นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการนำคณะมาตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้แก่กรมการค้าต่างประเทศ ว่า ได้มอบหมายให้กรมการค้าต่างประเทศ ทบทวนแผนบริหารจัดการเรื่องต่างๆ ได้แก่ การบริหารจัดการสินค้าเกษตรหลักที่สำคัญ ได้แก่ ข้าว และมันสำปะหลัง รวมถึงส่งเสริมพัฒนาศักยภาพการค้าต่างประเทศ อำนวยความสะดวกทางการค้า ปกป้องและรักษาผลประโยชน์สูงสุดทางการค้า และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งทางการค้าของไทย
โดยในส่วนของข้าวนั้น ขณะนี้สามารถระบายข้าวสารในสต๊อกของรัฐได้แล้ว 4.7 ล้านตัน มูลค่าประมาณ 51, 320 ล้านบาท เป็นการระบายในประเทศ ต่างประเทศ และแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) และยังเร่งขยายการส่งออกข้าวไปยังต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีการร่วมการประมูลขายข้าวแบบจีทูจีให้ฟิลิปปินส์อีกจำนวนหนึ่ง ส่วนจีนก็เตรียมจะลงนามในสัญญาซื้อขายข้าวเพิ่มอีก 1 ล้านตัน ตามที่ได้เจรจาไว้ก่อนหน้านี้อย่างไรก็ตาม ล่าสุดไทยส่งออกข้าวแล้วปริมาณ 6.9 ล้านตันทำให้คาดว่าการส่งออกข้าวทั้งปี 2558 น่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ปริมาณ 10 ล้านตัน โดยจะเร่งขยายการส่งออกในช่วง 3 เดือนที่เหลือของปี 2558 นี้
“กระทรวงจะพยายามเร่งระบายข้าวสต๊อกของรัฐให้เร็วที่สุด ก่อนที่ข้าวใหม่จะออกมา ซึ่งเร็วๆ นี้ก็มีการเตรียมที่จะระบายข้าวเสื่อมในโกดังที่ตรวจสอบไปก่อนหน้านี้ด้วย โดยแนวทางการระบายข้าวจะมีการยกเลิกกำหนดราคาขั้นต่ำ เพื่อให้การระบายข้าวมีความคล่องตัวมากขึ้น”นางอภิรดี กล่าว
นอกจากนี้ยังให้กรมการค้าต่างประเทศเร่งผลักดันการส่งออก โดยเน้นการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น รวมถึงการแก้ไขปัญหา อุปสรรคการค้าชายแดนอย่าเจาะลึก เพื่อผลักดันการค้าชายแดนและผ่านแดนของไทย เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายที่ 1.5 ล้านล้านบาทภายในปี 2558 ซึ่งในวันที่ 10 ตุลาคม 2558 กระทรวงจะลงพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหา ด่านการค้าชายแดนที่ด่านสะเดาจ.สงขลา ร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันพิจารณาแก้ไขปัญหาที่สามารถดำเนินการได้ทันที เช่น การจัดตั้ง Duty Free Zone การเพิ่มจุดในการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ด่านสะเดา การขยายระยะเวลาเปิดด่าน เป็นต้น ส่วนเรื่องที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ทันที ก็จะนำมาหารือและหาแนวทางแก้ไขต่อไป
ในขณะเดียวกันเพื่อเป็นการรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ได้มอบหมายให้กรมการค้าต่างประเทศ จัดการระบบ National Single Window (NSW) ร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 35 หน่วยงานซึ่งจะมีการเชื่อมโยงข้อมูลสินค้าเพิ่มเติม 22 รายการ ภายในวันที่ 1 ตุลาคม 2558 เพื่อให้สามารถรองรับการค้าที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นภายหลังการเข้าสู่ AEC รวมถึงให้มีการแก้ไขกฎหมาย กฎระเบียบ เพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าด้วย โดยขณะนี้กรมการค้าต่างประเทศมีการปรับปรุงกฎหมายให้มีความทันสมัย ได้แก่ พระราชบัญญัติการส่งออกและนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้าพ.ศ.2522 และประกาศเรื่องกำหนดให้สินค้าที่ใช้ได้สองทางเป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาต และต้องปฏิบัติตามมาตรการจัดระเบียบในการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2558
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี