นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า แนวโน้มเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวสอดคล้องกับประเทศในภูมิภาค เพราะเงินทุนไหลเข้าจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่า ขณะที่เศรษฐกิจไทยขยายตัวมากขึ้น และจากความผันผวนของอัตรา
แลกเปลี่ยนนับว่าภาคเอกชนรายใหญ่ให้ความสำคัญในการป้องกันความเสี่ยง ขณะที่ผู้ประกอบการรายย่อย หรือเอสเอ็มอี ยังให้ความสนใจในเรื่องดังกล่าวน้อยมาก ดังนั้นจึงแนะให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้ความสำคัญกับการป้องกันความเสี่ยง
สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยขยายตัวดีขึ้น จากนโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐผ่านการลงทุนมีความชัดเจน จึงสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มียอดขอลงทุนเกินเป้าหมาย
นายสุวิชญ โรจนวานิช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)กล่าวว่าเงินบาทแข็งค่าจากพื้นฐานเศรษฐกิจเข้มแข็ง เพราะเงินทุนไหลเข้า ขณะนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) จับตาดูแลอย่างใกล้ชิดจึงไม่น่าเป็นห่วง ส่วนอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปี 2560 ที่อยู่ในอัตรา 0.66%มองว่ายังอยู่ในระดับต่ำควรให้สูงกว่า 1%เพื่อให้มีส่วนผลักดันเศรษฐกิจให้ขยายตัวมากกว่าเดิม
ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นปีเข้าใกล้ระดับ 32.20 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่แข็งค่าที่สุดในรอบกว่า 3 ปี สอดคล้องกับทิศทางของสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ขณะที่เงินดอลลาร์ ยังคงไร้ปัจจัยสนับสนุนที่มีนัยสำคัญ แม้ว่าปีนี้จะเป็นปีที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยังคงทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นท่าทีที่แตกต่างไปจากทิศทางอัตราดอกเบี้ยของไทยซึ่งมีโอกาสทรงตัวที่ระดับ 1.50% ในช่วงเวลาส่วนใหญ่ของปี 2561
โดยภาพดังกล่าวสะท้อนว่าความผันผวนของทิศทางค่าเงินบาทท่ามกลางความไม่แน่นอนของหลายๆ ปัจจัยในต่างประเทศ จะยังคงเป็นสถานการณ์ที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อเนื่องในปีนี้ เพราะคงต้องยอมรับว่า การที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ จะกลับขึ้นไปอยู่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยนั้น อาจจะไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่มีผลต่อกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในปีนี้ แต่คงจะต้องจับตาปัจจัยอื่นๆ ในระหว่างปีด้วยเช่นกันโดยเฉพาะแรงหนุนเงินบาทจากยอดการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของไทย ความไม่แน่นอนของ “จังหวะเวลา” ไม่ใช่ “จำนวนครั้ง” ของการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดรวมทั้งความผันแปรของประเด็นทางการเมืองภายในและระหว่างประเทศของสหรัฐฯ
ดังนั้นการเลือกใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยง (อาทิ สัญญาฟอร์เวิร์ด ออปชั่นและการเปิดบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ)ที่เหมาะสม อาจช่วยให้ภาคธุรกิจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกรรมระหว่างประเทศ สามารถจัดการกับกระแสรายรับและบริหารต้นทุนได้ดียิ่งขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์ที่ผันผวนของค่าเงินบาทในปีนี้ที่อาจมีภาพที่ไม่แตกต่างไปจากปีที่ผ่านมา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี