วันอาทิตย์ ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2568
อากาศเมืองไทยทำท่าจะใกล้วิปริตเต็มแก่
ช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา หลายคนอาจจะมีความสุขกับ “ลมหนาว” ที่พัดเข้ามา เพราะก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะหันหน้าไปทางไหน ก็ต้องเจออากาศร้อนชนิดที่เรียกได้ว่า “ร้อนตับแลบ”
อย่างไรก็ตาม ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น อาจต้องถือเป็นสัญญาณอันตรายที่เราทุกคนต้องพึงสังวรกันไว้ถึงมหันตภัยอันเป็นผลกระทบจากปัญหาภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
หลายคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาของปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เพราะหนาวครั้งนี้ก็เป็นที่รับรู้กันอยู่แล้วว่า เกิดจากการเคลื่อนตัวของความกดอากาศสูงรุนแรงจากประเทศจีนที่แผ่ลงมาถึงบริเวณเส้นศูนย์ ทำให้เกิดการปะทะกันของมวลอากาศเย็นกับมวลอากาศร้อน จนเกิดฝนตกและอุณหภูมิลดลงอย่างเฉียบพลัน
แต่โดยข้อเท็จจริง หากไล่ย้อนเวลากันดีๆ จะมองเห็นความวิปริตปรวนแปรของสภาพอากาศที่เกิดขึ้นในบ้านเรา เริ่มตั้งแต่ “ภัยแล้ง” ที่รุมถล่มประเทศไทยชนิดข้ามปีมาตั้งแต่ปี 2557 ฤดูฝนมาอย่างล่าช้าจนเกษตรกรแทบไม่มีน้ำเอาไว้เพาะปลูก ขณะที่ฤดูหนาวที่ควรจะมาตั้งแต่ท้ายปี 2558 ก็แทบจะไม่มีเค้าความเย็นให้เห็น
ครั้นพอถึงตอนนี้ซึ่งใกล้เป็นช่วงเวลาที่ย่างเข้าสู่ช่วงฤดูร้อน อุณหภูมิก็ลดลงแบบเฉียบพลันชนิดที่ทำเอาคนไทยหลายคนฝันถึงหิมะตกในบ้านเราทีเดียว
เหตุลักษณะนี้ไม่ได้เกิดขึ้นที่ประเทศไทยเท่านั้น บรรดาเพื่อนบ้านของเราอย่าง เวียดนาม ลาว พม่า ก็ต่าง
ต้องเผชิญหน้ากับอากาศหนาวรุนแรงเช่นเดียวกัน หรืออย่าง จีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา ก็เกิดขึ้นอย่างหนักหน่วง โดยเฉพาะอเมริกาที่บางพื้นที่ซึ่งปกติมักไม่ค่อยพบหิมะตกลงมาอย่างหนักเลยทีเดียว
ลักษณะอากาศที่สวิงสวายเช่นนี้ ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ต่างออกมาให้ความเห็นคล้ายๆ กันว่า น่าจะเกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์เอลนินโญ่และลานินญ่า ซึ่งเป็นผลพวงจากภาวะโลกร้อนและทำให้อุณหภูมิของโลกเกิดความแปรปรวนเช่นในทุกวันนี้
วันนี้จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราทุกคนต้องหันมาใส่ใจเรื่องป้องกันไม่ให้เกิดการ “ซ้ำเติม” ปัญหาโลกร้อนที่รุนแรงอยู่แล้วให้รุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก
อย่างที่เราทราบกันดีว่า ภาวะโลกร้อนเกิดจากการเกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ คาร์บอนมอนนอกไซด์ และก๊าซเรือนกระจกอื่นๆ มากขึ้นในชั้นบรรยากาศ ซึ่งก๊าซเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็ล้วนเกิดจาก “น้ำมือ” ของเราทุกคนทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม เช่น การก่อไอเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมและยานพาหนะต่างๆ การเผาขยะ การใช้สารเคมี ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้เราทุกคนสามารถช่วยกัน “ลด” ปัญหาลงได้ด้วยตัวเราเอง เช่น หยุดใช้ถุงพลาสติก แก้วน้ำพลาสติก กล่องโฟม เพื่อลดการก่อขยะ การเลิกพฤติกรรมเสียบปลั๊กหรือเปิดไฟข้ามคืน หรือแม้กระทั่งการใช้รถคันเดียวร่วมทางกันแทนการต่างคนต่างขับ ต่างคนต่างเดินทาง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถหาได้ไม่ยาก แค่คลิกเข้าไปค้นหาในอินเตอร์เนตก็จะพบข้อมูลชนิดล้นทะลัก และที่สำคัญล้วนเป็นเรื่องที่เราทุกคนสามารถทำได้แบบไม่ยากเย็น
ปัญหาโลกร้อนเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องร่วมมือกันครับ ยิ่งปล่อยไว้ยิ่งอันตราย และยิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้กับชีวิตเราทุกคน
มะลิลา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี