29 พ.ย. 58 นายอาเหม็ด ดาวุโตลู นายกรัฐมนตรีของตุรกี แถลงต่อสื่อมวลชนว่า ทางการได้รับศพ นาวาอากาศโท โอเลก เพชคอฟ นักบินรัสเซียที่เสียชีวิตหลังเครื่องบินถูกยิงตก ใกล้แนวพรมแดนตุรกีด้านที่ติดกับซีเรีย เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาแล้ว โดยร่างของเขาได้รับการเก็บรักษาอย่างถูกต้องตามธรรมเนียมของศาสนาคริสต์นิกายกรีกออร์โธดอกซ์ และจะส่งคืนให้กับทางรัสเซียต่อไป อย่างไรก็ดี นายกฯ ตุรกีไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดว่าศพของนักบินรัสเซียถูกส่งมายังเมืองฮาเตย์ ทางภาคใต้ของตุรกีอย่างไร แต่ย้ำว่ามีตัวแทนของสถานทูตรัสเซียอยู่ที่นั่น เพื่อดำเนินกระบวนการในการรับศพ
ด้านนาวาอากาศเอกคอนสแตนติน มูรักห์ติน นักบินรัสเซีย อีกราย ที่รอดชีวิตจากเหตุเครื่องบินรบถูกตุรกียิงตก ระบุว่า ต้องการกลับไปปฏิบัติภารกิจในซีเรียต่อ และว่าจะต้องมีคนชดใช้ต่อการเสียชีวิตของเพื่อนนักบิน
สำหรับความคืบหน้าดังกล่าว เกิดขึ้นภายหลังรัสเซียได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อตุรกี เพื่อตอบโต้กรณีที่ตุรกียิงเครื่องบินรบรัสเซีย โดยประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ได้ลงนามในคำสั่งห้ามนำเข้าสินค้าจากตุรกี ระงับเที่ยวบินเช่าเหมาลำที่เดินทางไปมาระหว่างสองประเทศ ระงับการดำเนินกิจการของบริษัทตุรกีในรัสเซีย ไม่ให้พลเมืองตุรกีทำงานในบริษัทของรัสเซีย และไม่ต่อสัญญาลูกจ้างบริษัทที่เป็นชาวตุรกี และห้ามบริษัทนำเที่ยวในรัสเซียจำหน่ายแพ็คเกจทัวร์ไปยังตุรกี ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางโปรดของนักท่องเที่ยวชนชั้นกลางชาวรัสเซีย โดยทั้งหมดจะมีเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ปีหน้า
และก่อนหน้านี้ รัสเซียได้ประกาศเตรียมระงับให้สิทธิ์พลเมืองตุรกี ในการเดินทางเข้ารัสเซียโดยไม่ต้องขอวีซ่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ปีหน้า รวมถึงเรียกร้องให้ชาวรัสเซียยกเลิกการเดินทางไปเยือนตุรกี และให้พลเมืองรัสเซียในตุรกีเดินทางกลับประเทศด้วย
ทั้งนี้ รัสเซียและตุรกีมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดกันมาก โดยรัสเซียเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่อันดับสองของตุรกี และมีชาวตุรกีกว่า 90,000 รายทำงานอยู่ในรัสเซีย ขณะที่ในแต่ละปี มีนักท่องเที่ยวรัสเซียเข้าไปเที่ยวในตุรกีจำนวนมาก ปีที่แล้วชาวรัสเซียเข้าไปเที่ยวตุรกีมากถึงกว่า 3 ล้านคน
อีกด้านหนึ่ง รัฐบาลรัสเซียเสริมความแข็งแกร่งให้ระบบต่อต้านอากาศยานของตนในซีเรีย ด้วยการส่งเรือรบเข้าไปใกล้ชายฝั่งเมืองลาตาเกียของซีเรีย และนำขีปนาวุธใหม่เข้าไปประจำการที่ฐานทัพอากาศรัสเซียในซีเรียแล้ว โดยระบบต่อต้านอากาศยานพิสัยไกลบนเรือพิฆาตมอสควา และขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานเอส-400 ซึ่งถูกส่งไปประจำการยังฐานทัพอากาศฮเมมีม จะทำหน้าที่คุ้มครองความปลอดภัยให้แก่เครื่องบินรบรัสเซีย โดยฐานทัพดังกล่าวอยู่ห่างจากพรมแดนตุรกีเพียง 50 กม. และกองทัพรัสเซียเริ่มใช้ฐานทัพแห่งนี้เป็นที่มั่นหลักในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มผู้คัดค้านประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด มาตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา
ขณะที่นายแบร์กนาร์ กาซเนิฟ รัฐมนตรีมหาดไทยฝรั่งเศสเปิดเผยว่า ทางการฝรั่งเศสได้ปฏิเสธการขอเข้าประเทศของผู้อพยพจำนวนกว่า 1,000 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวซีเรีย นับตั้งแต่เหตุก่อวินาศกรรมหลายระลอกกลางกรุงปารีส เมื่อ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการที่นำมาใช้เพื่อยกระดับความเข้มงวดในการควบคุมการผ่านเข้าออกพรมแดนของประเทศ และเป็นการรักษาความสงบเรียบร้อยรวมถึงความมั่นคงของฝรั่งเศสเอง หลังจากที่พบข้อมูลว่า ผู้ลงมือก่อเหตุโจมตีหลายระลอกในกรุงปารีส หลายรายแฝงตัวมากับกลุ่มผู้อพยพซึ่งหลั่งไหลมาจากซีเรียและหลายประเทศในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ
ด้านตำรวจสเปน เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 3 คน เป็นชาย 2 คนและหญิงอีก 1 คน ในแคว้นคาตาโลเนียทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ หลังสงสัยว่าทั้งสามมีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายจัดหานักรบให้กับกองกำลังติดอาวุธรัฐอิสลามหรือกลุ่มไอเอส แถลงการณ์ของตำรวจระบุว่า ผู้ต้องสงสัยชายอายุ 32 ปี และ 42 ปี มาจากประเทศโมร็อกโก และอาศัยอยู่ด้วยกันในนครบาร์เซโลนา ทั้งคู่ใช้อินเตอร์เน็ตและเครือข่ายสังคมออนไลน์ในการเผยแพร่แนวคิดสุดโต่ง เพื่อโน้มน้าวผู้ที่สนใจหรือมีแนวคิดเดียวกัน ก่อนจัดส่งคนกลุ่มนี้ไปยังพื้นที่ขัดแย้งในตะวันออกกลางและอัฟกานิสถาน ขณะที่ผู้ต้องสงสัยหญิงชาวสเปนอายุ 24 ปี ถูกควบคุมตัวได้ที่เมืองกราโนลเลอร์ เมื่อวันเสาร์ หญิงสาวคนดังกล่าวมีแนวคิดสุดโต่งและกำลังเตรียมตัวเดินทางไปยังอัฟกานิสถาน
ขณะเดียวกัน ประชาชนหลายร้อยคนออกมาชุมนุมประท้วงใจกลางกรุงมาดริด เพื่อต่อต้านการแทรกแซงทางทหารในซีเรีย สองสัปดาห์หลังการโจมตีกรุงปารีส จนทำให้รัฐบาลฝรั่งเศสตอบโต้ด้วยการประกาศสงครามกับกลุ่มไอเอส ซึ่งอ้างความรับผิดชอบอยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้ และเริ่มปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มไอเอสในซีเรีย ผู้ประท้วงซึ่งบางคนถือแผ่นป้ายที่มีข้อความเรียกร้องสันติภาพ นำโดยกลุ่มดารานักแสดงและนักร้องชาวสเปน ยืนสงบนิ่ง 1 นาที และตะโกนคำขวัญต่อต้านปฏิบัติการทางทหารของฝรั่งเศสในซีเรีย
ด้านรัฐบาลสเปน แถลงว่า ไม่ได้รับคำร้องขออย่างเป็นทางการจากฝรั่งเศส ให้ช่วยปฏิบัติการกวาดล้างกลุ่มไอเอสในซีเรีย ส่วนกรุงมาดริดเคยถูกกลุ่มอัลกออิดะห์ โจมตีในปี 2548 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตกว่า 190 ศพ ขณะกลุ่มก่อการร้ายวางระเบิดรถไฟหลายขบวน หลังสเปนเข้าร่วมปฏิบัติการกับนานาชาติในการโค่นล้มประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน ของอิรัก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี