เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2561 กระทรวงพาณิชย์ แถลงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป หรืออัตราเงินเฟ้อเดือนเมษายน 2561 พบว่า สูงขึ้น ร้อยละ 1.07 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และถือว่าต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 และเป็นอัตราสูงที่สุดในรอบ 14 เดือน
น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นเป็นผลมาจากสินค้าในหมวดพลังงาน มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 4.69 รวมถึง
อาหารสด มีการปรับราคาสูงขึ้น หลังจากสภาพอากาศแปรปรวนโดยผักสดราคาเพิ่มขึ้น ร้อยละ 6.8
โดยสินค้าที่ราคาปรับสูงขึ้น อาทิ น้ำมันเชื้อเพลิง ข้าวสารเจ้า ก๊าซหุงต้ม และผลไม้สดที่ปรับจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ส่วนราคาสินค้าที่ยังทรงตัว และสินค้าที่ลดลงเช่น เนื้อหมู ไก่สด ไข่ไก่ และข้าวเหนียว เป็นต้น
ส่วนสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้น ร้อยละ 0.68 และหมวดอื่นๆที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มสูงขึ้น ร้อยละ 1.31 จากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นถึง ร้อยละ 3.90
“สินค้าเกษตรสำคัญบางชนิดมีราคาสูงขึ้นอาทิ ข้าวเปลือก เนื่องจากสต๊อกลดลง ความต้องการเพิ่มและราคาตลาดโลกเพิ่ม, มันสำปะหลังสดสูงขึ้นเนื่องจากผลผลิตน้อยจากการปรับพื้นที่เพาะปลูก และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ สูงขึ้นเนื่องจากมาตรการเชื่อมโยงตลาดของรัฐ นอกจากนี้มาจากการดำเนินมาตรการต่างๆ ของภาครัฐในการดูแลเสถียรภาพด้านราคาสินค้าเกษตรเริ่มส่งผลและสนับสนุนให้ราคาสินค้าเหล่านี้เริ่มปรับตัวสูงขึ้น”
นางสาวพิมพ์ชนกกล่าวอีกว่า กระทรวงพาณิชย์ ได้ประเมินการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อเดือนเมษายน แม้จะมีปัจจัยมาจากการเพิ่มขึ้นของราคาพลังงานและการปรับตัวของราคาสินค้าเกษตรเป็นหลักแต่โดยรวมสะท้อนว่าการบริโภค และการใช้จ่ายของทางภาครัฐและเอกชนอยู่ในระดับที่ดี ทำให้มีการหมุนเวียนเงินในระบบเอื้อต่อกำลังซื้อและการบริโภคของประชาชน โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อไตรมาส 2 ยังมีแนวโน้มสูงขึ้นตามราคาสินค้าและบริกาที่จะเพิ่มขึ้นตามราคาพลังงาน รวมทั้งโครงการลงทุนภาครัฐ เอกชนเริ่มดำเนินการได้เป็นรูปธรรมส่งผลให้ความต้องการ และราคาสินค้าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ส่วนอัตราเงินเฟ้อ 4 เดือนแรก ของปี 2561 พบว่าเงินเฟ้อทั่วไปขยายตัว ร้อยละ 0.75 และเงินเฟ้อพื้นฐานขยายตัว ร้อยละ 0.62 อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ ยังคงประมาณการอัตราเงินเฟ้อทั้งปีอยู่ที่ ร้อยละ 0.7-1.7 โดยมีสาเหตุสำคัญจากการปรับตัวสูงขึ้นของราคาพลังงาน การลดลงของผลผลิตสินค้าเกษตรบางตัว และกำลังการบริโภคเฉลี่ยของประชาชนที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี ในขณะที่ต้นทุนราคาสินค้าอุตสาหกรรมโดยรวมยังชะลอตัว สอดคล้อกับเครื่องชี้วัดด้านการใช้จ่าย การลงทุน และต้นทุนการผลิต ซึ่งชี้ว่าการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อที่ผ่านมาเป็นผลจากปัจจัยด้านความต้องการใช้จ่ายและการลงทุน มากกว่าผลด้านต้นทุนและการผลิต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี