5 ต.ค.58 นายพิชัย ถิ่นสันติสุข ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ต้องการให้รัฐบาลกำหนดให้อุตสาหกรรมพลังงานทดแทนเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายในเขตเศรษฐกิจพิเศษเพิ่มเติม จากปัจจุบันกำหนดไว้ 13 กลุ่มอุตสาหกรรม คิดเป็น 62 ประเภทอุตสาหกรรมย่อย เพราะนักลงทุนมีความพร้อมเข้าลงทุนทันทีที่ได้รับใบอนุญาตจากรัฐ(พีพีเอ) ไม่ต่ำกว่า 500 เมกะวัตต์ มูลค่าไม่ต่ำกว่า 40,000 ล้านบาท ในเขตเศรษฐกิจทั้งระยะหนึ่งและระยะสอง รวม 10 จังหวัด และ3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย ยะลา ปัตตานี นราธิวาส รวมทั้ง 4 อำเภอใน จ.สงขลา โดยไม่ต้องรอระบบสาธารณูปโภค อาทิ น้ำ ไฟฟ้า ซึ่งเป็นข้อจำกัดสำคัญที่ภาคเอกชนหลายกลุ่มเริ่มออกมาส่งสัญญาณถึงรัฐบาลว่าหากไม่มีโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวก็เป็นเรื่องลำบากที่เอกชนจะเข้าลงทุนได้
ทั้งนี้ ตามความพร้อมของเอกชนสามารถลงทุนได้ทันที 500 เมกะวัตต์ วงเงิน 40,000 ล้านบาท จำนวนนี้เป็นสมาชิกของส.อ.ท.ประมาณ 10 ราย คิดเป็น 150 เมกะวัตต์ มูลค่าประมาณ 1,200 ล้านบาท แต่หากดูจากศักยภาพรวมของนักลงทุนพบว่า มีความต้องการลงทุนมากถึง 1,380 เมกะวัตต์ วงเงินรวมประมาณ 110,400 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.ชายแดนจังหวัดเชียงราย 169 เมกะวัตต์ 2. อ.แม่สอด จ.ตาก 87 เมกะวัตต์ 3. ชายแดน จ.กาญจนบุรี 251 เมกะวัตต์ 4. ชายแดน จ.หนองคาย 66 เมกะวัตต์ 5. ชายแดน จ.มุกดาหาร 46 เมกะวัตต์ 6. ชายแดน จ.สระแก้ว 122 เมกะวัตต์ 8.ชายแดน จ.ตราด 31 เมกะวัตต์ 9. ชายแดน จ.สงขลา 133 เมกะวัตต์ 10. ชายแดน จ.นราธิวาส 88 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ยังมีใน 3 จังหวัดชายแดนใต้และ 4 อำเภอ จ.สงขลา ยังต้องการลงทุน 300 เมกะวัตต์
นอกจากนี้ทางกลุ่มพลังงานทดแทนมีความต้องการให้รัฐบาลเร่งพัฒนาระบบสายส่งไฟฟ้า ซึ่งขณะนี้ยังมีจำนวนไม่เพียงพอและไม่สามารรองรับได้ พร้อมทั้งเร่งรัดขั้นตอนการออกใบอนุญาตจัดตั้งโรงงานให้แล้วเสร็จภายในหน่วยงานเดียว หรือ One Stop Service เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักลงทุน
"ส่วนกรณีที่บางฝ่ายมองว่าหากเน้นการพัฒนาพลังงานทดแทนจะทำให้ค่าไฟฟ้าสูงขึ้นนั้น ยืนยันว่าจะเป็นอัตราค่าไฟฟ้าที่เฉลี่ยเท่ากันตลอดอายุสัมปทาน 20 ปี ขณะที่พลังงานจากฟอสซิลซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักในปัจจุบัน มีแนวโน้มจะทำให้ค่าไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น เพราะจำเป็นต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทดแทนปริมาณก๊าซในประเทศที่กำลังจะหมดลง" นายพิชัยกล่าว
นายวัลลภ วิตนากร รองประธานส.อ.ท.กล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ ส.อ.ท.ได้หารือร่วมกับนางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) เพื่อเสนอให้บรรจุอุตสาหกรรมพลังงานอยู่ในอุตสาหกรรมเป้าหมายเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยสิทธิประโยชน์ที่ได้รับหลักๆ คือ ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มเติมเป็นเวลา 3 ปีแต่รวมแล้วไม่เกิน 8 ปี และกรณีได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลา 8 ปีอยู่แล้วจะได้รับลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล 50% เป็นเวลา 5 ปี ซึ่งนางหิรัญญาชี้แจงว่าบีโอไอกำลังพิจารณาเพิ่มประเภทอุตสาหกรรมเป้าหมายอี 7-10 โครงกาเช่นกัน
"นอกจากนี้ในการประชุมอนุกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ตนจะเสนอให้ภาครัฐพิจารณาให้อุตสาหกรรมพลังงานทดแทนในอุตสาหกรรมเป้าหมายในเขตเศรษฐกิจพิเศษด้วย เพื่อเสนอเข้าสู่คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ หรือ กนพ.ต่อไป"นายวัลลภกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี