นายนพพล มิลินทางกูร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กรณีที่ ประเทศพม่าแจ้งว่าจะทำการปิดซ่อมบำรุงท่อก๊าซธรรมชาติ ในวันที่ 4 เมษายน นี้นั้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตไฟฟ้าของบริษัทฯ ซึ่งปัจจุบันมีกำลังผลิตกระแสไฟฟ้าอยู่ที่ 3,645 เมกะวัตต์ และเมื่อรวมกับบริษัทในเครือจะสามารถผลิตไฟฟ้าประมาณ 6,000 เมกะวัตต์ โดยขณะนี้บริษัทได้มีมาตรการสำรองน้ำมันเตาเพื่อใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าแล้ว 63 ล้านลิตร สามารถเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเต็มที่ได้อย่างน้อย 7 วัน และมีน้ำมันดีเซลสำรอง 23 ล้านลิตร สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 7 วัน
“หากรวมน้ำมันเตาและดีเซลที่มีอยู่จะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าทดแทนก๊าซธรรมชาติที่หายไปได้ รวมทั้งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าราชบุรี ประจำปี โรงที่ 3 ซึ่งปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้จะแล้วเสร็จและจะสามารถกลับมาเดินเครื่องการผลิตได้ในในเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งทำให้การผลิตไฟฟ้าของเราเพิ่มขึ้น โดยในทุกๆปีทางบริษัทก็เตรียมความพร้อมเป็นอย่างดี รวมถึงปีนี้บริษัทมีความมั่นใจได้ว่าจะไม่กระทบต่อการผลิตไฟฟ้าอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่บริษัทต้องการ คือ การจัดหาน้ำมันเตามาเติมให้ให้เพียงพอกับโรงไฟฟ้า ซึ่งเบื้องต้นทางบริษัทได้มีการทำสัญญาซื้อน้ำมันไว้กับ ปตท. เชลล์ และเอสโซ่ เอาไว้แล้ว“นายนพพล กล่าว
สำหรับทิศทางการลงทุนของบริษัทในปี 2556 จะใช้งบลงทุนทั้งสิ้น 10,000 ล้านบาท โดยแบ่งให้น้ำหนักฐานการลงทุนเดิมที่มีอยู่แล้ว 2,000 ล้านบาท ได้แก่ ประเทศไทย ซึ่งกำลังมีการเปิดประมูลก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่รอบใหม่ โครงการพลังงานทดแทนและโครงการผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก ในสปป. ลาว มีโอกาสที่จะลงทุนเพิ่มในโครงการพลังน้ำทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก ขณะที่ออสเตรเลีย มีศักยภาพมากในการลงทุนซื้อหุ้นในกิจการโรงไฟฟ้าและพัฒนาโครงการพลังงานทดแทน ส่วนกัมพูชานั้นได้เตรียมหาลู่ทางที่จะเพิ่มโอกาสลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก ส่วนอีก 8,000 ล้านบาทได้จัดสรรงบลงทุนสำหรับการลงทุนใหม่ๆ เช่น ฟิลิปปินส์และนิวซีแลนด์ รวมถึงพม่าที่กำลังเปิดประเทศ และอินโดนิเซีย ซึ่งงบการลงทุนดังกล่าวสามารถขอเพิ่มจากคณะกรรมการเพิ่มเติมได้หากมีพื้นที่ที่มีศักยภาพและมีโอกาสการเข้าไปลงทุนเพิ่มเติมนอกเหนือจากแผนที่ได้เตรียมไว้
ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 6,303 เมกะวัตต์ โดยแบ่งเป็นการผลิตในประเทศ 4,586.50 เมกะวัตต์ กำลังการผลิตใน สปป.ลาว 1,206.50 เมกะวัตต์ และกำลังการผลิตในออสเตรเลีย 510 เมกะวัตต์ ซึ่งในปี 2559 บริษัทมีเป้าหมายกำลังการผลิตอยู่ที่ 7,800 เมกกะวัตต์
ในขณะที่การผลิตพลังงานทดแทนในประเทศยังคงเป็น พลังงานแสงอาทิตย์ ลม และชีวมวล ในสปป.ลาว เป็นพลังงานน้ำขนาดเล็ก ส่วนออสเตรเลีย เป็นพลังงานลมและแสงอาทิตย์ โดยในปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตพลังงานทดแทนทั้งสิ้น 156.45 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย พลังงานแสงอาทิตย์ 23.98 เมกะวัตต์ พลังงานลม 128.51 เมกะวัตต์ พลังงานชีวมวล 3.96 เมกะวัตต์ ซึ่งในปี 2559 บริษัทตั้งเป้าผลิตพลังงานทดแทนอยู่ที่ 200 เมกะวัตต์
สำหรับผลการดำเนินงานปี 2555 บริษัทฯ มีรายได้รวม จำนวน 60,011.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 31และรับรู้กำไรสุทธิ จำนวน 7,726.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 2,876.92 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 59 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2554 ซึ่งสาเหตุสำคัญมาจากผลการดำเนินงานของ บริษัท ราช-ออสเตรเลีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (RAC) บริษัทย่อยในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งได้บันทึกกำไรจำนวน 783.68 ล้านบาท จากการจำหน่ายเงินลงทุนระยะยาวในโรงไฟฟ้า Loy Yang A โดย RAC ได้รับผลประโยชน์เป็นเงินสด 20 ล้านเหรียญออสเตรเลีย และสัญญาการชำระเงินเป็นงวด (Scheduled Payment Option Agreement) เป็นระยะเวลา 15 ปี รวมทั้งกำไรจากเงินค่าชดเชยจากการยกเลิกข้อผูกพันตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้า Collinsville จำนวน 1,069.44 ล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี