ผลหยั่งเสียงประชามติครั้งประวัติศาสตร์ของสกอตแลนด์ เรื่องการแยกประเทศเป็นอิสระจากสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการ ปรากฏว่าฝ่ายคัดค้านการแยกประเทศเป็นเอกราชจากสหราชอาณาจักรชนะ ได้คะแนนกว่าร้อยละ 55 แสดงเจตจำนงต้องการอยู่กับสหราชอาณาจักรต่อไป
ด้านรัฐบาลอังกฤษแสดงความยินดี และยืนยันจะรักษาสัญญาเรื่องการกระจายอำนาจ ขณะที่รัฐบาลสกอตแลนด์ประกาศยอมรับความพ่ายแพ้
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเอดินบะระ ของสกอตแลนด์ เมื่อวันศุกร์ว่า ผลนับคะแนนการลงประชามติอย่างเป็นทางการหลังนับครบทั้ง 32 เขตเลือกตั้ง ปรากฎคะแนนเสียงคัดค้านการแยกตัวเป็นประเทศเอกราชอยู่ที่ร้อยละ 55.30 คิดเป็น 2,001,926 คน ขณะที่เสียงสนับสนุนการแยกตัวเป็นเอกราชอยู่ที่ร้อยละ 45 คิดเป็น 1,617,989 คน โดยเสียงส่วนใหญ่ในกรุงเอดินบะระและเมืองอาร์เบอร์ดีนคัดค้านการแยกประเทศ แต่ผลจากเมืองกลาสโกว์และดันดีปรากฎเสียงสนับสนุนให้แยกประเทศมีมากกว่า ส่วนจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์อยู่ที่ร้อยละ 84.59 คิดเป็น 4,283,392 คน จากจำนวนผู้มาลงทะเบียนทั้งสิ้น 4,285,323 คนถือว่ามากที่สุดเป็นประวัติการณ์ และบัตรเสีย 3,429 ใบ
ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มีการขยายอายุของผู้มีสิทธิ์ออกเสียงไปยังเด็กวัยรุ่นที่มีอายุ 16 -17 ปี ที่อาศัยอยู่ในสกอตแลนด์ด้วย โดยผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปีที่ไปลงทะเบียนมีจำนวน 110,000 คน นอกจากนี้ ผู้ที่มีสิทธิ์ออกเสียงที่ไม่ใช่พลเมืองชาวอังกฤษ สหราชอาณาจักร ไอริช หรือสหภาพยุโรปก็สามารถลงทะเบียนได้ ขณะเดียวกันครั้งนี้ ยังมีผู้ที่ขอลงคะแนนทางไปรษณีย์ 790,000 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่มากที่สุดของการลงทะเบียนทางไปรษณีย์เท่าที่เคยมีมาในสกอตแลนด์ด้วย
ภายหลังประกาศผล นายอเล็กซ์ ซัลมอนด์ รัฐมนตรีที่ 1 ของสกอตแลนด์แถลงยอมรับความปราชัยในการลงประชามติครั้งนี้ โดยระบุว่า เสียงส่วนใหญ่ต้องการให้สกอตแลนด์เป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักรต่อไป พร้อมเรียกร้องให้กลุ่มผู้สนับสนุนพรรคชาตินิยมสกอตแลนด์ ( เอสเอ็นพี ) ยอมรับการตัดสินใจของชาวสกอตส่วนมาก เพื่อความสมานฉันท์และมั่นคงของสกอตแลนด์ในอนาคต
ซัลมอนด์กล่าวด้วยว่า การที่จำนวนผู้มาใช้สิทธิ์มากกว่าร้อยละ 80 สะท้อนให้เห็นถึงชัยชนะของสกอตแลนด์ ที่ต้องการเรียกร้องกระบวนการประชาธิปไตยจากรัฐบาลกลางในกรุงลอนดอน และเป็นการปูทางไปสู่การปฏิรูปเพื่อผลประโยชน์ของสกอตแลนด์และสหราชอาณาจักร
นอกจากนี้ ซาลมอนด์ยังเรียกร้องให้พรรคการเมืองหลักๆของสหราชอาณาจักร ทำตามคำมั่นสัญญาก่อนหน้าที่ที่จะยินยอมโอนอำนาจด้านต่างๆจากส่วนกลาง ไปให้รัฐสภาสกอตแลนด์
ส่วนนายอลิสแตร์ ดาร์ลิ่ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจากพรรคแรงงานและเป็นผู้นำในการรณรงค์ปฏิเสธการแยกตัวจากสหราชอาณาจักรบอกว่า พลังเงียบที่เป็นเสียงส่วนใหญ่ได้แสดงเจตนารมย์เลือกความเป็นเอกภาพแทนการแบ่งแยก รวมถึงการเปลี่ยนแปลงในบวกแทนการแยกตัวที่ไม่จำเป็น
ขณะที่นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ผู้นำอังกฤษ แถลงแสดงความยินดีที่สกอตแลนด์ตัดสินใจอยู่ร่วมกับสหราชอาณาจักรต่อไป ผลการลงประชามติที่ออกมาถือว่าชัดเจน พร้อมยืนยันจะรักษาคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับชาวสกอตแลนด์ว่า รัฐบาลอังกฤษจะมอบอำนาจให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสกอตแลนด์ในสภามากขึ้น และจะเสนอร่างกฎหมายกระจายอำนาจจากรัฐบาลเวสต์มินสเตอร์สู่รัฐบาลเอดินบะระเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาในเดือนมกราคม 2015
สำหรับการลงประชามติครั้งนี้ ทำให้ค่าเงินปอนด์ของอังกฤษเมื่อพฤหัสบดีที่ผ่านมา ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโรในรอบกว่า 2 ปีและยังสูงกว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยค่าเงินปอนด์เมื่อเทียบกับค่าเงินยูโรอยู่ที่ 0.7809 ปอนด์ต่อยูโร และ 1 ปอนด์เท่ากับ 1.6522 ดอลลาร์ด้วย ซึ่งถือว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา
ด้านรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ ( อาร์บีเอส ) สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ของสกอตแลนด์ ประกาศยกเลิกแผนย้ายฐานจดทะเบียนออกจากกรุงเอดินบะระมายังกรุงลอนดอน เนื่องจากผลการลงประชามติยืนยันแล้วว่า สกอตแลนด์จะยังคงอยู่เป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักรต่อไป
อีกด้านหนึ่ง ผลการลงประชามติในสกอตแลนด์มีผลอย่างยิ่งต่อท่าทีของผู้คนในแคว้นคาตาลันและแคว้นบาสก์ ที่ต้องการแยกตัวออกจากสเปนเช่นกัน โดยเฉพาะในแคว้าคาตาลันทางตอนเหนือของประเทศ ที่ประชาชนกว่า 7.5 ล้านคนต้องการให้ลงประชามติ เพื่อแยกตัวออกจากสเปน และในวันศุกร์ รัฐสภาท้องถิ่นของแคว้นคาตาลันลงมติผ่านร่างกฏหมาย เปิดทางให้นายอาร์เธอร์ มาส ประธานาธิบดีแห่งแคว้นคาตาลัน ประกาศอย่างเป็นทางการให้ลงประชามติแยกตัวเป็นเอกราช ส่วนในแคว้นบาสก์ยังไม่มีความเคลื่อนไหวประเด็นดังกล่าวมากนัก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี