กรุงเทพมหานคร เริ่มดำเนินโครงการก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล. และประตูระบายน้ำ คลองลาดพร้าว คลองบางบัว คลองถนน คลองสองและคลองบางซื่อ จากบริเวณเขื่อนเดิมอุโมงค์ยักษ์พระรามเก้า-รามคำแหง ไปทางประตูระบายน้ำคลองสองสายใต้ ในจุดที่ไม่มีสิ่งปลูกสร้างและบ้านเรือนรุกล้ำ ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร หรือร้อยละ 20 ของโครงการ ก่อนจะดำเนินการต่อเนื่องในชุมชนที่พร้อมเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ ต่อไปให้ครบตลอดระยะทางรวม 22 กิโลเมตร
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า รัฐบาลและกรุงเทพมหานครให้ความสำคัญเรื่องการระบายน้ำโดยมีโครงการก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล.และประตูระบายน้ำคลองลาดพร้าว-คลองสองฯ ระยะทาง 22 กิโลเมตร ซึ่งได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้ว ยอมรับในพื้นที่ก่อสร้างมีความเกี่ยวพันกับประชาชนผู้พักอาศัยริมคลอง ซึ่งกทม.ขอบคุณทุกภาคส่วนที่บูรณาการร่วมกัน ตนขอยืนยันว่าทุกข์สุขของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญที่สุด กทม.ยินดีรับฟังพี่น้องประชาชนและขอขอบคุณผู้อาศัย 2 ฝั่งคลอง ที่ได้เสียสละให้โครงการที่สำคัญต่อส่วนรวมเดินหน้าไปได้ ตั้งเป้าหมายใน 4 ปี จะดำเนินการก่อสร้างเสร็จตลอดระยะทาง สิ่งสำคัญทั้ง 2 ฝั่งคลอง จะต้องไม่มีสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำเพราะจะกีดขวางทางระบายน้ำ และเมื่อแล้วเสร็จจะส่งผลพลอยได้ริมฝั่งคลองทั้ง 8 คลอง ที่จะมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวอย่างมากในอนาคต
ทั้งนี้ ส่วนที่เริ่มดำเนินการก่อสร้างก่อนในพื้นที่ไม่มีสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำ 8 กิโลเมตร จะใช้เวลาก่อสร้าง 8-10 เดือน โดยกำหนดแนวเขตก่อสร้างในระยะ 25-38 เมตร ตามสภาพของคลองตามธรรมชาติเดิมก่อนถูกรุกล้ำ โดยคำนึงถึงประสิทธิภาพในการระบายน้ำ
เป็นสำคัญ โดยกรุงเทพมหานครได้ลงนามสัญญาจ้างบริษัท ริเวอร์ เอนจิเนียริ่ง จำกัด ดำเนินการโครงการก่อสร้างเขื่อนฯ ตลอดแนวคลองทั้งหมด 2 ฝั่งรวมประมาณ 45 กิโลเมตร วงเงิน 1,645,000,000 บาท ตามแผนงานจะแล้วเสร็จทั้งหมดในปี 2562 ระหว่างนี้ จะดำเนินแผนการจัดหาที่อยู่อาศัย และการประชาสัมพันธ์ควบคู่ไปด้วย โดยประสานความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กองทัพบก กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรมธนารักษ์ กรมชลประทาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
ส่วนแผนการรื้อย้ายชุมชนนั้น ในเดือนมีนาคม 2559 จะเริ่มรื้อย้ายชุมชนที่รุกล้ำริมคลองในพื้นที่เขตจตุจักร ได้แก่ ชุมชนวังหิน (113 หลัง) และชุมชนกรมวิทยาศาสตร์ (113 หลัง) โดยจะรื้อย้ายขยับขึ้นจากแนวคลองระยะแรก 40-50 หลัง และทยอยดำเนินการจนครบ จากนั้นในเดือนเมษายน 2559 จะเข้ารื้อย้ายชุมชนที่รุกล้ำริมคลองในพื้นที่เขตดอนเมือง คือ ชุมชนร่วมมิตรแรงศรัทธา (370 หลัง) ชุมชนในพื้นที่เขตสายไหม ได้แก่ ชุมชนเพิ่มสินร่วมใจ (46 หลัง) ชุมชนศาลเจ้าพ่อสมบุญ 54 (66 หลัง) ชุมชนเลียบคลองโซน 1 (301 หลัง) ชุมชนเลียบคลองโซน 2 (195 หลัง) ชุมชนเลียบคลองโซน 3 (180 หลัง) และชุมชนในพื้นที่เขตห้วยขวาง ได้แก่ ชุมชนร่วมใจพิบูลย์ 2 (224 หลัง) ชุมชนริมคลองลาดพร้าวประชาอุทิศ (82 หลัง) ส่วนชุมชนในเขตอื่นๆอยู่ระหว่างทำแผนรื้อย้าย
เมื่อโครงการก่อสร้างฯ แล้วเสร็จ จะช่วยเพิ่มพื้นที่รองรับน้ำฝนและการระบายน้ำได้มากขึ้นกว่าร้อยละ 80 หรืออีกกว่าเท่าตัว ทำให้ง่ายต่อการขุดลอกทำความสะอาดคลองเพื่อเปิดทางน้ำไหล ป้องกันการทรุดตัวของตลิ่ง และแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำในคลองรวมถึงทัศนียภาพและสิ่งแวดล้อมสองฝั่งคลอง ซึ่งนอกจากจะช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯ ต่อเนื่องไปยังจ.ปทุมธานีแล้ว ยังสามารถใช้เป็นเส้นทางสัญจรและทางจักรยาน เพิ่มทางเลือกในการเดินทาง เชื่อมสู่ระบบขนส่งมวลชน ล้อ ราง เรือ ในปัจจุบันและอนาคตได้สะดวกยิ่งขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี