นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม(กสอ.)เปิดเผยว่า ในวันที่ 29 มกราคม 2561 นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม จะประชุมร่วมกับ นายกลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยมีผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม กสอ. และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) เข้าหารือด้วย
โดยหัวข้อที่จะหารือคือมาตรการเพื่อช่วยเหลือ บรรเทาผลกระทบให้กับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) ทั้งภาคอุตสาหกรรม การค้า และบริการ ประมาณ 3 ล้านรายทั่วประเทศ ที่จะได้รับผลกระทบจากมติคณะกรรมการค่าจ้างกลางที่ปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำอัตรา 5-22 บาทต่อวัน และจะมีผลวันที่ 1 เมษายน 2561 โดยหลังการหารือคาดว่าจะมีมาตรการที่ชัดเจนและนำเสนอต่อที่ประชุม คณะรัฐมนตรี(ครม.)ในเร็วๆ นี้ ต่อไป
“ภายหลังคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือกกร. ที่ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(สอท.) และสมาคมธนาคารไทย ยื่นหนังสือต่อ นายกรัฐมนตรี ขอให้รัฐบาลทบทวนการขึ้นค่าจ้างและขอให้ออกมาตรการบรรเทาผลกระทบโดยเฉพาะเอสเอ็มอีนั้น ในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรมได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้ดูแลเอสเอ็มอี โดยเฉพาะเอสเอ็มอีภาคการค้าและบริการที่มีความเสี่ยงสุด ดังนั้นนายอุตตม จึงเร่งหารือกับเอกชนถึงมาตรการดูแล ขณะเดียวกันก็จะหารือถึงการจัดทำ 9 มาตรการขับเคลื่อนเอสเอ็มอี ที่ครม.อนุมัติไว้เมื่อปลายปีที่ผ่านมาด้วย”นายกอบชัยกล่าว
สำหรับ 9 มาตรการที่เตรียมหารือเป็นตัวขับเคลื่อนพัฒนาส่งเสริมควบคู่กันไป ประกอบด้วย 1.การขยายศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม (ไอทีซี) ทั่วประเทศ 23 แห่ง ซึ่งจะให้บริการเครื่องจักรกลาง และพื้นที่โค-เวิร์กกิ้งสเปซ เพื่อให้เอสเอ็มอีมีพื้นที่ในการพัฒนาสินค้าต้นแบบใหม่ๆ 2.ศูนย์สนับสนุนช่วยเหลือเอสเอ็มอี ทำหน้าที่รับเรื่องบูรณาการที่ปรึกษา รับคำขอกู้เงิน แก้ไขปัญหาและส่งต่อเอสเอ็มอี 3.การสร้างโค้ช 4.จัดทำข้อมูลประชากรเอสเอ็มอีของประเทศ ที่สามารถใช้วิเคราะห์โครงสร้างและสถานการณ์เอสเอ็มอีของประเทศ
5.โครงการพี่ช่วยน้อง เพื่อเชื่อมต่อเอสเอ็มอี สู่ห่วงโซ่การผลิตระดับโลก 6.ดิจิทัล แวลู เชน ผลักดันเอสเอ็มอีสู่ห่วงโซ่การผลิตโลกผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์ม 7.โครงการเสริมแกร่งเอสเอ็มอีรอบรู้การเงิน 8.เอสเอ็มอี สแตนดาร์ด อัพ และ 9.การยกระดับเศรษฐกิจฐานชุมชน ผ่านโครงการยกระดับอุตสาหกรรมชุมชนเชื่อมโยงการท่องเที่ยว
“ปัจจุบันทั่วประเทศมีเอสเอ็มอี 3 ล้านราย แบ่งเป็น ภาคการผลิต 4 แสนราย ภาคการค้าและการบริการ 2.5-2.7 ล้านราย โดยเบื้องต้นจะเน้นที่ผู้ประกอบการกลุ่มการค้าและภาคบริการก่อน เนื่องจากจะได้รับผลกระทบโดยตรงเพราะยังใช้แรงงานคนในการดำเนินธุรกิจเป็นจำนวนมาก”นายกอบชัยกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี