ครูไก่-วิวรรณ สารกิจปรีชา มาเยี่ยมชมนิทรรศการผลงาน Project Approach เรื่อง “กระต่าย” โดยได้มาลองใส่อวัยวะต่างๆ ของกระต่ายที่เด็กๆ จำลองไว้
บรรยากาศภายในโรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่วันนี้ อุ่นหนาฝาคั่งด้วยผู้ปกครองที่จูงมือเด็กๆมาชมนิทรรศการที่ห้องอนุบาล 2/1 มี ครูยา ศิรินยาริดมัด ครูประจำชั้นใจดีที่กำลังยืนต้อนรับผู้ปกครองด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ครูยา เล่าให้ฟังว่า การเรียนรู้แบบโปรเจกท์ แอพโพรช ในสัปดาห์แรกคุณครูจะเปิดโอกาสให้เด็กๆ ช่วยกันเสนอหัวข้อเรื่องที่ต้องการเรียนรู้ และทำการโหวตผลปรากฏว่าเรื่อง “กระต่าย” ได้รับความสนใจมากที่สุด จากนั้นเด็กๆ ได้พูดคุยบอกเล่าถึงประสบการณ์เดิม และนำมาตั้งข้อสงสัย จนเกิดเป็นคำถามขึ้น เด็กๆ ได้ช่วยกันสืบค้นข้อมูลจากแหล่งต่างๆ อาทิ หนังสือคอมพิวเตอร์ Googleและ Youtube เพื่อเป็นการฝึกทักษะทางด้านเทคโนโลยี ทางด้านภาษาในการอ่านเขียน และด้านคณิตศาสตร์ จากที่เด็กๆ ได้ร่วมกันนับสรุปจำนวนผลโหวตหัวข้อเรื่องที่อยากเรียนรู้
ด.ช.ปัถย์ มติธนวิรุฬห์ สรุปความหมายของกระต่ายให้เราฟังว่า “กระต่ายเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเพราะมีต่อมน้ำนม มีหูยาว หางสั้น มีขนทั่วตัว มีขาแข็งแรง กระโดดและวิ่งได้ ดมกลิ่นได้ดี”
ไปทัศนศึกษาที่ “ร้านRabbito Cafe” มี พี่ชิชา เจ้าของร้านมาให้ความรู้กับเด็กๆ ในเรื่องกระต่ายเด็กๆ ถ่ายรูปร่วมกับผลงานการจำลอง “คอกกระต่าย” และผลงานการจำลองสิ่งที่เกี่ยวกับกระต่ายด้วยความภาคภูมิใจ
สัปดาห์ที่สอง เด็กๆได้ใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ในการสำรวจ สังเกตลักษณะ และพฤติกรรมกระต่ายตัวจริง ตั้งแต่ รูปร่างลักษณะ สายพันธุ์ การเคลื่อนไหว การดำรงชีวิต และถ่ายทอดด้วยการวาดรูป ปั้นดินน้ำมัน น้องเปี่ยม ด.ช.ปพน ประสมศักดิ์ ได้นำลูกกระต่ายมาให้เด็กๆ ได้เลี้ยงกัน“กระต่ายตัวนี้เปี่ยมตั้งชื่อว่า “พวงชมพู” เป็นเพศเมียอายุ 3 เดือน เป็นกระต่ายหูตั้ง มีลายสีขาวเทา หนัก 0.6 กิโลกรัม ตอนนี้กระต่ายกินได้แต่หญ้าแห้งกับน้ำ ต้องให้หมดเดือนนี้เป็นเดือนที่ 4 จะกินอาหารเม็ดได้ พอ 6 เดือนก็กินแครอทได้ ให้เลี้ยงในกรงแล้วให้ออกมาวิ่งเล่นได้ เดี๋ยวจะต้องฉีดวัคซีนให้กระต่ายด้วยครับ” น้องเปี่ยมเล่า พลางลูบขนน้องพวงชมพูอย่างเอ็นดู และในแต่ละวันเด็กๆ ฟูมฟักช่วยกันเลี้ยงดูกระต่ายน้องพวงชมพู คอยผลัดเปลี่ยนกันให้อาหาร ให้น้ำ การทำความสะอาด เด็กได้ใช้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์มากมาย โดยเฉพาะเรื่องการสังเกตพฤติกรรม ท่าทางของกระต่ายในแต่ละวันอีกด้วย น้องลิน ด.ญ.ดลินา แต้มไพโรจน์พูดอย่างตื่นเต้นว่า “หนูเห็นน้องพวงชมพูกินเยอะเลยมันใช้ปากเคี้ยวตลอด ชอบทำจมูกฟุดฟิดไป-มาแล้วก็ยืน 2 ขา ให้พวกเราดู 3 รอบแล้วค่ะ” พูดจบก็ทำจมูกเลียนแบบน้องพวงชมพูให้เพื่อนๆ ดูอย่างสนุกสนาน
สัปดาห์ต่อมา คุณครูได้พาเด็กๆ ไปทัศนศึกษาที่ “ร้าน Rabbito Cafe” โดยมี พี่ชิชาเจ้าของร้าน เป็นผู้ให้ข้อมูลและตอบคำถามที่เด็กๆสงสัยอยากรู้ โดยพี่ชิชา สาธิตวิธีการจับสัมผัสการอุ้มกระต่าย การให้อาหาร รวมถึงวิธีการทำความสะอาดกระต่ายว่าทำอย่างไร และให้เด็กๆได้ลองทำจริง น้องปารีส ด.ญ.ณภษร เจตนลิน เล่าว่า“ที่ร้านพี่ชิชาเลี้ยงกระต่าย 30 ตัว เวลาเลี้ยงต้องให้ความรัก ความใส่ใจแล้วจะอยู่กับเราได้นานๆ ต้องจับกระต่ายเบาๆ เอามือช้อนก้น แล้วเอามือจับรักแร้อุ้มมาที่หน้าอกเรา ห้ามหิ้วหูเด็ดขาด” น้องลินเข้ามาช่วยเสริมว่า “เพราะหูกระต่ายมีเส้นประสาทอยู่มากค่ะ แล้วกระต่ายอาบน้ำแบบเปียกไม่ได้ด้วยเพราะไม่มีต่อมเหงื่อ จะทำให้เป็นปอดบวมได้ด้วยค่ะ”
เด็กๆ ใช้ประสาทสัมผัสต่างๆในการสำรวจ สังเกตกระต่ายจากที่ผู้ปกครองนำกระต่ายที่เลี้ยงที่บ้านมาให้เด็กๆ ดู
สัปดาห์สุดท้ายของการทำโครงงานเรื่อง“กระต่าย” เด็กๆ ได้ร่วมกันสรุปถึงสิ่งต่างๆ ที่ได้เรียนรู้ และร่วมกันจัดนิทรรศการภายในห้องให้ได้ชมกัน โดยมีการแบ่งหน้าที่ในการจัดมุมห้องต่างๆ รวมทั้งได้ทบทวนความรู้เรื่องกระต่ายเพื่อเตรียมเล่าแบ่งปันความรู้ให้ผู้ชมนิทรรศการฟัง โดยครูยา สรุปให้ฟังว่า “ใน 7 สัปดาห์นี้ เด็กๆ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติของสัตว์ ได้ดูการเจริญเติบโต จากสัตว์ตัวจริง ซึ่งเด็กๆ ได้เปรียบเทียบธรรมชาติของคนกับสัตว์ไปด้วย และที่สำคัญ ต้องขอบคุณผู้ปกครองที่ช่วยสนับสนุน ให้ความรู้ที่บ้าน คอยแนะนำวิทยากร และนำกระต่ายมาให้เด็กๆ ได้ดูกันค่ะ”
อุ้มกระต่าย (จำลอง) ตามวิธีที่ได้สืบค้นมา
นำสมุดสะสมภาพกระต่ายมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง
คิดจำลองกรงกระต่ายร่วมกันจากวัสดุที่มีในห้องเรียน
ผลงานของน้องปัถย์
ผลงานของน้องปารีส
ผลงานของน้องลิน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี