วันอังคาร ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2568
หลังจากการลงพื้นที่ จังหวัดอุทัยธานี ของนายกรัฐมนตรี “ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เพื่อเป็นประธานในการแจกเอกสารสิทธิที่ทำกินให้กับเกษตรกร ที่ไม่มีที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย 3 กลุ่ม คือ เกษตรกรผู้บุกรุกทำกินในพื้นที่ทุ่งแฝก ตำบลระบำ อำเภอลานสักเกษตรกรผู้บุกรุกทำกินในพื้นที่วนอุทยานห้วยคต อำเภอห้วยคต และกลุ่มที่สามคือเกษตรกรผู้ยากไร้ที่ไม่มีที่ดินทำกินและหรือที่อยู่อาศัย ในจังหวัดอุทัยธานีและจังหวัดอื่นๆ ซึ่งขึ้นทะเบียนไว้ตั้งแต่ปี 2553-2558 เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
ต้องบอกว่าการลงพื้นที่ ในครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดเกมปิดข่าวการปรับเปลี่ยน ครม. ที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่า อาจมีการปรับ ครม. ในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ ที่มี พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ นั่งในตำแหน่งรัฐมนตรี เนื่องจากทำงานไม่เข้าตา เพราะทุกครั้งที่มีการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ในส่วนของรัฐมนตรีที่โลกลืม มักมีชื่อกระทรวงเกษตรฯ ติดอันดับต้นๆ ที่ไม่ค่อยมีผลงาน จึงมีข่าววงลึกว่า อาจมีการปรับ ในส่วนเก้าอี้รัฐมนตรีเกษตรฯ ด้วยแทบทุกครั้งซึ่งอยู่ๆนายกรัฐมนตรี “ประยุทธ์” ก็ออกโรงเอง กลางเวที ที่จังหวัดอุทัยธานี ว่า จะไม่มีการปรับครม.ในส่วนของกระทรวงเกษตรฯแน่นอนอย่างไรรัฐมนตรีเกษตรฯยังคงต้องชื่อ “ฉัตรชัย”ต่อไป ถือเป็นการการันตีจากเจ้าสำนักว่า“คุณได้ไปต่อ” แม้ใครหลายคนจะโหวตให้ออกจากบ้านก็ตาม
จากนี้ไปต้องบอกว่า น่าจะเป็นโอกาสดี ที่รัฐมนตรี “ฉัตรชัย” ต้องปรับขบวนทัพการทำงานครั้งใหม่และคิดใหม่ เพื่อให้งาน “เกษตร” เดินหน้าไปให้ได้เท่าที่ควรจะเป็น เพราะปัญหาเรื่องปากท้องจากนี้ไป ต้องบอกว่าน่าจะเป็นงานหนักไม่น้อย
ถึงเวลานี้งานรับผิดชอบของกระทรวงเกษตรฯ หากพูดตามตรง มันหนักหนาไม่น้อย เพราะขณะนี้เข้าสู่ภาวะภัยแล้งเต็มตัว ที่ปีนี้แล้งไปทุกหย่อมหญ้า ล่าสุด จากการประเมินสถานการณ์พบว่า มีพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ที่เสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำ มีกว่า152 อำเภอ ซึ่ง 3 เดือนจากนี้ไป สถานการณ์ภัยแล้งจะหนักมาก ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคมต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษจะไม่ให้ขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้ โดยขณะนี้มีบางพื้นที่ได้ปล่อยน้ำเป็นรอบเวร เขื่อนแม่กวงแม่งัด จ.เชียงใหม่ ปล่อยน้ำอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ครั้งละ 1.2 ล้านลบ.ม. เขื่อนทับเสลา วันละ 8 หมื่นลบ.ม. เขื่อนลำตะคอง วันละ 5 แสนลบ.ม. เขื่อนอุบลรัตน์ 8 แสนลบ.ม. เขื่อนลำพระเพลิง ลำแซะ หยุดการระบายสลับกับการปล่อยน้ำครั้งละ 1.7 แสนลบ.ม. ในปริมาณที่เพียงพอสำหรับอุปโภคบริโภคเท่านั้น
นั้นเป็นเพียงเรื่องของการรับมือภัยแล้ง ที่เป็นปัญหาเฉพาะหน้า ไม่รวมเรื่องปัญหาสินค้าเกษตร อย่างยางพารา ที่เป็นช่วงพักยก เนื่องจากเป็นช่วงฤดูปิดกรีด ที่กำลังจะเปิดกรีดเร็วๆ นี้ และยังมีเรื่องมันสำปะหลังข้าว และสินค้าอื่นๆ ที่กำลังตามมา ที่สำคัญ
ยังมีเรื่องคาราคาซังอีกหลายเรื่องที่ต้องสังคายนาไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสหกรณ์ ที่นายกรัฐมนตรี “ประยุทธ์” หวังจะใช้เป็นกระบวนการแก้ปัญหาภาคเกษตรงานนี้คงเป็นเรื่องที่ท่านรัฐมนตรี “ฉัตรชัย”ต้องปรับทิศเปลี่ยนทางกันครั้งใหญ่โดยเฉพาะนโยบาย single command ที่ท่านรัฐมนตรี หวังจะให้หน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯ ทำงานแบบบูรณาการในระดับจังหวัด โดยมอบหมายให้เกษตรและสหกรณ์จังหวัด เป็น “หัวหน้าทีม” ที่สามารถสั่งการในการแก้ปัญหา ภาคการเกษตรในพื้นที่ทั้งหมด
วันนี้ต้องบอกเท่าที่ฟังมาเจ้าหน้าที่ ทั้งระดับเล็กจนถึงสูงสุด พูดตรงกันว่า นโยบายของรัฐมนตรี ดี แต่ทำจริงไม่ได้
เพราะหนังสือสั่งการไปนั้นมันแค่ขอความร่วมมือหน่วยงานในกระทรวงเกษตรฯ ในพื้นที่ ซึ่งว่ากันตรงๆ ทุกหน่วยก็ต้องทำตามภาระที่กรมตนเองมอบหมาย สุดท้ายทุกคนต้องถามต้นสังกัดเอาไง “ครับนาย” ชัดๆ คือ ณ เวลานี้ คำสั่งของท่านรัฐมนตรีสั่งการไป หากเปรียบก็แค่มอบนกหวีดให้กับ “หัวหน้าทีม single command” คอยเป่าให้หน่วยงานที่ดูแลเรื่องเกษตรในพื้นที่ต้องเดินตาม ซึ่งคงหวังยากในความร่วมมือ มันเลยทำให้งานสะดุด มาถึงขั้นนี้หากจริงใจจะแก้ปัญหาจริงต้องกล้าที่จะปรับโครงสร้าง และติดดาบให้กับหัวหน้าทีม ไม่ใช่แค่นกหวีด ส่วนจะทำอย่างไรคงต้องไปว่ากันเอง นะขอรับ
ราชดำเนิน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี