‘PTTEP’ลุ้นปีนี้พลิกกลับมามีกำไร
เตรียมปรับลดงบลงทุนอีก10%
เหตุภาวการณ์ยังไม่เอื้ออำนวย
น.ส.พรรณนลิน มหาวงศ์ธิกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มงานการเงินและการบัญชี บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) เปิดเผยว่า ในปี 2559 นี้คาดว่าบริษัทอาจพลิกมามีกำไรสุทธิเล็กน้อย จากปี 2558 ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 854 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากในปี 2559บริษัทมุ่งเน้นการลดต้นทุนต่อหน่วย (unit cost) ให้อยู่ระดับ 34 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำจากปี 2558 อยู่ที่ระดับ 39 เหรียญสหรัฐบาร์เรล หรือลดลง10% จากปี 2558
ทั้งนี้เพื่อรักษาระดับอัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อมราคา (EBITDA Margin) ไม่ให้ต่ำกว่า65% เพื่อรองรับราคาขายที่ปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันรวมถึงอาจจะไม่มีการตั้งด้อยค่าสินทรัพย์อีก หากราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยปี 2559 นี้อยู่ในระดับ 40 เหรียญสหรัฐบาร์เรล ตามที่บริษัทคาดการณ์ไว้ พร้อมทั้งเตรียมปรับลดงบลงทุนในปี 2559 อีก 10% จาก 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐซึ่งเป็นระดับที่ปรับลดไปครั้งหนึ่งแล้วเมื่อต้นปี เนื่องจากภาวะการณ์ต่างๆ ยังไม่เอื้อต่อการลงทุน
โดยในไตรมาส 1/2559 บริษัทมี unit cost ที่ระดับ28.57 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ต่ำกว่าแผนที่กำหนดไว้เพราะเมื่อปลายปี 2558 มีการบันทึกปริมาณสำรองเข้ามามาก ทำให้ต้นทุนต่อหน่วยลดลง แต่ในไตรมาสต่อๆไปคาดว่าต้นทุนต่อหน่วยจะเพิ่มขึ้น จากการซ่อมบำรุงและบันทึกทรัพย์สินเข้ามาเพิ่มเติม แต่ก็จะพยายามรักษาต้นทุนต่อหน่วยในปี 2559 นี้ให้ได้ตามเป้าหมาย
ในขณะที่ประเมินรายได้ในปี 2559 นี้จะทำได้ต่ำกว่าระดับ 5,654 ล้านเหรียญสหรัฐปี 2558 เนื่องจากตั้งเป้าปริมาณการผลิตและขายปิโตรเลียมในปี 2559 ในระดับใกล้เคียงกับปี 2558 ที่ 3.22 แสนบาร์เรลต่อวัน แต่ราคาขายทั้งก๊าซธรรมชาติและน้ำมันในปี 2559 คาดว่าจะอยู่ระดับ 35-36 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล บนพื้นฐานราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยที่บริษัทคาดการณ์ โดยราคาขายผลิตภัณฑ์ในปี 2559 นี้นับว่าต่ำกว่าปี 2558 ที่อยู่ระดับราคา 45.29 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
ทั้งนี้การที่บริษัทมีกระแสเงินสดในมือจำนวนมากที่ 3.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้มองโอกาสการลงทุนเพิ่มเติม โดยเฉพาะการซื้อกิจการและร่วมลงทุน (M&A) ซึ่งบริษัทให้ความสนใจซื้อสินทรัพย์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นหลัก รวมถึงเข้าซื้อสัดส่วนการถือหุ้นแหล่งปิโตรเลียมยาดานา ของกลุ่มเชฟรอน และซื้อสัดส่วนการถือหุ้นแหล่งบงกช จากกลุ่มเชลล์ โดยคาดว่าปี 2559จะสรุปดีล M&A ได้อย่างน้อย 1 ดีล
นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างรอนโยบายจากภาครัฐ ในการดำเนินสัมปทานปิโตรเลียมที่จะหมดอายุสัญญาในปี 2565-2566ในส่วนนี้มีแหล่งบงกชที่บริษัทเป็นผู้ดำเนินการที่จะหมดอายุในปี 2566 ด้วย โดยรอดูว่ารัฐบาลจะเปิดประมูลใหม่หรือเจรจาให้รายเดิมบริหารจัดการต่อไป หากเป็นการบริหารจัดการต่อ ก็จะทำให้การผลิตปิโตรเลียมมีความต่อเนื่อง หากรัฐบาลจะเปิดสัมปทานรอบใหม่ ซึ่งเป็นรอบที่ 21 บริษัทก็พร้อมให้ความสนใจ ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) จะประชุมในวันที่ 30 พฤษภาคม 2559
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี