทางด้านลบ บางครั้งกำลังซื้อของประเทศเรา
ไม่ได้ลดลง เพราะสินค้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น อาหาร เครื่องดื่ม
เสื้อผ้า หรือแม้กระทั่งที่พัก ในแถบเอเชียมีราคาถูกกว่ายุโรป เมื่อกำลังซื้อด้านยุโรปหดลง คนก็อาจหันมาซื้อของ หรือหันมาเที่ยวแถบเอเชียมากขึ้น ดังนั้น มองว่าเศรษฐกิจโลกก็น่าเป็นห่วง แต่ยังมองไม่ออกว่า กำลังซื้อจะถูกเทมาหรือชะลอลง แต่ไม่น่าหดหายไปซะทีเดียว เพราะในเอเชียเองเมื่อเปิดอาเซียน ก็จะมีกำลังซื้อระหว่างประเทศอาเซียนด้วยกันเองมหาศาล
ส่วนเรื่องค่าเงินบาทที่อ่อนลง นั้นเป็นการอ่อนค่าเมื่อเทียบกับตลาดอเมริกา ยุโรป ซึ่งไม่ใช่ตลาดหลักของไทยเบฟ สินค้า
ใน sector อื่น อาจจะได้ประโยชน์แต่ไม่มีผล ในส่วนของไทยเบฟ ยังเหมือนเดิม ยกเว้นถ้ากำลังซื้อจากอาเซียนมีเพิ่มขึ้น เราก็จะได้ประโยชน์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี