หนึ่งเดียวในโลก! “บ้านหนองยาง-สุรินทร์” ต่อยอดภูมิปัญญาหัตถศิลป์ ทำมือเพิ่มมูลค่า “ผ้าไหมลายราชวัตร” สร้างรายได้ยั่งยืนสู่ชุมชน
ผู้สื่อข่าว จ.สุรินทร์ รายงานว่า นายธนิต มยูขโชติ นายอำเภอลำดวน จ.สุรินทร์ ได้พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านหนองยาง หมู่ 6 ต.ตรำดม อ.ลำดวน จ.สุรินทร์ เพื่อสำรวจเกาะติดสภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของสมาชิก “กลุ่มทอผ้าไหมบ้านหนองยาง”
จุดแรก คือ การไปพบกับ “สมาชิกอาวุโส” ของกลุ่มฯ คือ “คุณยายอุม ยืนยาว” อายุ 82 ปี ซึ่งขณะที่ผู้สื่อข่าวไปถึง คุณยายกำลังนำเส้นไหมขั้นหนึ่งหรือ “ไหมน้อย” หรือภาษาเขมรเรียกว่า “โซกซัก” มาใช้ในการทอผ้า “ไหมน้อย” จะมีลักษณะเป็นผ้าไหมเส้น “เล็ก เรียบ นิ่ม” เวลาสวมใส่จะรู้สึกเย็นสบาย
การทอผ้าไหมของกลุ่มทอผ้าไหมบ้านหนองยาง มีกรรมวิธีการทอที่สลับซับซ้อน และเป็นกรรมวิธีที่ยาก ต้องใช้ความสามารถและความชำนาญจริง เช่น การทอผ้ามัดหมี่พร้อมยกดอกไปในตัว ทำให้ผ้าไหมที่ได้เป็นผ้าเนื้อแน่น มีคุณค่า และมีการทอ “ที่เดียวในประเทศไทย” ที่บ้านหนองยาง
จนเป็นที่สนพระทัยและเป็นที่ชื่นชอบของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ที่ทรงรับสั่งว่า “ใส่แล้วเย็นสบาย” อีกทั้งยังใช้ฝีมือในการทออีกด้วย โดยเฉพาะ “ผ้าไหมลายราชวัตร”
เริ่มตั้งแต่ผู้คนในหมู่บ้านบ้านหนองยาง จะปลูกหม่อนเลี้ยงไหมภายในหมู่บ้านแทบทุกหลังคาเรือน เมื่อว่างเว้นจากการทำนำ ก็จะเอาเวลามาทอผ้า โดยคนในชุมชนได้นำ “ภูมิปัญญาชาวบ้าน” ที่ได้เรียนรู้กันมา มาทอผ้าโดยการนำลายจากอดีตโบราณมาประยุกต์ใช้ให้ทันสมัย เข้ากับปัจจุบัน
จุดเด่นของที่นี่ คือ ผ้ามัดหมี่ลายราชวัตร หนึ่งเดียวในโลก...ที่นี่ที่เดียว!!!
ลักษณะเด่นของผ้าไหมกลุ่มทอผ้าไหมบ้านหนองยาง จะมีลวดลายเป็นเอกลักษณ์ โดยได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากกัมพูชา และลวดลายที่บรรจงประดิษฐ์ขึ้นล้วนมีที่มา และมีความหมายอันเป็น “มงคล” เช่น รูปช้าง รูปไก่ และล่าสุด “รูปนกฟีนิกซ์” ที่กำลังได้รับความนิยม จากลูกค้าทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ออร์เดอร์สั่งข้ามปี ผลิตแทบไม่ทันขาย ผ่านแอปพลิเคชั่น LINE และโซเซียลมีเดีย เฟสบุ๊ก นิยมใช้ไหมน้อยในการทอ
สำหรับ “ไหมน้อย” คือ ไหมที่สาวมาจากเส้นใยภายในรังไหม มีลักษณะนุ่ม เรียบ เงางาม นิยมใช้สีธรรมชาติในการทอ ทำให้มีสีไม่ฉูดฉาด มีสีสันที่มีลักษณะเฉพาะ คือ สีจะออกโทนสีขรึม เช่น น้ำตาล แดง เขียว ดำ เหลือง อีกทั้งยังมี “กลิ่นหอม” จากเปลือกไม้ และใช้ฝีมือการทอ จะทอแน่นมีความละเอียดอ่อนในการทอและประณีต รู้จักผสมผสานลวดลายต่างๆเข้าด้วยกัน แสดงถึงศิลปะที่สวยงามกว่าปกติ
แต่เดิมนั้นการทอผ้าไหมของชาวบ้านทำเพื่อไว้ใช้เอง และสวมใส่ในงานทำบุญและงานพิธีต่างๆ การทอจะทำหลังจากสิ้นสุดฤดูกาลทำนาซึ่งเป็นอาชีพหลัก มิได้มีการทอเพื่อจำหน่ายแต่อย่างใด จนมีคำกล่าวทั่วไปว่า...
“พอหมดหน้านา ผู้หญิงทอผ้า ผู้ชายตีเหล็ก”
นางอุราพร รัตนวงศ์ทอง อายุ 53 ปี ประธานกลุ่มทอผ้าไหมบ้านหนองยาง กล่าวว่า กลุ่มทอผ้าไหมบ้านหนองยาง เป็นหมู่บ้านเดียวใน อ.ลำดวน จ.สุรินทร์ ที่ยังคงอนุรักษ์ “มรดกทางวัฒนธรรม” ของบรรพบุรุษที่ทำสืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคน คือ ปลูกหม่อน เลี้ยงไหม สาวไหม ทอผ้า แบบโบราณเอง โดยวิธีการธรรมชาติ สมาชิกเริ่มแรกมีประมาณ 21 คน ปัจจุบันที่ทำอยู่จริงประมาณ 10 กว่าคน แต่ก็ยังมีอีกหลายๆกลุ่มเหมือนกันที่รวมตัวกันทอผ้าไหมลายเอกลักษณ์ของ จ.สุรินทร์ จริงๆ คือ ลายอันปรม ลายโฮล แต่ตอนนี้มีการประยุกต์ให้ทันสมัย เป็นลายรูปนกฟีนิกซ์ ลายรูปนกยูง เน้นสีธรรมชาติ ผ้าโสร่ง ผ้าขาวม้า
ถือเป็นอาชีพเสริมหลังฤดูการทำนา คนเฒ่า คนแก่ ก็จะมาช่วยลูกหลายสาวไหม หรือ “ปั่นไหม” หากสนใจผลิตภัณฑ์ของกลุ่มทอผ้าไหมบ้านหนองยาง สามารถโทรศัพท์ติดต่อได้ที่ นางอุราพร รัตนวงศ์ทอง ประธานกลุ่มทอผ้าไหมบ้านหนองยาง หมายเลข 086-120-2115
ส่วนนายธนิต กล่าวว่า “บ้านหนองยาง” แห่งนี้ มีเอกลักษณ์หนึ่งเดียวในโลกคือการทำ “ผ้าไหมลายราชวัตร” ชาวบ้านได้พากันปลูกหม่อน เลี้ยงไหม ทอเส้นไหมเอง แล้วมาดำเนินการทอเป็นเส้น เป็นผ้าไหม เป็นผืน “ทำมือ” ทุกขั้นตอน โดยจะมีลวดลายแปลกๆใหม่ๆ ซึ่งทางกลุ่มแห่งนี้ไปศึกษาแลกเปลี่ยนระหว่างกลุ่มทอผ้าไหมต่างๆในเครือข่ายกัน และหน่วยงานราชการได้มีสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอลำดวนเข้ามา ส่งเสริม และให้การสนับสนุน นำผ้าไปทดสอบ เพื่อให้ได้มาตรฐาน
“ปีแรกที่กลุ่มทอผ้าไหมบ้านหนองยางเข้าไปได้มาตรฐาน OTOP ระดับ 4 ดาว ได้รับการเชิญให้ไปออกบู๊ธจำหน่าย ยังจังหวัดต่างๆทั่วประเทศไทย และกรุงเทพฯ ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืน เสริมรายได้ให้กับชุมชน หลังฤดูกาลทำนา ของดีวิถีลำดวน คือ ผ้าไหม ผมได้ดำเนินการส่งเสริมทั้ง 5 ตำบล นอกจาก ต.ตรำดม ยังมี ต.อู่โลก ลำดวน โชกเหนือ และตำบลต่างๆที่พี่น้องชาวบ้านได้ดำเนินการในเรื่องทอผ้าไหมหลังฤดูการทำนา หลังเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว ทุกพื้นที่เป็นรายได้เสริม” นายธนิต กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี