ทีดีอาร์ไอระบุแนวโน้มคนไทยบริโภคข้าวน้อยลง แต่ถูกนำไปใช้ในภาคอุตสาหกรรมมากขึ้นด้านผู้ประกอบการชี้ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท จำนำข้าวตันละ 1.5 หมื่นบาท ทำให้ต้นทุนสูงเสียเปรียบคู่แข่งหลังเปิดเออีซี
นายนิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการเกียรติคุณ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ) แถลงผลการศึกษา“โครงการประมาณการบริโภคข้าว” ว่าภาพรวมการบริโภคข้าวของคนไทยมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยแต่ไม่น่ากังวลโดยคาดว่าระยะยาวจะมีแนวโน้มบริโภคลดลง ปัจจุบันคนไทยบริโภคข้าวเฉลี่ย 100-104 กก.ต่อคนต่อปี
ขณะที่ภาคครัวเรือนบริโภค 7 ล้านตันต่อปี ซึ่งจะมีการนำไปใช้อุตสาหกรรมต่างๆ เช่น แอลกอฮอล์ แป้ง เส้นก๋วยเตี๋ยวสด รวมถึงอาหารสัตว์ ประมาณ 10 ล้านตันต่อปีในอนาคตการบริโภคข้าวของประชาชนจะลดลง แต่ภาคอุตสาหกรรมจะบริโภคมากขึ้น อีก 10 ปีข้างหน้าการบริโภคจะลดลงต่ำกว่า 100 กก.ต่อคนต่อปีขณะที่ประชากรอาศัยในเมืองจะบริโภคต่ำกว่า 90 กก.ต่อคนต่อปี เนื่องจากไม่ได้ทำงานหนัก
ส่วนการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี) ไทยมีอุตสาหกรรมแป้งเข้มแข็งแม้ปัจจุบันในภูมิภาคอาเซียนจะกีดกันอุตสาหกรรมแป้ง แต่เชื่อว่าไทยจะสามารถผ่านไปได้ปัจจัยที่ต้องเร่งดำเนินการคือตรวจสอบ แรงงานต่างด้าวในไทยว่ามีจำนวนเท่าใด เพราะเป็นกลุ่มที่บริโภคข้าวไทยมากส่งผลภาพรวมการบริโภคข้าวไทยสูงกว่าปกติและต้องมีการเช็คสต๊อกเพื่อให้ทราบว่ามีมากน้อยเพียงใด
นายสมเกียรติ มรรคยาธร นายกสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทยกล่าวว่าการบริโภคข้าวคนไทยมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องทุกปี ซึ่งปีที่ผ่านมาพบว่าข้าวขาวสามารถขายปริมาณสูงขึ้นสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยไม่ดี คาดว่าปีหน้าการบริโภคข้าวหอมมะลิจะสูงขึ้นจากราคาที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ การขายข้าวจีทูจี ช่วยได้ระดับหนึ่ง ขณะที่ราคาข้าวนึ่งตกต่ำเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากราคาน้ำมันลดลงและค่าเงินของประเทศคู่ค้าอ่อนเป็นประวัติการณ์เช่นกัน
ประเด็นที่ต้องติดตามคือภายหลังเปิดเออีซีจะมีการเคลื่อนย้ายแรงงาน เชื่อว่าจะส่งผลต่อการบริโภคข้าวในประเทศแน่นอน แต่ข้อดีคือคาดว่าจะใช้ภาคอุตสาหกรรมมากขึ้นโดยเฉพาะอุตสาหกรรมพลังงาน เช่นเอทานอล พลังงานไฟฟ้า พลาสติกชีวภาพ อย่างไรก็ตามถ้ามีการบริหารจัดการต้นทุนการผลิตลดลงในอนาคตจะส่งผลดีต่อข้าวไทย
นายวราทัศน์ วงศ์สุรไกร ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัทโรงเส้นหมี่ชอเฮงจำกัด กล่าวว่า การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทและรับจำนำข้าว 15,000 บาทต่อตันส่งผลกระทบกับภาคอุตสาหกรรมอย่างมาก การแข่งขันในประเทศยังไม่มีปัญหาเนื่องจากราคาใกล้เคียงกันแต่เมื่อเปิดเออีซีการแข่งขันกับต่างประเทศไทยอาจจะเสียเปรียบด้วยเรื่องต้นทุนการผลิตและค่าแรงที่สูงกว่าโดยรายเล็กอาจจะมีปัญหา ส่วนการย้ายฐานการผลิตไปในกลุ่มเออีซียังเป็นสิ่งที่หวั่นเกรง เนื่องจากภาษาและมาตรฐานการผลิตที่อาจไม่ได้อย่างไทย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี