พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรมให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ถึงการตรวจสอบการทุจริตโครงการก่อสร้างสนามฟุตซอลโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ในภาคอีสาน ว่า เป็นผลมาจากการจัดตั้งศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ซึ่งดึงความร่วมมือของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) มาร่วมตรวจสอบกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ(ป.ป.ท.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)

ส่วนข้าราชการครูที่ออกมาปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตนั้นจะต้องนำหลักฐานไปชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาในชั้น เพราะข้อมูลในชั้นการตรวจสอบพบหลักฐานการเซ็นชื่อในขั้นตอนต่าง ๆ ของข้าราชการครู ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจึงต้องไปชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาว่าเมื่อรู้ว่าไม่ถูกต้องเหตุใดจึงเซ็นชื่อ เซ็นชื่อเพราะถูกใครบังคับ ต้องพูดให้ชัดเจนซึ่งจะทำให้ได้ข้อมูลที่เชื่อมโยงไปถึงผู้อยู่เบื้องหลัง

“ยอมรับว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับโครงการดังกล่าวเป็นปัญหาเชิงระบบ แต่คดีต้องดำเนินการตามพยานหลักฐานในชั้นนี้ป.ป.ท.พบหลักฐานการเซ็นรับรองในขั้นตอนต่าง ๆ ของข้าราชการครู และบริษัทเอกชนที่เป็นผู้ประกอบการ จึงต้องส่งเรื่องให้ป.ป.ช.ไต่สวน ส่วนกรณีสพฐ.ต้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเพื่อเอาผิดวินัยตามคำสั่งคสช.ที่ 69 ซึ่งเบื้องต้นเฉพาะในพื้นที่จ.นครราชสีมา มีข้าราชการครูที่มีส่วนเกี่ยวข้อง 727 คน”รมว.ยุติธรรมระบุ

วันเดียวกันนายกมล รอดคล้าย เลขาธิการ สพฐ.เข้าหารือกับปปช. ถึงการป้องกันการทุจริต ซึ่งนายกมลให้สัมภาษณ์ในเวลาต่อมาว่า เป็นการหารือทั่วๆไป เพื่อขับเคลื่อนตามยุทธศาสตร์ชาติ เกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

และขอยืนยันว่าไม่ได้มีการนำกรณีโครงการจัดซื้อจัดจ้างสนามฟุตซอล เข้าหารือครั้งนี้ แต่จากข้อมูลที่ทราบขณะนี้ ปปท. พบว่ามีรายชื่อบุคคลที่อาจเกี่ยวข้องกว่า 700 คน แต่ต้องรอข้อมูลสรุปจาก ป.ป.ท. ก่อน สพฐ.จึงจะดำเนินการตามคำแนะนำของ ป.ป.ท. โดยเบื้องต้น สพฐ. ให้ทุกพื้นที่ที่พบปัญหารายงานข้อมูลเข้ามายังส่วนกลาง ควบคู่กับการลงพื้นที่ของ สพฐ. และขอให้รายงานข้อมูลที่แท้จริงเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ

ด้านนายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า กรณีดังกล่าว หากเกี่ยวข้องกับข้าราชการระดับสูง และถูกร้องเรียนมา ป.ป.ช. สามารถกันพยานได้ หากให้การที่เป็นประโยชน์ และนำไปสู่การดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องที่แท้จริง

ส่วนความเคลื่อนไหว ที่สำนักงานตรวจสอบพิเศษ ภาค 4 สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายธีระศักดิ์ วิริยะกมลพันธ์ ผอ.สำนักตรวจสอบพิเศษภาค4 ได้เตรียมพร้อม

ทีมเจ้าหน้าที่วิศวกร และชุดสืบสวนสอบสวนสำนักตรวจสอบพิเศษภาค 4 ร่วมกับเจ้าหน้าที่โยธาและผังเมืองจังหวัดนครราชสีมา ในการนำเครื่องเครื่องแรงรับแรงอัดตรัย และเครื่องแสกน ลงพื้นที่ตรวจสอบสนามฟุตซอล 16 โรงเรียน ในพื้นที่ อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา เพื่อทำการตรวจหาความหนาแน่นของพื้นที่คอนกรีต ตรวจสอบโครงเหล็กต่างๆ ของสนามฟุตซอล ว่าได้ตามมาฐานหรือไม่

โดยมีกำหนดลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมกันในวันที่ 3 ถึง 6 พฤศจิกายน 2557 เพื่อนำผลการตรวจสอบที่ได้มานั้นนำไปประกอบกับพยานหลักฐานเดิมที่มีอยู่ให้มีให้ครบถ้วนมากยิ่งขึ้น

ผอ.สำนักตรวจสอบพิเศษภาค 4 สตง.ยังให้สัมภาษณ์ ด้วยว่า ขณะที่การประสานให้ผู้บริหารบริษัทที่ได้เข้าร่วมการยื่นซองประมูล มาชี้แจงซึ่งมีแค่ 1บริษัทที่นัดมาชี้แจงในวันที่30ตุลาคม ส่วนอีก1บริษัท ไม่สามารถติดต่อได้

นายสำเริง บุญโต รักษาราชการแทน ผอ.สพม.33 กล่าวว่า ได้แต่งตั้งคณะกรรมการ 3 คน ออกไปตรวจสอบสนามฟุตซอลที่ ร.ร.ท่าตูมประชาเสริมวิทย์ ร.ร.พรมเทพพิทยาคม อ.ท่าตูม และ ร.ร.เมืองบัววิทยา อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ สนามทั้ง 3 แห่ง ได้งบดำเนินการแห่งละ 1,989,900 บาท มีการสอบราคาเป็นไปอย่างถูกต้อง สภาพสนามและอุปกรณ์ของทั้ง 3 แห่ง ยังใช้การได้ดี เด็กนักเรียนได้มีสนามฝึกซ้อม และยังให้บริการแก่หน่วยงาน และชุมชนได้เป็นอย่างดี

กระนั้นก็ตามมีข้อสังเกตเพียงว่า พื้นสนามทั้ง 3 แห่งในบางจุด มีการแตกหักแต่เป็นการแตกหักเพียงบางจุด ไม่กระทบต่อการใช้งาน ซึ่งสาเหตุเกิดจากการใช้งานมา 2 ปีแล้ว และสนามทั้ง 3 แห่งอยู่ในที่โล่งแจ้งต้องได้รับผลกระทบจากแดดและฝนเป็นประจำ เชื่อว่าไม่มีการทุจริตเกิดขึ้น

อีกประเด็นหนึ่งพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว. กล่าวถึงกรณีมีเจ้าหน้าที่ทหาร เข้าไปพัวพันการลักลอบของผิดกฎหมายบริเวณตามแนวชายแดนว่า เรื่องนี้ พล.อ.อดุมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก ได้เน้นย้ำชัดเจนแล้วว่าไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปยุ่งเกี่ยว เมื่อถามว่า คนที่ให้ข้อมูลเป็นถึงอธิบดีกรมศุลกากรจะกระทบหลายหน่วยงานจำเป็นจะต้องมาพูดคุยหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ในส่วนของอธิบดีกรมศุลกากรก็จะต้องทำรายงานขึ้นมาว่าใครทำอะไร ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าทุกส่วนราชการมีทั้งคนดีและไม่ดี คนไม่ดีต้องถูกลงโทษ

ขณะที่นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดเผยถึงการปราบทุจริตของกรมศุลกากร ว่า เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว แม้ว่าจะมีทหารเข้าไปเกี่ยวข้องในการกระทำผิด เช่น กรณีของการขนสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์และของหนีภาษี ที่อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก็ต้องดำเนินการเอาผิด ซึ่งเรื่องดังกล่าวมีผู้ใหญ่ในกองทัพรับทราบปัญหาพร้อมที่จะช่วยแก้ไขปัญหา เพราะยังมีอีกหลายแห่งที่มีทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับการขนสินค้าข้ามแดนไม่ถูกต้องกฎหมายของกรมศุลกากร ไม่ใช่ที่อำเภออรัญประเทศแห่งเดียว

“ผมเคยบอกมาตลอดว่า การทุจริตในกรมศุลกากรเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทุกวันในอดีตที่ผ่านมา เพราะมีการร่วมมือกันของคนมีสี คือ ทหาร ผู้มีอิทธิพล และเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร หากสามคนนี้ร่วมมือกันเมื่อไร ก็แก้ปัญหาทุจริตในกรมศุลกากรไม่ได้” นายสมหมาย กล่าว

ด้านนายสมชัย สัจจงพษ์ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า เมื่อวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ปปท.เข้ามาหารือและขอข้อมูลกรณีการขนสินค้าข้ามแดนไม่ถูกต้อง ที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อดำเนินการเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ทหาร และข้าราชการของกระทรวงมหาดไทย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะการแก้ไขปัญหาทุจริตเป็นเรื่องที่ทุกหน่วยต้องช่วยกัน กรมศุลกากรทำฝ่ายเดียวไม่ได้

วันเดียวกันพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทยได้กำหนดโครงการเน้นหนัก 8 โครงการ ประกอบด้วย 1. โครงการตามรอยเท้าพ่อ 2. โครงการคนไทยรักกัน 3. โครงการเมืองสวยน้ำใส 4. โครงการเมืองไทยน่าอยู่ 5. โครงการดำรงธรรม ดำรงไทย 6. โครงการมหาดไทย ใสสะอาด 7. โครงการลดความเหลื่อมล้ำ แบ่งปันความสุข และ 8. โครงการเรียนรู้ค่านิยมไทย ก้าวไกลสู่อนาคต ดังนั้น ตนจึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานติดตามและรายงานผลการดำเนินงานขึ้น มาแล้ว หากตรวจสอบพบหน่วยงานใดมีพฤติการณ์ใช้จ่ายงบประมาณในทางที่มิชอบด้วยกฎหมาย หรือพบการทุจริตทำให้ราชการเสียหายจะต้องถูกลงโทษอย่างเฉียบขาด